บันทึกการเดินทางในครั้งนี้ ลุงม่วงจะพาไปเที่ยวที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อีกหนึ่งจังหวัดที่เดินทางง่ายไม่ไกลมากนัก
5 จุดเช็คอิน
- วัดเขาตะเกียบ
- หาดสวนสนประดิพัทธ์
- วนอุทยานปราณบุรี
- ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี
- วัดห้วยมงคล
5 วิถีถิ่นกินเที่ยว
- ตลาดฉัตรไชย
- ตลาดอาหารทะเลสดวัดเขาตะเกียบ
- ร้านของฝากแม่จำรัส ปากน้ำปราณ
- ของกินของฝากวัดห้วยมงคล
- เดอะเวเนเซีย หัวหิน
ท่องเที่ยวในรูปแบบวิถีถิ่นกินเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและรับผิดชอบตามมาตรการ New Normal ตามลุงม่วงไปชมรีวิว กันได้เลยจ้า
ว่ากันว่าถ้าได้มาเยือนเมืองๆ หนึ่งแล้วอยากได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนในพื้นที่อย่างถ่องแท้ ให้มาเดินชมตลาดท้องถิ่น วันนี้ลุงม่วงเลยลองมาเดินชมตลาดเก่าแก่คู่เมืองหัวหิน “ตลาดฉัตรไชย”
ตลาดฉัตรไชย ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษมในตัวเมืองหัวหิน เป็นตลาดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2469 โดยราชสกุลฉัตรไชย เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวาย รัชกาลที่ 7 เมื่อทรงเสด็จแปรพระราชฐานประทับวังไกลกังวลเป็นครั้งแรก โดยมีหลังคาเป็นรูป 7 โค้ง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่จัดสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7
ในปัจจุบันตลาดฉัตรไชยเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าอาหารสด และแห้ง ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารทะเล นอกจากนี้ยังมีอาหารพื้นเมือง และของฝาก ที่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อกลับบ้าน เปิดบริการตั้งแต่ 6.00 – 15.00 น.
การเดินทางมายังตลาดฉัตรไชย จากกรุงเทพฯ – หัวหินใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยวิ่งตามถนนเพชรเกษม เมื่อเลยสี่แยกถนนชมสินธุ์ ให้สังเกตขวามือจะเห็นอาคารเป็นรูป 7 โค้งแถวยาว ด้านบนมีป้ายตลาดฉัตรไชย กลับรถข้างหน้าตรงสี่แยกถนนเดชาอนุชิต สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าตลาด หรือเลี้ยวขวาตรงสี่แยกเดชาอนุชิต เข้าซอยหัวหิน 72 สังเกตด้านขวามือ จะมีที่จอดรถด้านหลังตลาดฉัตรไชย
สวนสนประดิพัทธ์ ตั้งอยู่บริเวณบ้านหนองแก ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยอยู่ในความรับผิดชอบดูแลของศูนย์การทหารราบ มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 1,065 ไร่ 1 งาน 86 ตารางวา ด้านหน้าติดถนนเพชร และชาดหาดที่สวยงามและยังคงความเป็นธรรมชาติ
สถานที่พักประกอบด้วยโรงแรมหรูริมชายหาด ขนาด 160 ห้อง อาคารบังกะโล บ้านพักตากอากาศหลังเดี่ยวติดชายหาด และเรือนนอนสำหรับพักเป็นหมู่คณะ รวมไปถึงยังมีศูนย์พัฒนากีฬากอล์ฟ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ร้านอาหารทิวสน อาหารทะเลสด ๆ ห้องประชุมสัมมนา และลานจัดเลี้ยง
ชายหาดสวนสนประดิพัทธ์ อยู่ในเขตอำเภอหัวหิน ห่างจากหาดหัวหินใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ไปทางทิศใต้ประมาณ 9 กิโลเมตร แยกซ้ายกม.ที่ 240 เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 500 เมตร จะถึงชายหาด โดยมีเขาตะเกียบคั่นระหว่างหาดหัวหิน และหาดสวนสนประดิพัทธ์
เสน่ห์ของหาดสวนสนประดิพัทธ์จากการสัมผัส คือ ความเงียบสงบร่มรื่นตลอดแนว ชายหาดมองดูเป็นเวิ้งโค้งสวยงาม ทรายขาวสะอาด ระดับน้ำทะเลไม่ลึก เหมาะกับการลงเล่นน้ำ
สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บนชายหาด ก็มีอยู่เพียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็นห้องอาบน้ำจืด ห้องสุขา รวมทั้งเตียงผ้าใบ เสื่อ ห่วงยางเล่นน้ำ ร้านอาหาร และยังสามารถนำอุปกรณ์มาประกอบอาหารทานได้อีกด้วย แต่ต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาดเป็นสำคัญ ส่วนเรื่องความปลอดภัยหายห่วงเพราะอยู่ภายใต้ความดูแลของทหาร
การเดินทาง
- ด้วยรถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพ ฯ มุ่งตรงสู่ภาคใต้ ผ่านจังหวัดเพชรบุรี เข้าสู่อำเภอชะอำ อำเภอหัวหิน จากหัวหิน ประมาณ 9 กิโลเมตร อยู่ทางด้านซ้ายมือ เลี้ยวรถเข้าไปนิดเดียวครับ
- เดินทางโดยรถทัวร์ ขึ้นรถที่สถานีขนส่งสายใต้ สายกรุงเทพ-หัวหิน-ปราณบุรี รถจะวิ่งผ่านหน้าสนสวนประดิพัทธ์
- การเดินทางโดยรถไฟ จะมีสถานีรถไฟสวนสน อยู่ภายในพื้นที่สวนสนประดิพัทธ์ เพียงเท่านี้ก็ถึงแล้วครับ
วัดเขาตะเกียบ ตั้งอยู่ ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่ห่างจากตัวเมืองหัวหินไปทางทิศใต้ประมาณ 6 กิโลเมตร ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของที่นี่จะเป็นภูเขาหินปูน 2 ลูกที่อยู่ใกล้กัน และมีโขดหินสวยงามยื่นออกไปในทะเล จึงเรียกภูเขาบริเวณนี้ว่า เขาตะเกียบ
วัดเขาตะเกียบ จะเป็นที่ประดิษฐานของพระธาตุเขี้ยวแก้ว และทางทิศใต้ของวัดจะมีศาลเจ้าแม่กวนอิม ภายในเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ด้านบนของวัดเขาตะเกียบยังสามารถมองเห็นทัศนียภาพของตัวเมืองหัวหิน และอ่าวหัวหินที่งดงาม
ใกล้กันกับวัดเขาตะเกียบ เรายังสามารถเห็นวิถีชีวิตของชาวประมงที่อยู่คู่กับวัดเขาตะเกียบมาอย่างยาวนาน ร้านอาหารทะเลบริเวณเขาตะเกียบ ก็มีให้เลือกทานหลายร้านเช่นกัน
การเดินทาง
- รถยนต์ จะมีทางแยกซ้ายมือจากถนนเพชรเกษมที่กิโลเมตร 235 เข้าไปประมาณ 500 เมตร โดยมีชุมชนเขาตะเกียบอยู่ก่อนถึงทางขึ้นเขา
- รถรับจ้างที่ตลาดหัวหิน ซึ่งจะวิ่งระหว่างหัวหิน-เขาไกรลาส-เขาตะเกียบโดยตรง
วนอุทยานปราณบุรี ตั้งอยู่ใน อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่นอกจากจะมีชายหาดบรรยากาศสวยงาม และสงบเงียบให้เที่ยวชมแล้ว ยังมีเส้นทางให้เดินศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลน เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร โดยจัดทำเป็นสะพานไม้ยกระดับ ทางเดินร่มรื่นมีพันธุ์ไม้หลายชนิด สามารถเที่ยวชมและศึกษาเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ ระบบนิเวศป่าชายเลนได้อย่างใกล้ชิด
เส้นทางศึกษาธรรมชาติจัดทำเป็นสะพานไม้ทอดยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ลัดเลาะไปตามป่าชายเลน ซึ่งเราจะได้ชมพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ ทั้ง โกงกาง โปรงแดง ตะบูนดำ โดยจะมีป้ายข้อมูลให้ความรู้เป็นระยะ บนเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เรายังจะได้เห็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ในป่าชายเลน เช่น ปลาต่างๆ ปูก้ามดาบ เป็นต้น
ระหว่างทางเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติจะ มีท่าเรือขนาดเล็กเชื่อมกับสะพานทางเดินฯ ซึ่งเป็นจุดที่พักเรือ สามารถทำกิจกรรมล่องเรือสัมผัสกับความงามตามธรรมชาติ และศึกษาระบบนิเวศของป่าชายเลนทางน้ำ มีพันธุ์ไม้นานาชนิด รวมไปถึงการได้ชมวิถีชีวิตชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมคลอง ราคาประมาณ 400 บาท (8 คน) ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
ใกล้กันกับทางเดินศึกษาธรรมชาติ จะเป็นชายหาดที่เงียบสงบ สามารถมากางเต็นท์ มีเต็นท์ และมีบ้านพักบริการด้วย
ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี ตั้งอยู่ที่ ตำบล ปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่ประมาณ 786 ไร่ โดยเปิดให้เป็นพื้นที่บริการแก่นักท่องเที่ยว และเข้ามาศึกษาเรียนรู้ถึง 50 ไร่ พื้นที่แห่งนี้ได้รับการดูแลจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี ได้รับมาตรฐาน SHA ด้านสุขอนามัยและมีความปลอดภัยโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจัดทำขึ้นร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข
SHA หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration มีชื่อเต็มในภาษาไทยว่า โครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เป็นโครงการความร่วมมือของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ฯลฯ โดยนำมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุข ผนวกกับมาตรฐานการให้บริการ ที่มีคุณภาพของสถานประกอบการ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวว่า ทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่ดี มีความสุข และความปลอดภัยด้านสุขอนามัยจากสินค้าและบริการนั้นๆ
ผ่านจุดคัดกรองด้านความปลอดภัย แสกน QR-CODE และอย่าลืมล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ด้วยนะครับ
ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวศึกษาเส้นทางธรรมชาติของป่าโกงกางอันร่มรื่น มีการจัดนิทรรศการป่าชายเลน และวิถีชีวิตคนปากน้ำปราณ มีหอชมวิวที่สามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งบริเวณพื้นที่ป่า สามารถมองเห็นเขตเทือกเขาตะนาวศรี ภูเขาที่มีแนวยาวแบ่งเขตแดนไทย และพม่า
ตลอดเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนจะมีแผ่นป้ายอธิบายเรื่องราวต่างๆ เช่น ชนิดของนกต่างๆ ที่พบในบริเวณป่าชายเลน ชนิดของปู พันธุ์พืชที่พบ บ้านแมลง ลานผีเสื้อ
ต้นโกงกางของที่นี่จะมีอายุกว่า 60 ปีเลยทีเดียว นับตั้งแต่ก่อนที่กรมป่าไม้จะให้สัมปทานการทำนากุ้ง ป่าชุดนี้ยังคงอยู่ แต่เดิมนั้นอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติคลองเก่าคลองคอย ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของบริเวณปากน้ำปราณบุรีเป็นอย่างดี
ศาลาท่าตะบูนเคยเป็นศาลาที่รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระปริมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่9 อีกด้วย
ร้านขายของฝากแม่จำรัส ตั้งอยู่ถนนปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาปราณบุรีก็ไม่ควรพลาดแวะหาซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านกันด้วยนะครับ
สินค้าที่ขึ้นชื่อของร้านของฝากแม่จำรัส ก็คงหนีไม่พ้นอาหารทะเลตากแห้งที่มีให้เลือกมากมาย และราคาไม่แพง
วัดห้วยมงคล เป็นวัดที่ประดิษฐานรูปเหมือนของหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก แต่เดิมใช้ชื่อว่า “วัดห้วยคต” ตั้งอยู่ในชุมชนบ้านห้วยคต ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชทานนามใหม่จากห้วยคตเป็นห้วย ”มงคล” ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นทั้งชื่อหมู่บ้าน วัด โรงเรียน และโครงการต่างๆ อีกมากมาย
กว่าสี่สิบปีแล้วที่หมู่บ้านห้วยมงคล เป็นสถานที่ที่สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเสด็จ มาเยี่ยมประชาชนด้วยโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านอย่างมากมาย เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับผสกนิกรได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ประชาชนมีสุขกันทั่วหน้า และโครงการต่างๆ ก็ดำเนินไปได้ด้วยดี เพราะมีส่วนราชการให้การดูแล รวมทั้งทรงอุปถัมภ์วัดห้วยมงคล ให้เป็นที่พึ่งทางจิตใจสำหรับชาวบ้าน
ต่อมาพระครูปภัสรวรพินิจ หรือพระอาจารย์ไพโรจน์ ปภัสสโร เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคลองค์ ปัจจุบัน ซึ่งเป็นนักพัฒนาที่มีศีลจารวัตที่ดีงาม เป็นที่เคารพบูชาของคนในชุมชนบ้านห้วยมงคล และพล.อ.วิเศษ คงอุทัยกุล รองสมุหราชองครักษ์ ได้มีดำริที่จะสร้าง “หลวงปู่ทวด” องค์ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อน้อมเกล้าน้อมถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ รวมทั้งเผยแผ่ และสืบทอดพระพุทธศาสนา อีกทั้งให้เป็นที่เคารพสักการบูชา และเป็นที่พึ่งทางจิตใจของเหล่าพุทธศาสนิกชน
ด้วยเรื่องราวอิทธิปาฏิหาริย์ของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ที่พุทธศาสนิกชนในภาคใต้ ให้ความเคารพเลื่อมใสมาเป็นเวลานาน จึงก่อเกิดการร่วมมือร่วมใจจากหลายองค์กร ทั้งทางภาครัฐ และเอกชนในการสร้างปฏิมากรรมองค์จำลองหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก
โดยกาลนี้ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถในรัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จพระราชดำเนินทรงทอดพระเนตรเททองหล่อองค์หลวงพ่อทวด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2547 และพระราชทานพระราชานุญาตให้คณะกรรมการจัดสร้างอัญเชิญพระนามาภิไธยย่อ ส.ก. ขึ้นประดิษฐานที่หน้าองค์รูปหล่อองค์หลวงปู่ทวดอีกด้วย
การเดินทาง
- รถยนต์ส่วนตัว จากหัวหินใช้เส้นทางหนองพลับ-ป่าละอู(ทางหลวงหมายเลข 3218) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ถึงตำบล ทับใต้เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกหนองตะเภา เข้าไปตามทางจนถึงวัดห้วยมงคล
- รถสาธารณะ วัดห้วยมงคลไม่มีรถสาธารณะเข้าถึง ต้องเหมารถสองแถวจากหัวหินไป หรืออาจจะเช่ารถมอเตอร์ไซค์จากรีสอร์ท ที่พักแล้วขับไปที่นั่นจะคุ้มกว่า ระยะทางค่อนข้างไกลจากตัวเมืองหัวหินพอสมควร
บริเวณวัดห้วยมงคล ยังมีร้านขายของฝากให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้ออยู่หลายร้านทีเดียว ของฝากส่วนใหญ่ก็จะเป็นของพื้นถิ่น ผลผลิตทางการเกษตร ผลไม้ ขนมต่างๆ แปรรูป รวมไปถึงอาหารทะเลตากแห้ง
ก่อนเดินทางกลับ กทมฯ ลุงม่วงแวะมาเที่ยวที่ “เดอะเวเนเซีย หัวหิน” สถานที่ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก มนต์เสน่ห์ของเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี หรือเมืองแห่งสายน้ำ เวนิสอันเลื่องชื่อ
เมืองเวนิสได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ใช้การคมนาคมทางน้ำที่มีการใช้คลองเพื่อสัญจรมากที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง นอกจากนี้แล้วยังมีอาคาร ร้านค้า และบ้านเมืองที่มีปฏิมากรรมที่สวยงามตั้งอยู่ริมสองฝั่งคลอง เช่นเดียวกันเมืองหัวหินของเมืองไทย มีคำกล่าวไว้ว่า หัวหินไม่เคยสิ้นมนต์เสน่ห์ โดยการจำลองจัตุรัสเซ็นต์มาร์ค (St. Mark Square) และหอระฆัง (Bell Tower) สัญลักษณ์ของเมืองเวนิส ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกมาไว้ที่ด้านหน้าโครงการ เพื่อเป็นลานกิจกรรมขนาดใหญ่ และจุดชมวิว
อีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นเวนิส คือ แกรนด์คาแนล (Grand Canal) ความยาวกว่า 200 ม. ที่มีเรือล่องไปในบรรยากาศเสมือนอยู่ในเวนิส ประเทศอิตาลีจริงๆ ด้านสถาปัตยกรรมการออกแบบอาคารในแต่ละโซน จะมีรูปแบบสีสันที่แตกต่างกัน ล้อมรอบไปด้วยการจัดวางภูมิทัศน์ที่งดงาม ประกอบไปด้วยสวนดอกไม้นานาพรรณ ลานน้ำพุ และงานประติมากรรมที่บ่งบอกถึงความเป็นเวนิสได้อย่างแท้จริง
เดอะเวเนเซีย หัวหิน แบ่งออกเป็น 4 โซนหลัก ได้แก่
- โซนร้านอาหาร และเครื่องดื่ม
- โซนสินค้าแฟชั่นชั้นนำ ทั้งแบรนด์ไทย และต่างประเทศ
- โซนบริการ เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ต ธนาคาร ไอที สปา ร้านหนังสือ ฯลฯ
- โซนสินค้าดีไซน์สร้างสรรค์งานศิลปะ และของใช้ของตกแต่งบ้าน
กิจกรรมภายในเดอะเวเนเซีย หัวหิน จะประกอบด้วย การล่องเรือกอนโดล่า รถไฟเล็กวิ่งรอบ สวนสัตว์ขนาดย่อม สนามเด็กเล่น ตลาดนัดยามเช้า
การเดินทางไป
- จาก ถ.เพชรเกษมฝั่งขาออกจากหัวหิน ห่างจากอุโมงค์สนามบิน 700 ม. และโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน เพียง 500 ม. ใกล้จุดกลับรถหน้าปาล์มฮิลล์ กอล์ฟคลับ และมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด 200 ม.
#Amazingไทยเท่ #เที่ยวไทยเที่ยวง่ายสนุกทุกทริป
ที่มา : เฟซบุ๊กเพจ ม่วงมหากาฬพาเที่ยว : Life for Travel
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 5 จุดเช็คอิน 5 วิถีถิ่น กินเที่ยว ‘ราชบุรี’
- อิ่มบุญ อิ่มท้อง อิ่มใจ @อยุธยา
- เที่ยว ‘ประจวบคีรีขันธ์’ แบบ New Normal