รู้จัก “มะเร็งปอด” ภัยเงียบคร่าชีวิต “สารวัตรหนุ่ม” ทั้งที่ออกกำลังกาย ไม่สูบบุรี่ ต้องจากไปก่อนวัยอันควร
จากกรณี พ.ต.ต.รุ่งคุณ จันทโชติ สารวัตร (สอบสวน) กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หลังต่อสู้กับโรคมะเร็งปอด โดยเล่าถึงพฤติกรรมส่วนตัว ที่ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ชอบออกกำลังกาย ดื่มสังสรรค์บ้าง แต่ไม่สูบบุหรี่แล้วมีวันหนึ่งมีอาการปวดแขนขวา และมีอาการบวมที่คอ เมื่อไปตรวจพบว่าเป็น มะเร็งปอด ระยะลุกลามไปต่อมน้ำเหลือง และเสียชีวิต ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น อาลัย สารวัตรหนุ่ม’ เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด
วันนี้ thebangkokinsight จะพาไปทำความรู้จัก “มะเร็งปอด” มากขึ้น เพื่อรู้เท่าทันป้องกันตัวเองหีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่จะทำให้เกิดโรคนี้
รู้จักมะเร็งปอด
มะเร็งปอดมีต้นกำเนิดจากเซลล์เยื่อบุหลอดลมปอดได้รับการระคายเคืองเป็นระยะเวลานาน จึงเรียกชื่อตามต้นกำเนิดของมะเร็งได้อีกชื่อหนึ่งว่า Bronchogenic Carcinoma (Broncho แปลว่า หลอดลม Carcinoma แปลว่า มะเร็ง) ซึ่งอาจเกิดในบริเวณหลอดลมใหญ่ใกล้ขั้วปอด หรืออาจเกิดในหลอดลมแขนงเล็กๆ ส่วนปลายที่ไกลออกไปจากขั้วปอดก็ได้
หากตรวจพบมะเร็งปิดตั้งแต่ระยะเริ่มแรก จะช่วยให้มีผลการรักษาที่ดี และด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่พัฒนามากขึ้นทำให้การรักษามะเร็งปอดมีประสิทธิภาพสูงขึ้น พร้อมกับผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นด้วย
อาการผิดปกติ
โดยส่วนใหญ่มักจะมาด้วยอาการไอเรื้อรัง บางครั้งไอแบบมีเสมหะปนเลือด เหนื่อย หายใจไม่สะดวก นํ้าหนักลดมากในช่วงเวลาสั้นๆ เป็นต้น ผู้ป่วยบางคนอาจจะมาด้วยอาการทางระบบประสาท ถ้าเซลล์มะเร็งปอดแพร่กระจายไปอยู่ที่สมองหรือไขกระดูกสันหลัง เช่น อาการแขนขาอ่อนแรง ชา กลั้นปัสสาวะอุจจาระไม่ได้หรือบางคนมีอาการปวดกระดูกมากถ้าเซลล์มะเร็งปอดนั้นแพร่กระจายไปอยู่ที่กระดูก เป็นต้น
ประเภทของมะเร็งปอด
มะเร็งปอดแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ 2 ชนิด คือ ชนิดเซลล์ขนาดเล็ก (small cell lung cancer)และชนิดเซลล์ที่ขนาดไม่เล็ก (non-small cell lung cancer) ซึ่งในกลุ่มหลังนี้พบได้ 85% ของมะเร็ง ปอดทั้งหมด และในกลุ่มนี้ยังมีแยกย่อยออกเป็นชนิดต่างๆ อีกหลายชนิด เช่น squamous cell carcinoma, adenocarcinoma และอื่นๆ กลุ่มที่เป็น adenocarcinoma นั้นปัจจุบันมีการ รักษาด้วยยากลุ่มใหม่ๆ เกิดขึ้น และมีผลการตอบสนองต่อการรักษาค่อนข้างดีมาก
อาการของโรคมะเร็งปอด
1.อาการของระบบทางเดินหายใจ ได้แก่
- ไอเรื้อรัง อาจมีหรือไม่มีเสมหะก็ได้
- ไอเป็นเลือด
- หอบเหนื่อย หายใจลำบาก เนื่องจากก้อนมะเร็งโตขึ้น ทำให้เนื้อที่ปอดสำหรับหายใจเหลือน้อยลง หรือก้อนมะเร็งนั้นกดเบียดหลอดลม หรือเกิดจากภาวะน้ําที่จมปอดได้
- เจ็บหน้าอกเวลาหายใจ
- หายใจติดขัด มีเสียงดังในลำคอ
- ปอดอักเสบ มีไข้
2.อาการของระบบอื่นๆ ได้แก่
- เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดลง โดยไม่ทราบสาเหตุ
- บวมที่หน้า แขน คอ และทรวงอกส่วนบน เนื่องจากมีเลือดดำคั่ง จากการลุกลามของมะเร็งไปยังหลอดเลือดดำใหญ่ของทรวงอก
- เสียงแหบ เพราะมะเร็งลุกลามไปยังเส้นประสาทบริเวณกล่องเสียง
- ปวดบริเวณต้นคอร้าวไปยังแขน
- ปวดกระดูก
- กลืนลำบาก เนื่องจากก้อนมะเร็งกดเบียดหลอดอาหาร
- อัมพาต เนื่องจากมะเร็งแพร่กระจายไปยังสมองหรือไขสันหลัง
- มีตุ่มหรือก้อนขึ้นตามผิวหนัง
แต่อาการทั้งในระบบทางเดินหายใจและระบบอื่นๆ เหล่านี้อาจเกิดจากโรคอื่นๆ ได้ ผู้ที่มีอาการดังกล่าวข้างต้นควรได้รับการตรวจจากแพทย์
ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งปอด
- การสูบบุหรี่
เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดมะเร็งปอด รวมถึงมะเร็งชนิดอื่นๆ ด้วย เพราะในบุหรี่เต็มไปด้วยสารก่อมะเร็ง ทำให้ผู้ที่สูบบุหรี่มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 10 เท่า - ควันบุหรี่มือสอง
แม้จะไม่ได้สูบบุหรี่ แต่การได้รับควันบุหรี่จากคนรอบข้างที่สูบ ก็เป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดมะเร็งปอดได้เช่นกัน - สารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรม
ผู้ที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม อาจได้รับสารก่อมะเร็งเป็นประจำโดยไม่รู้ตัว เช่น โครเมียม แร่ใยหิน แร่เรดอน นิกเกิล เป็นต้น - มลภาวะที่เป็นพิษ
จากการศึกษาพบว่า ฝุ่น PM2.5 ทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดได้มากถึง 1-1.4 เท่า ซึ่งถือว่ามีความรุนแรงไม่น้อยเมื่อเทียบกับการสูบบุหรี่ - พันธุกรรม
แม้โรคมะเร็งปอดจะไม่ได้ถ่ายทอดทางพันธุกรรมโดยตรง แต่หากมีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นมะเร็งปอดตั้งแต่อายุน้อยๆ สมาชิกในครอบครัวก็มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน
ระยะของโรคมะเร็งปอด
1.ระยะมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก แบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้
- ระยะจำกัด (Limited-Stage) เป็นระยะที่มะเร็งพบอยู่ในปอด 1 ข้าง และต่อมน้ำเหลืองข้างเคียงเท่านั้น
- ระยะลุกลาม (Extensive-Stage) เป็นระยะที่มะเร็งกระจายออกนอกบริเวณช่องทรวงอกข้างนั้น หรือออกจากปอดสู่อวัยวะอื่นๆ ของร่างกาย
2.ระยะมะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็ก แบ่งเป็น 4 ระยะ ดังนี้
- ระยะที่ 1 ยังไม่แพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง ก้อนมะเร็งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่าหรือเท่ากับ 5 เซนติเมตร
- ระยะที่ 2 มีการลุกลามไปยังเยื่อหุ้มปอดชั้นนอก และผนังหน้าอกหรือมีการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณขั้วปอดหรือที่อยู่ใกล้ๆ กับก้อนมะเร็ง โดยก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่กว่า 5 เซนติเมตร
- ระยะที่ 3 ก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่ขึ้น มีการลุกลามไปยังอวัยวะที่อยู่ข้างเคียง และแพร่กระจายไปที่ปอดกลีบอื่นๆ ในข้างเดียวกัน หรือไปยังต่อมน้ำเหลืองที่กลางช่องอก หรือไกลออกไปจากช่องอกข้างนั้นๆ ได้แก่ กระดูกซี่โครง กระบังลม และเยื่อหุ้มปอด
- ระยะที่ 4 มะเร็งที่กระจายออกนอกเนื้อปอด ไปยังที่ไกลจากจุดเริ่มต้น และมะเร็งที่กระจายไปที่เยื่อหุ้มปอดหรือแพร่กระจายไปที่อวัยวะอื่นๆ เช่น ต่อมน้ำเหลืองที่คอ ตับ กระดูก ต่อมหมวกไตและสมอง เป็นต้น
สิ่งสำคัญของการรักษามะเร็งปอด คือ การพิจารณาตำแหน่ง ขนาด และระยะของเซลล์มะเร็ง รวมถึงสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ป่วย
การรักษามะเร็งปอด
การผ่าตัด
- มีเป้าหมายเพื่อผ่าเอาก้อนมะเร็งที่ปอดและต่อมน้ำเหลืองที่ช่องอกออกให้หมด ซึ่งบางครั้งก้อนเนื้อนั้นอาจไม่ใช่เซลล์มะเร็งทั้งหมดก็ได้
- โดยทั่วไปไม่ใช้ในการรักษามะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็กซึ่งมักมีการแพร่กระจายตัวของเซลล์มะเร็งอย่างรวดเร็ว
- วิธีนี้ใช้ในการรักษามะเร็งปอดชนิดไม่ใช่เซลล์เล็ก ในระยะที่ 1, 2 และ 3A
การฉายรังสี (radiotherapy)
- เป็นการใช้พลังงานรังสีที่มีความเข้มข้นฉายไปยังตำแหน่งของเซลล์มะเร็งเพื่อทำลายกลุ่มก้อนเซลล์มะเร็งนั้น
- วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับระยะมะเร็งที่มีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนต่างๆ แต่อาจใช้เฉพาะจุดเพื่อควบคุมการลุกลาม
- การฉายรังสีใช้เวลาไม่นานและไม่ทำให้เจ็บปวด แต่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น กลืนลำบาก อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ระคายเคืองผิวหนังบริเวณที่ฉายรังสี
การใช้ยาภูมิคุ้มกันบำบัด (immunotherapy) เพื่อให้ภูมิคุ้มกัน ระบบการทำงานของภูมิคุ้มกัน การตรวจจับและการทำลายเซลล์มะเร็งมีประสิทธิภาพ
การให้ยาเคมีบำบัด (chemotherapy) เป็นการใช้ยากำจัดและยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งที่มีอยู่ทั่วร่างกาย โดยทั่วไปยาเคมีบำบัดที่ใช้กับมะเร็งปอดเป็นรูปแบบยาฉีดเข้าเส้นเลือด
การรักษาแบบเฉพาะเจาะจง (targeted therapy) เป็นการรักษาโดยการใช้ยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง โดยไม่ส่งผลต่อเซลล์ปกติ ให้ประสิทธิผลในการรักษาและไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงเหมือนเช่นยาเคมีบำบัด
การรักษาด้วยการผสมผสาน โดยทั่วไปการรักษามะเร็งจะใช้มากกว่าหนึ่งวิธีขึ้นไป ผู้ป่วยควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการรักษาและผลข้างเคียงของแต่ละวิธี เพื่อให้ความร่วมมือในการรักษาให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
ขอบคุณข้อมูล มูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง,โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- อาลัย ‘สารวัตรหนุ่ม’ เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด
- หญิงวัย 38 ไม่กินเหล้า-สูบบุหรี่ ตรวจเจอมะเร็งชนิดหายาก
- รักษาได้ทัน! พระเอกหล่อสไตล์โอปป้า อัปเดตอาการคุณแม่ หลังตรวจเจอมะเร็งที่ตับ
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx