นมัสเต เนปาล…
สามชั่วโมง บนการบินไทยตั๋วโปรโมชั่นชั้นประหยัด ฉันนั่งหลับตลอด…
แหกขี้ตาตื่นตั้งแต่ตีสี่ หลังจากจัดกระเป๋าเสร็จไม่กี่ชั่วโมงก่อนเดินทาง
ข้าวของในกระเป๋า Duffle Bag ที่ยืมเพื่อนมา ดูท่าทางว่าจะไม่พอใช้เดินเขา
ก่อนเดินทางหนึ่งวัน …
เพิ่งคิดได้ว่ามีแต่กระเป๋าเดินทางแบบมีล้อลาก
นี่จะลากไปขึ้นเขาคงโดนลูกหาบถีบลงเขาแน่
ซื้อก็ไม่ทันการละโทรหาเพื่อนโปรปีนเขานานาชาติ
ตอนยืมกระเป๋าเพื่อนถามว่า เอา Back Pack หรือ Duffle Bag
เออ… ตรูไม่รู้จักหรอก เอา เอา มาเหอะ อะไรก็ได้ ที่ใช้ได้อ่ะ
เพื่อนเลยจัด Duffle Bag กระเป๋าเหมือนเกียร์แบ็กตอนดำน้ำให้
บอกว่าเปิดข้างบนได้ หาของได้ง่ายกว่า ยี่ห้อ Marmot
พูดถึงยี่ห้อฉันเองไม่ใช่โปรปีนเขา ไม่รู้จักหรอก
ที่เห็นในห้างก็มีแค่ North face กะ Columbia
พาตาโกเนีย มาร์มอธ มามุธ อะไรนี่ไม่รู้จักเลย
เคยใส่แต่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ ปีนดอยเท่านั้น..
ด้วยความกลัวหนาว… หลังจากวัยทองกำเริบ
งานนี้ฉันเลยแอบถอยเสื้อนอร์ธเฟสมาชุดหนึ่ง
แพงที่สุดในชีวิตที่เคยซื้อเสื้อใส่ ราคาพอกะตั๋วเครื่องบิน !
เวลาใส่คนขายบอกว่ามีตัวนอกกันลม กันยูวี
ตัวในเป็นฟีด ขนอะไรไม่รู้เป็นเทคโลโลยีใหม่แบบ HY VENT
คือกันหนาวแบบติดลบได้ นำหนักเบาอะไรงี้
ส่วนตัวในต้องเป็น Flash Dry ประมาณว่าเหงื่อออกแล้วแห้งเร็ว
จะได้ไม่หนาว… ตอนซื้อก็แอบคิดเหงื่อออกแล้วตรูจะหนาวหรือวะ ?
สรุปว่าถอยมาราคาเท่าตั๋วไปเนปาล ดูซิว่ามันจะเอาอยู่มั้ย ? 555
หลังจากหลับสบาย น้ำลายยืดมาสามชั่วโมง
ที่ท่าอากาศยานตริภูวัน กาฐมาณฑุ, เนปาล
มิสเตอร์ดีพ มารับที่สนามบิน พร้อมไกด์ส่วนตัว
ที่ฉันสั่งจองหลังจากกลับจากแชงกรีล่า
เรื่องไกด์ส่วนตัวนี่ ตอนแรกไม่มีในโปรแกรม
เราไปกันสองคน เค้าจัดลูกหาบให้ 2 คน ดูแล้วน่าจะพอแล้ว
แต่เรื่องไกด์นี่ ฉันมาคิดได้ตอนเดินบนแชงกรีล่า ที่อากาศบางเบา..
ลูกหาบมีหน้าที่หาบของ คงไม่มาเดินรอฉันแน่
ส่วนไอ้น้องที่ไปด้วย เด็กหนุ่ม คงเดินเร็วกว่าฉันหนึ่งวัน
กลับจากทริปแชงกรีล่า ที่เห็นอาการตัวเองปีนขึ้นวัดโปตะลาน้อย
ฉันรีบโทร.ไปจองไกด์เพิ่ม กำชับว่า ขอไกด์ที่จะเดินเป็นเพื่อนฉัน
ที่สำคัญขอหน้าตาดีไว้ก่อนนะ 555
เอเย่นต์บอกว่าเพิ่มวันละ 20 เหรียญ ค่าไกด์
เอาวะ เอา ดีกว่าตรูเดินคนเดียว เป็นลมไปในป่า …
มนุษย์ป้าตัดสินใจ เสียเงินเพิ่มเพื่อสวัสดิภาพของตัวเอง
พอเจอไกด์ที่สนามบิน .. โอ้ ผ่าน
ไม่ต้องพิจารณาอะไรมาก หุ่นขนาดนี้ น่าจะพอแบกฉันลงจากเขาได้…
คนมารับที่สนามบิน พาฉันกะน้อง ไปแวะเที่ยวก่อน
ที่โพธินาถ หรือพุทธนาถ (Boudhanath) เจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเนปาล
บนเจดีย์มีดวงตาเห็นธรรมของพระพุทธเจ้า (Wisdom Eyes )
20 ปีที่แล้ว ฉันเคยมาที่นี่…
เวลาเปลี่ยนไป มหาเจดีย์โพธินาถ ไม่เปลี่ยนแปลง
เปลี่ยนแต่รอบข้าง มีร้านกาแฟ มีร้านขายของ เพิ่มขึ้นเท่านั้น
สัมผัสเนปาล อีกครั้ง ในรอบยี่สิบปีของฉัน แตกต่างจากเดิม…
เสาไฟที่เคยเป็นเสาไม้หายไป…เป็นเสาปูนระเกะระกะอยู่บนฟ้าแบบเดิม
กาฐมาณฑุ หนาแน่นขึ้นด้วยตึกรามบ้านช่อง
แต่สภาพความเจริญ ของบ้านเมือง น่าจะผ่านมาไม่เกิน 5ปีจากเดิม
ฝุ่น ยังคงล้อมรอบเมืองไว้อย่างเดิม เพราะเป็นเมืองในหุบเขา
เมืองที่ฝุ่นไม่มีทางออก หน้ากาก ยังเป็นของจำเป็นในการอยู่กาฏมาณฑุ
ที่โพธินาถ ฉันตั้งจิตอธิษฐานทำบุญ แขวนธงมนตราโดยลามะทิเบต
ด้วยความเชื่อว่าลมจะพัดพาเอาคำภาวนา ที่อยู่บนผืนผ้าทั้ง 5 สีลอยไปในอากาศ
เพื่อช่วยปกป้องคุ้มครองและอ้อนวอนไปยังพระเจ้า
ฉันอธิษฐานขอให้ แม่ หายป่วย มีสุขภาพดี อายุยืน
และขอให้ความสุข มีกับตัวฉันเอง ครอบครัว และเพื่อนผองน้องพี่ทุกคน
ขอพระคุ้มครอง ขอให้มีดวงตาเห็นธรรม
นมัสเต เนปาล