COVID-19

อัปเดตอาการโควิดล่าสุด! XBB.1.16 ติดง่ายแค่ไหน ใครเป็นกลุ่มเสี่ยง?

อัปเดตอาการโควิดล่าสุด! XBB.1.16 ติดง่ายแค่ไหน ต่างจากสายพันธุ์เดิมอย่างไร ใครเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรง

โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา ระบุว่า โควิดสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16 หรือ อาร์คตูรุส (Arcturus) เป็นสายพันธุ์ย่อยของโควิดสายพันธุ์ “โอไมครอน” ที่อยู่ในการเฝ้าระวังขององค์การอนามัยโลก ขณะนี้พบการระบาดของสายพันธุ์นี้เพิ่มขึ้นทั่วโลกโดยเฉพาะในประเทศอินเดีย

อาการโควิดล่าสุด

โควิดสายพันธุ์ XBB.1.16 มีอาการอย่างไร?

อาการโควิดล่าสุดสายพันธุ์นี้ นอกจากมีไข้สูง ไอ เจ็บคอ น้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ยังพบมีรายงานการเกิดเยื่อบุตาอักเสบสูงขึ้น ทำให้ผู้ป่วยอาจมีอาการตาแดง เคืองตา ขี้ตามาก ซึ่งเป็นอาการที่แตกต่างจากสายพันธุ์อื่น ๆ ก่อนหน้านี้

ติดง่ายกว่าสายพันธุ์เดิมหรือไม่?

โควิดสายพันธุ์ XBB.1.16 มีการกลายพันธุ์บริเวณหนามของไวรัส เพิ่มขึ้น 3 ตำแหน่งคือ E180V, K478R และ S486P ทำให้สามารถเกาะติดเซลล์ของมนุษย์ได้ดีกว่าสายพันธุ์เดิม อีกทั้งพบว่า XBB.1.16 สามารถแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าสายพันธุ์โอมิครอนเดิม 1.5-2 เท่า

อาการโควิดล่าสุด

ใครเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรง?

ผู้ป่วยในกลุ่ม 608 คือ กลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัวในกลุ่ม 7 โรค ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป รวมถึงกลุ่มคนที่ไม่ได้รับวัคซีนและไม่เคยติดเชื้อโควิดมาก่อน เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อและเกิดอาการรุนแรง

ดังนั้นผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงเหล่านี้ หากตรวจพบเชื้อควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาและพิจารณารับยาต้านไวรัสโดยทันที

XBB.1.16 แพร่ระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น?

นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า โควิดสายพันธุ์ XBB.1.16 สามารถแพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ และคาดว่าจะกลายเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดไปทั่วโลกต่อจาก XBB.1.5 โดยยกข้อมูลการศึกษาของ Weiland J ที่พบว่า XBB.1.16 มีอัตราการแพร่ระบาดจากคนสู่คนได้สูงกว่าโอมิครอน สายพันธุ์ BA2.75, BA.5, XBB.1

อาการโควิดล่าสุด
นพ.ธีระ วรธนารัตน์

สอดคล้องกับผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยเยล ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่พบว่า XBB.1.16 มีสมรรถนะในการแพร่สูงกว่า XBB.1 และ XBB.1.5 อย่างชัดเจน แต่มีระดับการดื้อต่อภูมิคุ้มกันพอ ๆ กัน ดังนั้นจึงคาดว่าสมรรถนะการแพร่ที่สูงขึ้นของ XBB.1.16 อาจมาจากการกลายพันธุ์ในส่วนของโปรตีนหนามที่แตกต่างไปจากสายพันธุ์ก่อนหน้า โดย XBB.x ถือเป็นสายพันธุ์ที่ดื้อต่อภูมิคุ้มกันมาก อีกทั้งยังดื้อต่อแอนติบอดีที่ใช้รักษาด้วย

เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยแห่งโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่ออกมาเปิดเผยผลการศึกษาว่า โควิด XBB.1.16 สามารถแพร่เชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์ XBB.1 และ XBB.1.5 ราว 1.17-1.27 เท่า และยังมีฤทธิ์ต้านทานแอนติบอดีโควิด 19 ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้น โควิด XBB.1.16 จึงมีศักยภาพที่จะแพร่ระบาดไปทั่วโลกในอนาคตอันใกล้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK