อ่านเลย! ทนายตั้ม แนะวิธีเป็นพลเมืองดี แบบไม่ให้ซวย หลัง เคนลี จ่อฟ้องคนถ่ายคลิป

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 10 มิถุนายน 2565

ทนายตั้ม แนะวิธีเป็นพลเมืองดี แบบไม่ให้ซวย หลัง เคนลี Take Me Out Thailand ขู่ฟ้องคนถ่ายคลิป การบันทึกภาพหรือคลิปเพื่อเป็นหลักฐานทางคดี ไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอม แต่การนำมาโพสต์อาจเข้าข่ายหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หรือกฎหมายใหม่ PDPA ยกเว้นแต่ว่าเซ็นเซอร์หน้าบุคคลอื่นให้เป็นบุคคลนิรนาม

จากกรณีที่ มีคลิปถูกแชร์ว่อนโซเชียล เป็นคลิปที่ชายหนุ่มคนนึง เกิดทะเลาะวิวาทกับแฟนสาว กลางคอนโดหรู โดยภายในคลิปดังกล่าว มีการตบตี ฉุดกระชาก ลากไปกับพื้นอย่างทารุณ ก่อนที่ทาง รปภ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะลงพื้นที่เพื่อยุติเหตุการณ์ ซึ่งงคลิปดังกล่าวมีพลเมืองดี ลูกบ้านในคอนโดได้ถ่ายเอาไว้ และภายหลังได้มีการรายงานว่า ชายหนุ่มในคลิปคือ เคนลี Take Me Out Thailand

ทนายตั้ม แนะวิธีเป็นพลเมืองดี หลัง เคนลี Take Me Out Thailand จ่อฟ้องคนถ่ายคลิป

ซึ่งหลังจากคลิปดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปนั้น ทาง ข่าวช่อง 3 ก็ได้มีการรายงานว่า เคนลี Take Me Out Thailand จ่อฟ้องพลเมืองดีที่ถ่ายคลิปและนำมาโพสต์ลงโซเชียล โดยให้เหตุผลว่าถูกละเมิดสิทธิ์ตามกฎหมาย PDPA เนื่องจากขอให้ลบคลิปแล้ว แต่ไม่ยอมลบ

ล่าสุด (9 มิ.ย.) ทนายตั้ม-ษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้ออกมาโพสต์แนะวิธีการเป็นพลเมืองดียังไงไม่ให้ซวยโดนฟ้องกลับ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ

ทนายตั้ม กล่าวว่า “การบันทึกภาพหรือคลิปวีดีโอเพื่อเป็นหลักฐานทางคดี ไม่จำต้องได้รับความยินยอมใด ๆ ครับ แต่การนำมาโพสต์อาจเข้าข่ายหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หรือกฎหมายใหม่ PDPA ยกเว้นแต่ว่าเซ็นเซอร์หน้าบุคคลอื่นให้เป็นบุคคลนิรนามก่อน

คำแนะนำคือหากเกิดเหตุสุดวิสัย หรือเป็นพยานในเหตุอาชญากรรมใด ๆ สามารถบันทึกภาพและวีดีโอเพื่อนำเป็นหลักฐาน และส่งเจ้าหน้าที่ดีที่สุด แบบนี้สามารถดำเนินคดีได้ โดยไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนด้วยนะครับ”

ขอบคุณข้อมูล : ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ