‘บิ๊กต่าย’ เตือน ‘โรม’ ระวังถูกฟ้องกลับ ปมแฉข้อมูล ‘นายพลตำรวจ’ เอี่ยวกาสิโน

โดย SUNITSA BOONMA 5 เมษายน 2567

“บิ๊กต่าย” เตือน “โรม” ระวังถูกฟ้องกลับ ปมแฉข้อมูล “นายพลตำรวจ” เอี่ยวกาสิโนประเทศเพื่อนบ้าน ส่วน “บิ๊กโจ๊ก” ต้องรายงานตัวภายใน 7 วัน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีกรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ “พล.ต.ต.” เข้าไปเป็นหุ้นส่วนกับบ่อนกาสิโนในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งส่งผลให้การปราบปรามขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีคนไทยจำนวนมากตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ไม่สามารถทำได้อย่างจริงจังนั้น

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า หากมีข้อมูลเกี่ยวกับข้าราชการตำรวจที่กระทำผิดก็สามารถแจ้งข้อมูล หลักฐานหลักฐานที่ชัดเจนมาได้ ซึ่งตำรวจมีกระบวนการตรวจสอบ เช่น คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) เพื่อสืบสวนและดำเนินการทั้งทางอาญาและวินัย ส่วนที่มีการระบุเป็นชื่อย่อนั้น ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับบุคคลดังกล่าวด้วย

“ย้ำว่าการให้ข้อมูลในเรื่องใดก็ตามผู้พูดต้องรับผิดชอบ หากมีหลักฐานในการร้องเรียน ก.ร.ตร.ก็พร้อมตรวจสอบ แต่หากกล่าวหาโดยไม่มีพยานหลักฐานผู้ถูกพาดพิงก็สามารถใช้สิทธิ์ดำเนินคดีตามกฎหมายได้” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว

ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามว่า ในฐานะผู้บังคับบัญชาแล้วได้มีข้อสั่งการให้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า หากมีการร้องเรียนมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะมีจเรตำรวจแห่งชาติที่จะดำเนินการตามกฎ ก.ตร. และตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ 2565 ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย อย่างไรก็ตามยอมรับว่าภาพลักษณ์ของตำรวจที่ติดลบนั้นเป็นเรื่องจริง และการมีข่าวข้าราชการตำรวจพัวพันกับสิ่งผิดกฎหมายนั้น ก็เป็นเรื่องที่ส่งกระทบกับภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะทำให้ตำรวจถูกเหมารวม แต่ยืนยันว่าข้าราชการตำรวจที่ดีนั้นมีจำนวนมาก

ส่วนกรณีที่รัฐบาลมีแนวคิดจะผลักดันบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทยนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องระดับนโยบาย ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ถ้าประกาศเป็นกฎหมาย ตำรวจในฐานะผู้ปฏิบัติก็พร้อมจะปฏิบัติตาม

เมื่อถามถึงความคืบหน้ากรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ถูกออกหมายจับในข้อหาฟอกเงิน และได้เข้ามอบตัวที่ สน.เตาปูน เมื่อวันที่ 2 เมษายน หากต้องรายงานตัวต้องรายงานตัวกับ รรท.ผบ.ตร. หรือสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยืนยันว่า การบังคับบัญชาอยู่ที่สำนักนายกรัฐมนตรีชัดเจน แต่การเป็นผู้บังคับบัญชาตามกฎหมายนั้นคือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ย้ำว่าไม่ใช่ตนเอง ซึ่งตำรวจตั้งแต่ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จเรตำรวจแห่งชาติ ลงไปจนถึงตำรวจทั้งหมด ถือเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดังนั้นการรายงานตนต้องคดีตามระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ผู้ถูกกล่าวหาและต้องคดีอาญานั้นจะต้องรายงานตนต้องคดีภายใน 7 วัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ต้องคดีอาญาต้องปฏิบัติ