Entertainment

จากใจรุ่นพี่ หมอริท ฝากข้อความถึง หมอหนุ่ม วัย 28 ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย

หมอป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย วัย 28 ปี แชร์ประสบการณ์ ด้าน หมอริท ร่วมส่งกำลังใจ โดย หมอริท ถึงรุ่นน้องว่า “เป็นกำลังใจให้น้องหมอครับ”

ท่ามกลางกำลังใจที่ถูกส่งให้กับ คุณหมอกฤตไท ธนสมบัติกุล หรือเจ้าของเพจ สู้ดิวะ ที่กำลังได้รับสนใจอย่างมากในขณะนี้ หลังจากที่เจ้าตัวได้ออกมาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็ก วัยรุ่น จนกระทั่งก้าวเข้าสู่วัยทำงาน กำลังจะแต่งงาน กำลังจะซื้อบ้าน ดูแล้วเหมือนทุกอย่างจะราบรื่นเป็นไปตามธรรมชาติ แต่สุดท้ายก็เจอจุดพลิกผันครั้งใหญ่ในชีวิต เมื่อเขารู้สึกผิดปกติ แล้วมาตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปอดระยะลุกลาม และเป็นระยะสุดท้าย

ปกหมอกฤตไท

หมอป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย วัย 28 ปี แชร์ประสบการณ์ ด้าน หมอริท ร่วมส่งกำลังใจ

ล่าสุด (10 พ.ย.) คุณหมอกฤตไท หมอป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ได้เปิดเพจใหม่ที่ใช้ชื่อว่า สู้ดิวะ ออกมาแชร์เรื่องราวในชีวิตของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน ที่เรียนจบเฉพาะทาง 2 สาขา และปริญญาโทอีก 1 สาขา ตอนนี้คุณหมอกำลังได้บรรจุเป็นอาจารย์หมอ และกำลังจะแต่งงาน สร้างบ้าน สร้างครอบครัว แต่สุดท้ายชีวิตพลิกผัน เพราะตรวจพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายแล้ว

ซึ่งหลังจากที่ คุณหมอกฤตไท ได้เล่าเรื่องราวดังกล่าวออกไป ชาวเน็ตก็ได้แชร์กันไปอย่างมากมาย รวมถึงเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับ นายแพทย์เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช หรือ หมอริท เดอะสตาร์ ที่ได้ทำการรีโพสต์ดังกล่าวขึ้นไปยังเพจเฟซบุ๊กของตัวเอง MhorRitz พร้อมกับส่งกำลังใจจากรุ่นพี่ไปถึงรุ่นน้องว่า “เป็นกำลังใจให้น้องหมอครับ”

หมอกฤตไทmessageImage 1668149436876

ทั้งนี้ คุณหมอกฤตไท ได้มีการเล่าเรื่องราวของตัวเองไว้บนเพจว่า “สวัสดีครับ วันนี้จะขอแนะนำตัวเองนิดนึงครับ ผมชื่อ กฤตไท ธนสมบัติกุล ครับ ปัจจุบันอายุ 28 ปีครับ ผมจะพยายามเล่าให้กระชับที่สุดละกันนะครับ

ผมเกิดในครอบครัวใหญ่ครับ นึกภาพครอบครัวที่มีอากงอาม่า กับหลานๆหลายสิบชีวิตครับ ผมมีชีวิตวัยเด็กที่มีความสุขมา กๆ ครับ กินเก่ง เล่นเก่ง พูดเยอะ เป็นเด็กน้อยตาตี่อ้วนกลมที่อารมณ์ดีมาก ๆ ครับ

แต่ชีวิตผมก็มีจุดเปลี่ยนตรงช่วงมัธยมต้น ครอบครัวผมมีปัญหานิดหน่อย พ่อแม่ผมท่านได้ตัดสินใจอยู่ห่างกัน ซึ่งดีต่อท่านทั้งสองจริง ๆ แต่ในมุมของผม มันทำให้ผมต้องเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะต้องอยู่กับแม่และน้องสาว ผมต้องเป็นผู้ใหญ่ทันที
ซึ่งมองย้อนกลับไป ผมขอบคุณเหตุการณ์ครั้งนั้นมากๆที่ทำให้ผมได้อ่านหนังสือ ได้พัฒนาความคิดและทัศนคติตัวเองขึ้นมา ถ้าไม่ได้เจอเรื่องนี้ ผมคงยังเป็นคุณชาย เป็นเด็กมัธยมธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ผมเป็นคนที่มีเพื่อนฝูงมากมายตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยม คือต้องบอกว่าผมให้ความสำคัญกับเรื่องเพื่อนมากกว่าเรื่องเรียน

ผมได้มีช่วงชีวิต 6 ปีที่ทรงคุณค่าที่สุดในโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ผม OSK 131 ครับ แน่นอนครับ ขึ้นชื่อว่าสวนกุหลาบ ผมมีความเป็นสวนกุหลาบอย่างที่สุด และผมมีเพื่อนสวนกุหลาบที่เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม ผมได้ถูกปลูกฝังให้เป็นสุภาพบุรุษสวนกุหลาบ รักเพื่อน เคารพพี่ นับถือครู กตัญญูพ่อแม่ ดูแลน้อง

หลังจากจบสวนกุหลาบ ผมได้สอบติด คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รุ่น 56 ครับ ชีวิตได้ขึ้นเหนือในวัย 18 ปี เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตที่สำคัญเลยครับ จากเด็กกรุงเทพ ย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศเชียงใหม่

โอเค ผมเรียนหมอ 6 ปีครบตามเวลา ไม่ขาดไม่เกินครับ เนื่องจากว่าผมมาเชียงใหม่คนเดียว จึงได้มามีเพื่อนใหม่ที่นี่ทั้งหมด ผมโคตรรักพวกมันเลย เพื่อนชาวเหนือ พาผมไปกินอาหารแปลกๆ เรียนรู้วัฒนธรรม คำเมือง การใช้ชีวิต ซึ่งทุกอย่างมันมาผ่านบาสเกตบอลครับ ผมเป็นนักบาสเกตบอลของคณะแพทย์เชียงใหม่ที่ยิ่งใหญ่ครับ เรื่องราวเยอะมาก ๆ คราวนี้ผมเรียนจบหมอละ ก็เรียนต่อเฉพาะทางต่ออีก 3 ปีทันทีเลยครับ

ผมเลือกสาขา เวชศาสตร์ครอบครัว (Family Medicine) เป็นแพทย์ใช้ทุนร่วมกับเรียนต่อเฉพาะทางที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ครับ เรื่องแฟมเมดเองก็เล่าได้อีกหนึ่งตอนใหญ่ๆเหมือนกันครับ ทำไมคนแบบผม ที่หยิบคนมาสิบคนก็ไม่มีใครบอกว่าผมดูเป็นหมอแฟมเมด แต่ทำไมผมถึงเลือกเรียนสาขานี้ และ ที่สำคัญคือทำไม ผมถึงเลือกที่เมื่อเรียนจบแล้ว ผมกลับไม่ได้ปฏิบัติงานในฐานะหมอแฟมเมด แต่กลับย้ายมาทำงานสายระบาดวิทยาคลินิก น่าสนุกใช่ไหมครับ ไว้เรามาว่ากันครับ

หมอกฤตไท315068961 104886005775560 710668159205458530 n

ระหว่างที่เรียนเฉพาะทาง ผมก็ฟิตมากพอที่จะไปศึกษา สาขาเฉพาะทางอีกอันหนึ่งคือ ระบาดวิทยาคลินิก (Clinical Epidemiology and Clinical Statistic) สาขาที่เรียกได้ว่าหลายคนในประเทศไทยอาจจะยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ แต่หลักๆคือเป็นศาสตร์ของการตอบโจทย์ ตอบปัญหาของหมอในกระบวนการรักษาคนไข้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และสถิติ สร้างผลงานวิจัยเพื่อช่วยให้กระบวนการดูแลคนไข้นั้นดีขึ้นครับ

และ ผมยังฟิตกว่านั้น ด้วยการเรียนปริญญาโท วิทยาการข้อมูล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (Data Science) อีกใบพร้อมกันไปเลย สนุกมากครับ ปัจจุบันก็เรียนจบด้วยดี กำลังจะรับปริญญาแล้วครับ ได้เรียนรู้เรื่องข้อมูล เรื่องแนวคิดทางธุรกิจ การแก้ปัญหาด้วยแนวคิดทาง DS และวิธีการจัดการกับข้อมูลต่างๆ เพื่อพร้อมรับมือกับโลกอนาคตครับ

โอเคครับ ปัจจุบัน ผ่านไป 3 ปี ผมจบแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ครอบครัว และปริญญาโทวิทยาการข้อมูล ผมได้บรรจุเป็นอาจารย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผมทำงานได้สองเดือนแล้วครับ ผมค่อนข้างมีทักษะในเรื่องการเล่าเรื่องและการสอนครับ เรากำลังสร้างทีมกัน สร้างทีม CE (clinical epidemiology) เชียงใหม่ กับสุดยอดอาจารย์แห่งยุคและทีมงานคุณภาพ

ในส่วนของการใช้ชีวิตเอง ผมชอบออกกำลังกายมากครับ เนื่องจากเป็นนักกีฬาด้วย เข้ายิมด้วย ดูแลสุขภาพดีมากๆ ครับ ให้ความสำคัญกับอาหารและการนอนหลับ ชอบอ่านหนังสือ ฟัง podcast ลงทุน ตามสไตล์วัยรุ่น productive ครับ ชีวิตในวัย 28 ปี หลังจากผ่านการลงทุนในตัวเองมาอย่างหนักหน่วง ผมได้เริ่มวิ่งตามความฝันอย่างเต็มที่ เดินตามแผนที่วางไว้ได้อย่างงดงาม ผมกำลังจะแต่งงาน กำลังจะซื้อบ้าน
แล้ว… ผมก็เป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายครับ”

ขอบคุณ : สู้ดิวะ , MhorRitz 

หมอกฤตไท314374044 104882949109199 8181148976684632060 n

หมอริท306202286 1053442241987144 7013553824875591856 n

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo