แม่น้องอิงฟ้า เวทีหนูน้อยกล้วยไข่ เปิดใจครั้งแรก หลังสร้างตำนานคืนรางวัล และพาลูกสาวลงเวที ด้านกรรมการ เผย คะแนนพลิกจริง
กำลังเป็นดราม่าร้อนที่โลกออนไลน์กำลังพูดถึง สำหรับ เวทีประกวดชื่อดังของจังหวัดกำแพงเพชร อย่าง “หนูน้อยกล้วยไข่เมืองกำแพง” ในงานสารทไทยกล้วยไข่และของดีเมืองกำแพง ซึ่งในคลิปที่ถูกแชร์นั้นเป็นนาที หลังการประกาศผลการตัดสินออกมา และทางผู้ปกครองของผู้เข้าประกวดตัดสินใจบุกขึ้นไปบนเวที พร้อมกับปลดสายสะพานและคืนถ้วยรางวัล ก่อนที่จะเดินพาลูกลงเวทีไป
- เดือด! แม่ผู้เข้าประกวด หนูน้อยกล้วยไข่ สร้างตำนานคืนรางวัลกลางเวที
- นางงามสุดฮอต เปิดใจครั้งแรก ถูกสั่งห้ามมีแฟนจริงหรือไม่…?
- โมเมนต์อบอุ่น ‘โอ๋ ภัคจีรา’ ลงภาพพร้อมหน้าอดีตสามี หลังประกาศลดสถานะ
แม่น้องอิงฟ้า เวทีหนูน้อยกล้วยไข่ เปิดใจครั้งแรก
ล่าสุด (27 ก.ย.) แม่น้องอิงฟ้า เวทีหนูน้อยกล้วยไข่ ได้เปิดใจผ่านทาง อมรินทร์ทีวี ทางโทรศัพท์ว่า หลังการประกาศผลคะแนนตนได้เดินไปที่โต๊ะของคณะกรรมการที่รวมคะแนน เพื่อจะไปถามว่า “นับคะแนนผิดหรือเปล่าคะ” เพราะดูจากหน้างานแล้วมองว่าน้องอิงฟ้าน่าจะชนะ เพราะตอบคำถามดี บุคลิกดี เมื่อเทียบกัยเด็กอีกคน แต่ก็ไม่ได้บูลลี่เด็ก เพราะเด็กไม่รู้เรื่อง
เราพาลูกประกวดมาเยอะมาก ประกวดตั้งแต่ 4 ขวบ ไปมาหลายเวที แพ้บ้างชนะบ้างแต่ก็เคารพการตัดสิน แต่ครั้งนี้คิดว่าลูกน่าจะชนะ จึงไปถามเพื่อขอดูคะแนน แต่ทุดคนในโต๊ะนั้นเงียบกันหมดทั้ง 6 คน มีแค่ป้าแก่ ๆ คนหนึ่งเดินมาบอกว่า “รอประกวดเสร็จก่อนค่อยดูคะแนนนะคะ” แต่เราบอกว่าเขาจะมอบรางวัลกันแล้ว ขอดูก่อนได้ไหม ป้าคนนั้นก็ชี้ไปที่หัวหน้า แล้วบอกว่าหัวหน้าจะเป็นคนบอกคะแนน เราก็เลยเดินไปหาหัวหน้า ซึ่งเขาก็เดินหนีไปที่เวปที เราก็เลยตามไปจอดูคะแนน เมื่อเขาไม่ให้ดูเราจึงขออนุญาตเขา ยกมือไหว้ขอถอดสายสะพาย เพื่อรอดูคะแนนก่อน
ซึ่งไม่ใช่เราคนเดียวที่ไปขอดู มีคนอื่นด้วย และตอนนั้นคนบนเวทีก็โห่ ตะโกน “ไม่ใช่ ๆ” เพราะเขาเชียร์ลูกเราทั้งที่ไม่ได้รู้จักกัน ตนยืนยันว่าไม่ได้โวยวายด่าทอ มีแต่ทางผู้จัดที่บอกว่าถ้าทำกันแบบนี้ ปีหน้าจะไม่จัด แถมยังให้ทหารมากันออกไปด้วย
คุณพาชื่น โตพุ่ม แม่น้องกีว่า เปิดเผยว่า ตอนแรกตนก็ดีใจที่น้องได้ที่ 1 ไม่ได้หวังว่าลูกสาวของตนเองจะเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายด้วยซ้ำ ตนเองยังคิดเลยว่าน้องคนที่ 2 เขาเป็นสายประกวด เราก็คิดว่าน้องเขาตอบเป๊ะมาก ส่วนของน้องกีว่าเป็นคำถามของเด็กน้อยใส ๆ เลย ตอบสด ๆ หน้าเวที คำถามถามว่า “ถ้าหนูเห็นเพื่อนเล่นโทรศัพท์ หนูจะบอกเพื่อน ๆ ว่ายังไง” น้องกีว่าก็ตอบแบบเด็ก ๆ เลยว่า “ระวังนะเดี๋ยวตาบอด เพราะว่าเดี๋ยวตาช้ำ ตาไม่สวย” นี่คือวัยเด็ก 5 ขวบที่ตอบ เราก็คิดแค่ว่าน้องทุกคนสุดยอดมาก
ที่ส่งลูกประกวด เพราะลูกสาวบอกว่าอยากแต่งชุดเดินประกวดสวย ๆ บนเวที ก็บอกลูกว่ามันต้องทำอะไรบ้าง เขาก็โอเค ถือว่าลูกสาวได้ประสบการณ์ ส่วนเรื่องกฎของทรงผม ที่บอกว่าทุกคนต้องกตีผมฟาร่านั้น อยากชี้แจงว่าใบงานประกวดมีบอกว่า
1.ทุกคนต้องใส่เสื้อแขนกระบอก ใส่ผ้าถุงพื้นเมือง จะใส่งอบหรือไม่ ต้องไปประชุมวันที่ 26 กันยายน 2565
2. เรื่องทรงผม ทางออร์แกไนซ์ได้ปรึกษากันเหมือนกันว่าจะทำทรงอะไรกันดี ให้ผู้ปกครองเสนอ แต่ก็ไม่มีคนเสนอ ทางออร์แกไนซ์จัดงาน บอกว่าขอความร่วมมือเป็นทรงฟาร่าแล้วกัน ให้มันเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ไม่ได้กฎเกณฑ์ตายตัว
แต่เราก็คิดว่า ผมฟาร่าสีผมของลูกเราไม่เหมือนคนอื่น ก็จะพยายามหาวิกผม ถามว่ามันเหมือนกับฟาร่าไหม เราก็คิดว่าไม่ได้คิดให้ลูกเราเข้าที่ 1 ให้แค่เขาได้กล้าแสดงออก เราจึงเลือกทรงผมนี้ให้เหมาะกับน้อง ไม่ได้ทำทรงฟาร่าตามที่ออร์แกไนซ์เขาเสนอมา เราคิดว่าทรงฟาร่าไม่เหมาะกับลูกของเรา เพราะน้องวิ่งซน เดี๋ยวผมหลุด
ส่วนเรื่องดราม่า ที่มองว่า ทางครอบครัวนี้สนิทกับคณะกรรมการหรือไม่ ขอชี้แจงว่า “เราไม่คิดว่าลูกเราได้หรอก เราไม่รู้จักคณะกรรมการแต่ละท่านเลย เราเพิ่งกลับมาอยู่ที่จังหวัดกำแพงเพชรได้ 5 ปีเองมาตรวจสอบได้เลย ถนนบางเส้นยังหลงด้วยซ้ำ
ถามว่าตกใจไหมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ที่มีการคืนสายสะพายกรรมการ วินาทีที่ประกาศว่าน้องได้ตำแหน่ง เราไม่ได้โฟกัสตรงนั้นหรือสายสะพาย เราถ่ายรูปลูกเราอย่างเดียว จนได้ยินเสียงแว่ว ๆ ว่าคล้องสายสะพายผิดค่ะ น้องกีว่ายังหันซ้ายหันขวาอยู่เลย เราตะโกนบอกลูกว่าแม่อยู่ตรงนี้ ตอนถ่ายรูปรวมเราเพิ่งจะแปลกใจว่าน้องได้ที่ 2 ไปไหน และถ่ายรูปก็ไม่เห็นน้องอิงฟ้าอยู่ในเฟรมด้วย พอเสร็จก็แยกย้ายกลับ
คุณดวงตา คำพรม คณะกรรมการ เวทีประกวดหนูน้อยกล้วยไข่เมืองกำแพง กล่าวว่า เกณฑ์การตัดสิน มี 100 คะแนนเต็ม แบ่งเป็น 4 หัวข้อ หัวข้อละ 25 คะแนน มีทั้งปฏิภาณ ไหวพริบ การเดิน การตอบคำถาม บุคลิกภาพ ไม่มีการแสดงความสามารถ และมีกรรมการการตัดสินทั้งหมด 5 คน แต่ละคนก็ไม่ทราบว่าให้คะแนนใคร เพราะแต่ละรอบการรวมคะแนนก็คือคนจัดงาน คณะกรรมการไม่ได้เห็นคะแนนของกันและกัน
แม้กระทั่งคำถาม ทางคณะกรรมการก็ไม่ได้ทราบว่าจะถามว่าอะไร เพราะทางผู้จัดงานเขาเป็นคนเตรียมให้ และน้องทุกคนก็ตอบเป็นภาษาไทย ชุดที่บังคับคือแต่งกายชุดชาวสวน ทรงผมไม่ได้บังคับ เขาไม่ได้แจ้งกับทางคณะกรรมการ ส่วนตัวเองลงคะแนนให้น้องอิงฟ้า เราตัดสินจากคนเชียร์ และหน้างานด้วยว่าเห็นตรงกันไหม ควรเลือกใคร ความคิดของเราน้องอิงฟ้าก็เหมาะสมที่สุดในคืนนั้นจริง ๆ แต่ผลออกมาแบบนั้น ทางผู้จัดงานควรออกมาชี้แจงให้กระจ่าง
ทางผู้ปกครองต้องสามารถตรวจสอบได้ เพื่อความโปร่งใส ไม่งั้นคณะกรรมการโดนด่าเละ หาว่าไม่เป็นธรรม ความจริงตั้งแต่มีเรื่องเมื่อคืน ทางผู้จัดควรชี้แจงให้เข้าใจตั้งแต่แรก ผู้ปกครองก็ไม่ได้รับความกระจ่างตรงนั้น ถ้าชี้แจงได้ก็จบตั้งแต่เมื่อคืน ตอนนี้เราก็เสียหายเหมือนกัน เราก็ตัดสินตามคนทั่วประเทศเห็นเลยก็ว่าได้ แต่ผลดันออกมาไม่ตรงแบบนี้ เราก็เครียดเหมือนกัน สถานการณ์เมื่อคืนก็วุ่นวายเหมือนกัน ความจริงควรตรวจสอบได้ เพราะคณะกรรมการทุกท่านลงลายเซ็นไว้ในใบคะแนนทุกคน
ขอบคุณ : amarintv
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นารา เครปกะเทย พ้อดวงจิตได้สลายหายไปแล้ว เหลือเพียงแค่สิ่งนี้…?
- ตอบแล้ว! โบกี้ ไลอ้อน เปิดเคล็ดลับความปัง ทำไมช่วงนี้ดูสวยขึ้นมาก
- Dispatch ปล่อยรูป นางเอกซุป’ตาร์ เกาหลี ซุ่มเดท CEO บริษัทยักษ์ใหญ่