COVID-19

สธ. เผย โควิดสายพันธุ์ ‘XBB.1.16’ ยังไม่พบในไทย หลังระบาดเร็วในอินเดีย

สธ. เผย โควิดสายพันธุ์ “XBB.1.16” ยังไม่พบในไทย หลังระบาดเร็วในอินเดีย พร้อมเร่งฉีด LAAB กลุ่มเสี่ยงให้เสร็จ พ.ค.นี้

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์โรคโควิด 19 ว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ทั่วโลก มีแนวโน้มพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตลดลง เช่นเดียวกับประเทศไทย

โดยข้อมูลวันที่ 19-25 มีนาคม 2566 พบผู้ป่วยรายใหม่ 150 ราย เฉลี่ย 21 รายต่อวัน โดยเป็นผู้ป่วยปอดอักเสบ 30 ราย ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 19 ราย และผู้เสียชีวิต 6 ราย เฉลี่ย 1 รายต่อวัน อย่างไรก็ตาม ผู้เสียชีวิตทั้งหมดยังเป็นกลุ่ม 608 และส่วนใหญ่ไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับเกิน 3 เดือน

XBB.1.16

เร่งฉีด LAAB กลุ่มเสี่ยง ให้เสร็จเดือนพ.ค.

ส่วนภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) ซึ่งฉีดไปแล้วกว่า 6 หมื่นราย พบว่ามีความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง ที่สำคัญ ช่วยลดอัตราเสียชีวิตได้ถึง 48% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือ LAAB และในกลุ่มเสี่ยงที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากโรคโควิด 19 พบว่าช่วยลดการเสียชีวิตลงได้ประมาณ 1 ใน 4

จึงให้แจ้งหน่วยงานในพื้นที่เร่งรัดการฉีด LAAB ให้กับกลุ่มเสี่ยงในบ้านพักคนชรา ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง ผู้ป่วยฟอกไต โดยให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกเขตสุขภาพ กำกับติดตามให้เสร็จก่อนช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ พร้อมกับรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด 19 ในกลุ่มอื่นควบคู่กันไป

สถานการณ์โรคโควิด 19 ขณะนี้เริ่มมีลักษณะใกล้เคียงกับโรคไข้หวัดใหญ่ คือจะมีการระบาดในช่วงหน้าฝนเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน จึงให้มีการทบทวนมาตรการทั้งการเฝ้าระวังสอบสวนโรค การเฝ้าระวังสายพันธุ์แนวทางการรักษา รวมถึงการฉีดวัคซีนที่จะเน้นฉีดในกลุ่มเสี่ยงจำนวน 1-2 เข็ม ซึ่งคณะกรรมการวัคซีนจะพิจารณาออกแนวทางคำแนะนำให้เหมาะสมต่อไป

XBB.1.16

XBB.1.16 ยังไม่พบในไทย แต่ XBB.1.5 และ XBB.1.9.1 มีแนวโน้มสูงขึ้น

นายแพทย์โอภาส กล่าวว่า สำหรับการเฝ้าระวังสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในประเทศไทย สายพันธุ์ที่พบมากสุดยังเป็น BA.2.75 แต่มีแนวโน้มลดลง ขณะที่สายพันธุ์ลูกผสม XBB.1.5 และ XBB.1.9.1 มีแนวโน้มสูงขึ้น

ส่วนสายพันธุ์ XBB.1.16 ที่พบในประเทศอินเดียและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีตำแหน่งกลายพันธุ์ที่สัมพันธ์กับความสามารถในการหลบภูมิคุ้มกัน ทั้งจากการติดเชื้อธรรมชาติและจากวัคซีน มีการเติบโตสูงกว่าสายพันธุ์อื่นๆ แต่ยังไม่มีหลักฐานว่าจะส่งผลต่อความรุนแรงของโรค และผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามีแนวโน้มที่จะกลายมาเป็นสายพันธุ์หลักในที่สุด ขณะนี้ยังไม่พบในประเทศไทย

ทั้งนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และเครือข่ายห้องปฏิบัติการของประเทศไทย ยังคงเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

XBB.1.16

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo