Entertainment

หัวอกแม่! ‘บุ๋ม ปนัดดา’ ถามถึงความในใจคุณแม่ ‘น้องจูน’ หลังรับฟังคำพิพากษา

จากความรู้สึกของแม่! เมื่อ “บุ๋ม ปนัดดา” ถามถึงความในใจคุณแม่น้องจูน หลังรับฟังคำพิพากษา พร้อมประกาศขอเดินหน้าขายของออนไลน์ต่อเพื่อเคลียร์หนี้สินที่ใช้รักษาตัวน้องจูน

หลังจากที่เฝ้ารอฟังคำตัดสินมายาวนานถึง 5 ปี ในที่สุด ศาลมณฑลทหารบกที่ 15 จ.เพชรบุรี ได้มีการอ่านคำพิพากษาในคดี น.ส.สุกฤตา สุภานิล หรือน้องจูน พนักงานราชการสังกัดค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกอดีตสามี นายทหารยศร้อยตรี ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลกว่า 3 เดือน โดยศาลพิพากษาว่า ข้อหาพยายามฆ่า พิจารณาแล้วว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหาย แต่เป็นการทำร้ายร่างกาย เนื่องจากบันดาลโทสะ เป็นเหตุให้ผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส พิพากษา จำคุก 1 ปี 6 เดือนแต่จำเลยไม่เคยกระทำความผิดและถูกลงโทษ ให้รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 12,500 บาท

สำหรับข้อหาอาวุธปืน นำสืบไม่ได้ ยกประโยชน์ให้จำเลย ส่วนข้อหาชิงทรัพย์ ไม่สามารถนำสืบได้ ยกประโยชน์ให้จำเลย คดีนี้ถือว่าสิ้นสุดแล้ว (เนื่องจากมีเพียงศาลเดียวในขณะเกิดเหตุมีการประกาศใช้กฎอัยการศึก) งานนี้ บุ๋ม-ปนัดดา อั๋น-ภูวนาท และ แก้มบุ๋ม-ปรียาดา พิธีกรรายการ แซะ ที่ CHANGE2561 ร่วมกับทาง อมรินทร์ ทีวี เอชดี 34 ก็ได้ต่อสายตรงยกหูหา คุณแม่สุนทรี เถาวัลย์ แม่ของน้องจูน เปิดเผยความรู้สึกหลังฟังคำพิพากษาว่าน้อมรับคำตัดสิน พร้อมกับเปิดความรู้สึกของคนเป็นแม่ที่ยังคงต้องเดินหน้าต่อไป

batch บุ๋ม1

“บุ๋ม ปนัดดา” ถามถึงความในใจคุณแม่ “น้องจูน” หลังรับฟังคำพิพากษา

คุณแม่ ในความรู้สึกของแม่นะคะ ตั้งแต่ที่น้องจูน เป็นข่าวมาตั้งแต่ขึ้นขบวนการยุติธรรมแม่ก็ได้ตั้งใจไว้แล้วค่ะ ไม่ว่าผลจะตัดสินออกมาเป็นอย่างไร แม่ น้อมรับคำตัดสินแล้วก็บอกน้องจูน ตลอดเวลา 5 ปีว่าผลออกมาเป็นอย่างไร เราต้องน้อมรับแล้วพอผลออกมาจริง ๆ ในความรู้สึกของคนเป็นแม่นะคะ แล้วก็เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วยแม่ก็อึ้งไปชั่วขณะเหมือนกัน แล้วก็หันมามองหน้าลูกบอกลูกด้วยสายตาว่าอย่ามีน้ำตาเด็ดขาด แล้วพอสิ้นสุดก็มันพูดอะไรไม่ออกหรอกค่ะ

แต่เราเคารพการตัดสินใจของศาลไม่ละเมิดอำนาจศาลแต่ในความรู้สึกของตัวเอง ของผู้หญิงคนหนึ่ง ของแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต่อสู้ช่วยลูกทุกอย่างมา 5 ปี สำหรับวันนี้มันจบแล้วค่ะ แม่ถึงบอกว่าแม่เคารพในสิ่งที่ศาลตัดสิน แต่น้ำตาของคนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมันสามารถตัดสินได้ว่าแม่รู้สึกยังไง รู้สึกมากน้อยแค่ไหน เพราะคดีของน้องจูน ไม่ใช่ว่าแม่ต่อสู้แค่สองคนนะคะ คนไทยทั่วประเทศก็ร่วมกันต่อสู้กับแม่แล้วก็รอการตัดสินวันนี้ด้วยค่ะ

บุ๋ม ปนัดดา หลังจากศาลตัดสินมาเรียบร้อยแล้ว แล้วแม่เองก็สู้เรื่องคดีความลาออกจากงานและมาขายของเพื่อที่จะดูแลน้องจูน อย่างใกล้ชิด 5 ปี เต็ม ๆ แล้ว หลังจากนี้แม่จะสู้อย่างไรต่อไปเพื่อประคับประคองชีวิตสองชีวิตนี้ให้เดินต่อไปยังไงดีค่ะแม่

batch บุ๋ม2

คุณแม่ คือ แม่ก็บอกน้องตลอดเวลานะคะ ว่าให้เข้มแข็งถ้าเราจะร้องไห้เราจะกลับมาร้องในห้องกันสองคนเราจะไม่ร้องที่ไหน เราจะต้องเข้มแข็ง แม่ก็ต้องทำงานขายของต่อไป น้องจูน ก็ต้องทำงานที่เขารักคือเป็นพนักงานข้าราชการ แต่แม่ก็พยายามบอกน้องว่าเราก็ยังดีนะ เพราะแม่ยังได้ลูกสาวกลับคืนมาถึงแม้น้องจูนจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะว่า น้องจูน ต้องหาหมอถึง 4 หมอ คุณหมอศลัยกรรมประสาท

ทุกสามเดือนเพราะว่าน้องจะมีอาการเดินไม่ตรงมีอาการเหมือนกับเสียงดังพูดลิ้นรัว ถ้าท่อน้ำตาอุดตันน้ำตาจะไหลต้องไปเหมือนกับว่าไปจี้ไปผ่าในท่อน้ำตาด้วยแล้วเมื่ออาทิตย์ที่แล้วไปหาหมอ จิตเวทเพื่อปรับยาเหมือนกับน้องจะหงุดหงิดเสียงดังโมโหง่าย ขี้ลืมก็ต้องไปปรับยา แล้วก็หาคุณหมอศัลยกรรมพลาสติกที่ว่าจากเพจอีจัน พาน้องไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีมาจากที่ซีกซ้ายน้องโดนทุบไปเราก็ต้องเติมไขมันซึ่งปีหนึ่งต้องเติมหนึ่งครั้ง ซึ่งใช้ไขมันของตัวเองเติมอย่างนี้ค่ะ

บุ๋ม ปนัดดา แล้วทีนี้ครอบครัวของเราเองก็ต้องแบกค่าใช้จ่ายในเรื่องของการเดินทางไปหาหมอค่ารักษาต่าง ๆ ที่เบิกไม่ได้ คุณแม่สู้ด้วยการขายของออนไลน์ใช่ไหมคะ

อั๋น ภูวนาท : แล้วช่วงที่เราอยู่ ICU เราต้องเสียค่ารักษาทุกอย่างเองหมดเลยเหรอครับ

คุณแม่ : คือ หัวหน้าของน้องจูน ท่านก็เมตตาออกยานอกบัญชีให้ แล้วเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนก็เรี่ยไรเงินมาให้แม่เรื่อย ๆ ค่ะ

อั๋น ภูวนาท : แต่อย่างไรก็ยังมีภาระหนี้สินจากที่เราต้องดูแลรักษาพยาบาลกันมา ตอนนี้ยังมีภาระหนี้สินอีกมากน้อยแค่ไหนครับ

คุณแม่ ตอนนี้แม่มีภาระหนี้สินอยู่ประมาณเกือบ ๆ 7-8 แสนบาทค่ะ ตอนนี้แม่ก็ขายของออนไลน์อยู่ที่ ปังปังcoffee1365

  batch บุ๋ม3

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo