สมรักษ์ ไม่ได้โม้ เครียดจริง ๆ โดนโกงลอตเตอรี่ 11 ล้าน จุกซ้ำเจอเช็คเด้ง เจ็บกว่าโดนหมัด

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 22 มิถุนายน 2564

จากรกณี สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก ถูกหลอกให้ลงทุนซื้อลอตเตอรี่แล้วเบี้ยวสูญเงินกว่า 11 ล้านบาท ล่าสุด (21 มิ.ย.) รายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ สัมภาษณ์เปิดใจ สมรักษ์ พร้อมด้วย ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น

โดย สมรักษ์ เผยว่าตอนนี้ยังไม่ได้เงินคืน หลังจากที่คู่กรณีนัดว่าจะเคลียร์ให้ไม่เกินเที่ยงของวันที่ 21 มิถุนายน ซึ่งก็เป็นครั้งที่ 5 แล้ว ชาวบ้านจากหลายที่ก็มารอที่จะเอาเงินคืน แต่ตอนนี้ยังติดต่อไม่ได้เลย ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่อยากไปออกรายการ ไม่อยากเป็นข่าว เพราะกลัวว่าเป็นข่าวดังขึ้นมาจะไปกระเทือนครอบครัวเขา แต่ที่ต้องมาออกเพราะเป็นห่วงชาวบ้านที่เดือดร้อนเหมือนกัน จึงตัดสินใจมาออกรายการ

ก่อนจะย้อนเล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า “มีชาวบ้านจากอุบลราชธานี กับสุรินทร์ มาหาผมที่บ้าน 10 กว่าคนได้ คนเฒ่าคนแก่ทั้งนั้น อยากให้ผมเป็นตัวแทนซื้อลอตเตอรี่ให้หน่อย เพราะไม่รู้จะไว้ใจใครแล้ว พวกเขาบอกว่าก่อนหน้านี้เคยโดนโกงมาแล้ว 400 กว่าล้าน เขาบอกว่านักมวยแถวนั้นแนะนำมา เลยมาหา สมรักษ์ คำสิงห์ พอไปดูตรงนั้นปุ๊บ ผมก็ไปเจอนายหน้าเข้ามาคุยด้วย เพื่อติดต่อประสานงาน ชื่อ พี่ชอบ เขาก็มาหาผมที่บ้านเลย”

“ตอนนั้นชาวบ้านก็อยู่ นัดกินข้าวกัน พี่สาวเขา พี่หญิงก็มา ผมซื้อจากเขา ก้อนแรกประมาณ 10 ล้านบาท ตอนนั้นที่โอนไปรอบแรก ไม่ใช่เงินผมเลย เป็นเงินชาวบ้านที่เขาโอนเข้ามาไว้ในบัญชีของผมก่อน ป้องกันการโดนโกง ผมไม่เคยรู้จักเขามาก่อน แต่พอดูประวัติว่าเป็นพี่ชอบ มีพี่สาวเป็นคนค้ำประกัน แล้วก็มีลูกชายเป็นนายตำรวจใหญ่เลยไว้ใจ ครั้งแรกหลังจากที่โอนไป 10 ล้าน ก็มีของมาจริง ครบถ้วน ชาวบ้านก็เลยดีใจ เลยจะทำการซื้อขายต่ออีก เริ่มมามีปัญหาประมาณงวดที่สาม”

งวดที่ 2 นี่ ตอนแรกคุยกับคุณหญิง พอสั่งไปเขาก็ให้ส่งไปบัญชีอื่น หลายบัญชี เหมือนกับงวดแรก ผมก็โอนตามที่เขาบอก เขาบอกว่าพวกนี้คือเจ้าของโควต้า โอนไปโอนมา รอบแรก 30 – 40 ล้านบาทได้ เป็นเงินชาวบ้านรวมกันมา แล้วไม่ได้ของ ทีนี้ชาวบ้านมารอกันเต็มเลย ดันมีอีกเจ้าโทรมา บอกว่าถ้าจ่ายวันนี้ พรุ่งนี้ได้ของเลย ชาวบ้านเขาบอกให้จ่าย ผมก็จ่ายไปอีก 10 กว่าล้านบาท รวมแล้ว 50 กว่าล้าน ไป ๆ มา ๆ บัญชีพวกนี้ดันเป็นของพี่หญิงคนเดียว เป็นเครือข่ายของเขา จากเกือบ 60 ล้านบาท ตอนนี้ได้ของจริงมา 40 กว่าล้านบาท”

“ส่วนที่เหลือทวงไปก็ยังไม่ได้ ชาวบ้านเลยจะไปแจ้งความ ทีนี้เลยมีคนชื่อ ดวงตา มาหา เซ็นเช็คให้บอกว่าเจ้านายให้มารับผิดชอบ เขาเซ็นเช็คมาให้ 20 กว่าล้านบาท สั่งจ่ายเป็นชื่อผม ชาวบ้านสบายใจ เลยกลับบ้านไป เขานัดไว้อีก 10 วัน ให้มาขึ้นเงิน ระหว่างนั้นเขาก็ส่งลอตเตอรี่มาให้ เราก็หักไป ๆ ทำธุรกิจกันต่อ แต่พอถึงวันขึ้นเงิน เราก็เอาเช็คไปขึ้น ธนาคารบอกว่าเช็คโดนเจ้าของบัญชีอายัดไปแล้ว จ่ายมาจนถึงตอนนี้ ประมาณ 10 ล้าน 7 แสนบาท”

“ส่วนที่ตอนแรกยังไม่แจ้งความ เพราะอยากให้โอกาสเขา เพราะเขาบอกว่าเดี๋ยวให้ ๆ เราก็สงสารเขา เป็นอย่างนี้มาตลอด แต่พอไม่ให้ ชาวบ้านก็ด่าผมเลย เราเองก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องเกิดราว แต่ไป ๆ มา ๆ มารู้ว่าโดนกันแบบนี้หลายคน แล้วให้คนชื่อดวงตามาเซ็นเช็คเอาไว้ที่ สน. หลายที่ด้วย ตอนแรกรายการทีวีอยากจะให้ผมออกไปพูด แต่ผมก็สงสารเขา สงสารลูกเขา แต่พอเขาบอกว่าจะสู้คดี ผมนี่ขึ้นเลย เพราะคุณเอาเงินเขาไป มันต้องมีคุณธรรม เขามาขู่ชาวบ้านว่า ใครไปแจ้งความ เขาจะไม่จ่าย แต่คุณเอาเงินเขาไป เขาอ้างว่าผู้ใหญ่ยังไม่จ่าย เราก็สงสัยว่าผู้ใหญ่นั่นใคร ผมจะได้ไปกราบ ขอเงินคืนให้กับชาวบ้าน ชาวบ้านเขาเดือดร้อนกันหนัก”

“ส่วนตัวของผมเอง ผมไม่ได้ร่วมลงทุน แต่พอไม่ได้ของ แล้วมันมีคนเดือดร้อนเยอะ ๆ เนี่ย ผมก็เอาเงินตัวเองสำรองจ่ายให้ไป ยืมลูกมาด้วย เพราะเราสงสารชาวบ้าน เขามานอนรอถึงที่เลย เมียผมด่าผมก็ยอม เพราะผมอยากช่วยชาวบ้าน เมื่อชาวบ้านมาขอร้องเรา เราก็เต็มใจอยากจะช่วย แต่เราไม่คิดว่าเราจะโดนโกง แค่เห็นวันแรก 10 ล้าน เราก็สั่นแล้ว มันเป็นเงินชาวบ้าน แต่พอเห็นว่าเขาได้ของกันจริง ๆ เราก็ดีใจ มีความสุข ที่ผมไม่โดนชาวบ้านแจ้งความ เพราะเวลาคู่กรณีคุยกันผม ผมก็เปิดลำโพงให้ชาวบ้านได้ยินทั้งหมด ทำให้ชาวบ้านไว้ใจผม ถ้าผมตุกติกจริง ชาวบ้านเขาแจ้งความจับผมแล้ว ชาวบ้านมาขอร้องให้ช่วย ผมก็ช่วย ถึงคราวหน้าเขามาขออีกผมก็ต้องทำ แต่ถ้าจะให้โอนไปก่อนอีกผมก็ไม่ทำแล้ว ต้องเห็นของมาก่อนผมถึงจะโอน หรือไม่ก็ไปซื้อแคชเชียร์เช็คมาผมถึงจะยอม ถ้าเกิดเขาไม่คืนจริง ๆ ผมก็ต้องหาทางช่วยชาวบ้านด้วยตัวผมเองนี่แหละ เงินที่ผมหาได้ก็ต้องทยอยคืนชาวบ้านไป มันอาจไม่ใช่เรื่อง แต่ผมก็ต้องทำ”

ด้าน ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พูดถึงกรณีนี้ว่า “ตามกฎหมายแล้ว ถ้าไม่ได้ของก็ต้องคืนเงิน เพียงแต่ว่าบางคนยังไม่คืนก็ต้องมีเหตุผลว่าไม่คืนเพราะอะไร พี่สมรักษ์เป็นคนใจดี เวลาไปแจ้งความก็จะบอกว่าให้โอกาสคน เลยไม่ได้ทำอะไรเลย ตั้งแต่ที่โดนเอาเงินไป 20 ล้าน พยายามจะไปแจ้งความ แต่ก็บอกว่าให้โอกาสเขามาตลอด จนเกือบจะไม่ได้แจ้งแล้ว ซึ่งในระหว่างที่พี่สมรักษ์บอกว่าให้โอกาส ๆ เนี่ย เขากำลังหาทนายเพื่อมาสู้คดีอยู่ มันมีประเด็นหนึ่งที่เขายืนยันว่าเขามีโควต้าลอตเตอรี่ เราเลยให้ทีมงานโทรไปถามกองสลากว่า คนพวกนี้เขามีโควตาจริงไหม ในกลุ่มนี้มีทั้งหมด 7 คน บางคนมีหมายจับด้วย ผมเชื่อว่าเขาทำเป็นขบวนการ ตอนนี้ที่จะดำเนินคดีก็จะมีเรื่องฉ้อโกงด้วย ส่วนจะดำเนินคดีอะไรอีกขออุบไว้ก่อน ตอนนี้ชาวบ้านจากอีสานเข้ามาแล้ว จะไปให้การกับตำรวจเพิ่ม”