Entertainment

อดีตนางเอกดัง ถูกคุกคามบนเครื่องบิน จนอาการแพนิกกำเริบ เกือบขับรถเสยรถพ่วง

เปิดใจที่แรก นก จริยา เล่าเหตุการณ์ถูกคุกคามบนเครื่องบิน จนอาการโรคแพนิกกำเริบหนัก เกือบขับรถชนท้ายรถพ่วง

นักแสดงมากความสามารถ นก จริยา เปิดใจที่แรกในรายการ คุยแซ่บSHOW หลังโพสต์ลงอินสตราแกรมเล่าเหตุการณ์ถูกคุกคามบนเครื่องบิน จนโรคแพนิกที่เคยดีขึ้นแล้วกลับมาแย่ลง แต่ในสถานการณ์ไม่ดีก็ยังได้เจอคนดีที่เข้ามาช่วย พร้อมเล่าสาเหตุที่เกิดโรคแพนิกและอาการ

8 นก จริยา 3
นก จริยา

มีเรื่องเกิดขึ้นบนเครื่องบิน ?

“ก่อนที่พี่จะตัดสินใจโพสต์ คือผ่านเหตุการณ์มาแล้ว 2 เดือน พอพี่มาประมวลแล้วเรารู้สึกว่าไม่ได้เป็นคนที่มีอะไรแล้วลงโซเชียลปั๊บ เราเล่าไม่ได้เก่ง พอผ่านมา 2 เดือนพี่มีความรู้สึกว่าที่เราเจอมามันมีมุมดี เราได้เจอคนที่เขาดีมาก ๆ น่ารักมาก ๆ ณ วันนั้นยังไม่รู้สึกว่าขอบคุณเขามากพอ อีกอย่างนึงประสบการณ์ไม่ดีในวันนั้นที่เกิดขึ้นกับเรา เรามารู้ว่าผู้หญิงเจอแบบนี้บนเครื่องเยอะนะคะ เรารู้สึกว่ามันควรมีอะไรที่ดูแลกันมากกว่านั้นเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร ไม่จำเป็นต้องผู้หญิงผู้ชายก็แล้วแต่หรือเดินทางคลาสไหนก็แล้วแต่ ทุกคนต้องได้รับความปลอดภัย”

เกิดอะไรขึ้น ?

“มันเป็นช่วงที่โควิดซาใหม่ ๆ เราเริ่มเดินทางกันได้ออกนอกประเทศ ลูกสาวอยากไปทำธุระ เราอยากไปพักด้วยที่อังกฤษ เราก็จองตั๋วกันไป คิดว่าปลอดภัยเพราะเราใส่แมสก์ 2 ชั้นตอนเดินทาง วันนั้นไปสายการบินที่ไม่ค่อยคุ้นเคยก็ไม่ค่อยรู้อะไร เก้าอี้ค่อนข้างมีระยะและค่อนข้างส่วนตัว ภาวะการบินที่ไม่ปกติเกิดขึ้นได้ อย่างดีเลย์เราเข้าใจ แต่มีผู้โดยสารที่ต้องนั่งติด 3 ท่าน มีพี่ ลูกสาว และผู้โดยสารอีกท่านเป็นชาวต่างชาติ เราก็มองว่าลูกนั่งตรงนั้นเพราะมันก็มีระยะ เขาใส่เฝือกที่มือใส่เฝือกที่ขา เรายังสะกิดบอกกับลูกว่าสงสารเขาจังเลยเนอะ เราก็นั่งของเรากันไปไม่ได้เกี่ยวข้องกัน”

“พอนั่งไปสักพักเครื่องออกลูกสาวก็ทำหน้าตกใจแล้วบอกว่า มี๊เขาเกาต้นแขนหนูอ่ะ เราก็ตกใจชะโงกไปดูกับลูกเหมือนเขากึ่งหลับกึ่งตื่น เราบอกเขาละเมอมั้งลูก อาจไม่ได้ตั้งใจ เรายังมองในแง่ดี นั่งไปอีกสักพัก ลูกบอกว่ามี๊้มือเขาไหลมาข้างหนูบ่อยมากเลย ไม่ดีละ เราก็ยังคิดว่าเขาไม่ตั้งใจ เราก็คิดว่าไปบอกพนักงานสายการบินกันมั้ยให้เขาเปลี่ยนที่หรือว่าดูแลเรามากขึ้น เพราะเรารู้สึกไม่สบายใจ เราก็เดินไปบอกพนักงานสายการบิน แต่พี่คงโชคไม่ดีไปเจอคนที่จัดการไม่ดี เขาเป็นแอร์ผู้หญิง เรารู้สึกว่ามีความปลอดภัยที่จะบอกผู้หญิงด้วยกัน ให้เขาช่วยเดินไปดูหน่อยผู้โดยสารที่นั่งข้าง ๆ ลูกสาวเขามีมือเลยมาเกาหรือไม่ตั้งใจก็ไม่รู้”

“เขาก็ทำท่าแบบไม่ว่างมาก เขาต้องไปถามฟังความข้างเดียวไม่ได้ เราก็โอเค ถ้าเขาจะไปถามซอฟท์ ๆ เขาก็ให้ลูกสาวเดินตามไปแล้วก็ไปถามผู้โดยสารที่เกาแขน คนนั้นเขาก็โวยขึ้นมาเลย เขาไม่สนใจหรอก เขาแต่งงานแล้วเห็นมั้ย มันกลายเป็นสถานการณ์มันแย่ขึ้นไปอีก เพราะไม่มีที่ให้พี่เปลี่ยนได้ไฟล์ทเต็มจริง ๆ แต่เราต้องการการดูแลจากเขา แต่การดูแลจากเขาและวิธีแก้ปัญหากลายเป็นว่าไปทำให้ผู้โดยสารคนนั้นโวยมาใส่พี่กับลูกสาวใหญ่เลย แอร์เลยบอกว่าคุณต้องนั่งที่เดิม เราก็โกรธไงสถานการณ์มันแย่ลง พี่เลยสลับที่กับลูกสาวเรานั่งกลางเอง ต้องนั่งอีกเกือบ 10 ชั่วโมง”

8 นก จริยา 1
นก จริยา

สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง ?

“พี่เริ่มตกใจละ เพราะว่าพี่มีภาวะแพนิกอยู่ด้วย กำลังรักษาอยู่ แต่ว่ามันดีขึ้นแล้ว ณ วันนั้นเราเริ่มตกใจละก็กังวลเยอะ แต่เราจะไม่ยอมกินยา แต่มีความรู้สึกว่ายามันทำให้ง่วง พี่ก็ไม่รู้สถานการณ์อีตาคนนี้ยังไง ก็เลยฝืนไม่กินยา”

หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นอีกมั้ย ?

“เขาก็ดื่มเครื่องดื่มไปเรื่อย ๆ เลย เขาก็หันมาสบถใส่เรา เราก็บอกพอหยุด ต่างคนต่างนั่งไป เราสองคนแม่ลูกโกรธการจัดการที่มันแย่มาก น้ำตาไหลอ่ะ มันไม่ควรเกิดขึ้น”

โกรธถึงขั้นอาการกำเริบหายใจไม่ออก ?

“พี่เริ่มมีการแพนิกตีกลับ แต่ไม่ยอมกินยาอยู่ดี กลัวแพ้มัน เกิดมันลุกขึ้นมา “

สุดท้ายมีคนมาช่วย ?

“ก่อนมีคนมาช่วยมันพีคขนาดที่เขาปัดแก้ววิสกี้ราดพี่หมดเลย เขานั่งสบถไปเรื่อย ๆ เราบอกพอ ๆ พยายามยุติทุกอย่างแล้ว เพราะมันแก้ไขปัญหาไม่ได้ เขาก็กินไปเรื่อย ๆ พูดโน่นพูดนี่ไปเรื่อยก็คงหมั่นไส้ แล้วทำเป็นปัด เราดูรู้เขาไม่ได้ง่วงหรืออะไร ปัดใส่พี่ราดเต็มกางเกงเลย พี่ก็แบบอะไรเนี่ย เราก็ลุกขึ้นไปกับลูกสาวไปเรียกหัวหน้าที่อยู่ไฟล์ทนี้มาพี่ไม่ไหวแล้ว เห็นมั้ยว่าพี่เปียก เขาก็มากันเลยทุกคน มาแค่พูดขอโทษ เราก็บอกว่าไม่นั่งแล้วตรงที่นั้นมันไม่ปลอดภัยจะทำยังไงให้ดูแลเราได้มากกว่านี้ ควรแก้ไขด้วยวิธีให้เรารู้สึกปลอดภัยด้วย”

สุดท้ายมีผู้โดยสารเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย ?

“แทนที่จะเป็นการแก้ไขจากสายการบิน กลายเป็นผู้โดยสารที่นั่งถัดจากพี่ไป 2 แถว เขาเดินมาบอกว่าถ้าต้องการเปลี่ยนที่บอกผมนะครับ ผมยินดี พี่แบบขอบคุณมาก แต่เราก็เกรงใจเขาเพราะที่นั่งเราเปียกวิสกี้หมดเลย เขาก็พยายามเดินมาบอกว่าไม่เป็นไร เราก็รับความช่วยเหลือจากเขา เขามากับครอบครัว คุณแม่ แล้วก็ภรรยาเขา เขาย้ายไปนั่งของพี่ 2 ที่ โดยที่เราก็ไม่หลับอีกเลย นั่งจ้องอย่างเดียวเมื่อไหร่จะถึง เครียดมาก พอเจ้าหน้าที่สายการบินรู้เรื่องแล้วก็เดินมาดูบ่อยขึ้น”

คนที่มาช่วยชาติไหน ?

“คนลาว ตอนแรกพี่คิดว่าเป็นคนไทย น่ารักมาก ๆ เลย เดินเข้ามาผมยินดีนะครับ ผมมีลูกสาวผมเข้าใจ แล้วมันไม่ควรเกิดขึ้น”

อยากบอกอะไร ?

“รู้สึกว่าสิ่งที่ขอบคุณไปวันนั้น ยังไม่ได้รู้สึกว่าขอบคุณเท่าที่เราอยากจะขอบคุณเลย เราเลยตัดสินใจมาลงโซเชียลอีกครั้งนึง เพราะรู้สึกว่าการพูดถึงคนดีมันไม่ใช่สิ่งที่ผิด พี่อยากขอบคุณ เพื่อคำขอบคุณไปถึงเขาได้อีก เราเลยตัดสินใจลงไอจีในวันนั้น ถ้าไม่ได้เขาอาการแพนิกคงกลับมาแย่กว่าเดิมเยอะ พี่ยังทำเรื่องราวกับสายการบินต่อเราไม่ได้ปล่อยผ่าน อย่างน้อย ๆ จะได้กระตุ้น เผื่อระวัง ให้มันดีขึ้นได้บ้างพี่ว่ามันไม่ควรเงียบ”

ลูกสาวเป็นยังไงบ้าง ?

“เขาโกรธมากน้ำตาไหล เขาเป็นห่วงแม่ด้วย อยู่ดี ๆ มาเจอเหคุการณ์แบบนี้ เราก็ยังมองเขาในแง่ดี”

8 นก จริยา 2
นก จริยา

อาการแพนิกเป็นมานานหรือยัง ?

“เป็นในช่วง 2-3 ปีที่ทุกคนโดนภาวะโควิด พี่งงตัวเองมากเลย เราเป็นคนทำงาน เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นคนแข็งแรงมาตลอด เราจะไม่เคยรู้จักเลยแพนิกคืออะไร แต่ช่วงที่เป็นมันมีภาวะของการทำงานไม่ได้ ต้องหยุดงาน ชีวิตลูกน้องครอบครัวลูกน้อง เราเก็บทุกภาวะความเครียด ทุกข่าว เป็นช่วงที่คุณพ่อของพี่ไม่สบาย หมอก็ต้องไปดูแลคนไข้โควิดมากกว่า โรงพยาบาลไม่สามารถไปได้ มันเลยทำให้การรักษายากลำบาก ทำให้เราเครียด ห่วงพ่อ ห่วงงาน ห่วงลูกน้อง มันคงเป็นมวลรวมของคนที่เจอในช่วงนั้น”

แพนิกเกิดขึ้นได้เพราะความกังวล ?

“ใช่ค่ะ มันเป็นโรคของความวิตกกังวล เราคงเครียดไม่รู้ตัว สิ่งที่เพิ่งมารู้มาเห็นคือคนที่เป็นแพนิกมักคิดว่าตัวเองแข็งแรง เก็บโน่นเก็บนี่ไว้เอยะ ๆ โดยที่ไม่รู้ตัว มันเป็นสิ่งเคมีในร่างกาย ภาวะทางอารมณ์ที่เราควบคุมไม่ได้ แต่คิดว่ามันมาจากความเครียด”

เจอเหตุการณ์รถชน เกี่ยวโยงกันมั้ย ?

“มันกระตุ้นอาการออกมา เป็นคนชอบขับรถเอง ไปได้เองโดยไม่ต้องรอใคร มีช่วงละครถ่ายต่างจังหวัด คงเหนื่อยเครียด จากภาวะที่เล่า วันนั้นก็ดื้อขับรถไปเองตอนกลางคืนเพื่อที่จะได้ไม่ต้องขับรถแต่เช้า ไปตอนเที่ยงคืน อยู่ดี ๆ เกิดอาการหลับใน เห็นอีกทีเป็นท้ายรถบรรทุก เราตกใจเลยชะลอเข้าข้างทาง เราบอกตัวเองว่าเราง่วงตบหน้าตัวเองใหญ่เลย พอขับออกไปอีกเป็นอีกแล้ว เพราะภาวะตกใจเมื่อกี้มันสตั๊นท์มาก บอกกับตัวเองฉันไม่ได้กลับแน่ ๆ เลย ฉันตายแน่ ๆ วันนี้ มันเลยทำให้แขนขาชา เลนโทรบอกน้องสาวให้มารับหน่อยจอดอยู่ข้างทาง”

จนวันนี้ยังขับรถไม่ได้ ?

“ยังขับไม่ได้เลยจะ 2 ปีกว่าแล้ว ช่วงแรกเราไม่เชื่อคิดว่าแค่เพลีย คิดว่าแค่ตกใจ เหมือนสักพักนึงอาการมันพัฒนาแรงขึ้น ๆ มีอาการอื่นแทรกซ้อนเข้ามาอีก มีอาการตามมาคือพอนอนปุ๊ปตกใจตื่น ผวาขึ้นมา กว่าจะดีขึ้นต้องใช้เวลา อีกอย่างคือวันไหนถ้าเราตกใจหรือมีความกังวลอะไรเราจะเดินไม่ได้ แพนิกไม่ได้ทำให้ใครตายหรือป่วยทางกาย มันเป็นที่จิตสั่งและเคมีในสมอง”

การรักษา ?

“ตัวเองรักษาตัวเองไม่ได้แล้ว เลยหาหมอดีกว่า เราไม่อยากเป็นภาระลูกหรือคนรอบข้างงานก็ทำไม่ได้ดี หาหมอจิตแพทย์”

ไม่ได้บอกคนในครอบครัว ?

“ตอนนั้นเราไม่รู้เป็นแพนิก บอกลูกว่าอาการยังไง ไปหาหมอยังถามหมอเลยเราจะเป็นคนบ้าหรือเปล่า คุณหมอบอกคนเป็นเยอะมาก จากภาวะโควิด มันเป็นสภาวะกระทบจิตใจไม่รู้ตัว คุณหมอจะคุยแล้วดูตามสิ่งที่เราเป็นว่าควรปรับเคมี หรือได้นอนแบบไม่ผวา รักษาตามสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา แล้วก็ทานยา”

อาการแพนิกแย่ลงเพราะเจอเหตุการณ์บนเครื่องบิน ?

“พี่ดีขึ้นแล้วนะ แต่พอเจอคนนั้นในวันนั้น เป็นอะไรที่เราแบบจะไปเที่ยวสบายใจ แล้วมาเจอ”

เยียวยาตัวเอง ?

“2-3 ปีนี้สอนอะไรเราเยอะมาก เรามาเรียนรู้ว่าชีวิตมันไม่แน่นอนจริง ๆ เราจะเครียดทำไม รักษาตัวเองด้วยการหาหมอ พยายามบอกตัวเองว่ามีความสุขเถอะทุกวันนี้ มองโลกอย่างที่โลกเป็น”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo