COVID-19

ข่าวดี!! คนไทย 82% ยังป้องกันตนเอง แม้โควิดจะเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง

อนามัยโพล เผยคนไทย 82% ยังคงดูแลตัวเองและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าโรคโควิด-19 จะถูกลดระดับลงเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากประกาศยกเลิกโรคโควิด-19 จากการเป็นโรคติดต่ออันตราย และกำหนดให้เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง รวมถึงมีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น

โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง

กรมอนามัย ได้มีการเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชนด้วยเครื่องมือ อนามัยโพล เพื่อสำรวจพฤติกรรมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม (ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.-31 ธ.ค. 2565) มีผู้ตอบจำนวน 10,263 คน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคกันอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ พบว่า ประชาชน 82.4% ยังคงทำตามมาตรการป้องกันโรค (สวมหน้ากาก ล้างมือ) เหมือนเดิม และ 12.9% ดูแลตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่ 4.7% ดูแลตนเองน้อยลง

อนามัยโพล

เมื่อแยกเป็นรายพฤติกรรม พบว่า

  • 91.8% สวมหน้ากากเมื่อป่วย หรือมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
  • 91.5% สวมหน้ากากเมื่ออยู่ในสถานที่แออัด/พื้นที่ปิด/อากาศไม่ถ่ายเท
  • 91% ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร หลังใช้ส้วม
  • 79% หมั่นทำความสะอาดบ้าน/ของที่ใช้ร่วมกัน เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได
  • 72% ตรวจ ATK เมื่อมีอาการป่วยและสงสัยว่าตนเองป่วยเป็นโรคโควิด-19

 

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า แม้ว่าแนวโน้มการดูแลตัวเองส่วนใหญ่ จะเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่กลับพบว่าการสวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในที่แออัดนั้น มีแนวโน้มลดลงทุกเดือน จากเดือนตุลาคม 93.6% เดือนพฤศจิกายน 92.6% และเดือนธันวาคม 86.3%

ทั้งนี้ แม้ว่าโรคโควิด-19 จะลดระดับลง เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง กรมอนามัยยังขอให้ประชาชนดูแลตัวเองให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในที่ที่มีคนแออัด ล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหลังใช้ห้องน้ำ หมั่นทำความสะอาดจุดสัมผัสต่าง ๆ ภายในบ้าน

นอกจากนี้ ยังควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่แออัด พื้นที่ปิด หรือพื้นที่ที่อากาศไม่ถ่ายเท และตรวจ ATK เมื่อมีอาการที่เข้าข่ายต้องสงสัยว่าจะเป็นโรคโควิด-19 เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค และลดจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo