เชียร์ ฑิฆัมพร เปิดใจครั้งแรก สาเหตุเลือกจบรัก ไฮโซบิ๊ก ยืนยันที่ผ่านมาดีทุกเรื่อง ไร้ระหองระแหง แต่เหมือนเป็นจิ๊กซอร์ที่ไม่พอดีกัน
ปิดฉากความรักเกือบ 5 ปีไปอย่างน่าใจหายมาก ๆ สำหรับคู่ของ เชียร์ ฑิฆัมพร กับไฮโซหนุ่ม บิ๊ก ธนพนธ์ เบญจรงคกุล ที่แหล่งข่าวใกล้ชิดจากวงในเพื่อนสนิทออกมาคอนเฟิร์มว่าเลิกกันแล้ว ทำเอาแฟน ๆ ที่ทั้งลุ้นทั้งเชียร์ให้มีข่าวดีแต่งงาน ต่างก็รู้สึกเศร้า และเสียดายไปตาม ๆ กัน
- จินตหรา โดนหางเลข ปม ลุงพล จำคุก 20 ปี ชาวเน็ตแซะจะออกมาขอโทษสังคมไหม
- โม มนชนก พูดแล้วไวรัลไม่อยากเรียกพวกมึง เป็นกระแสไม่ว่า แต่ติดเรื่องเดียว?
- ต้อม รชนีกร ปล่อยโฮ รับจิตตก-ไม่กล้าออกจากบ้าน หลังทำศัลยกรรม แต่โดนบูลลี่หนัก
ล่าสุด สาวเชียร ก็ได้ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกถึงสาเหตุเลิก “ตอนนี้ไม่มีคู่ค่ะ ตัดสินใจร่วมกัน เป็นการคุยกันครั้งแรกเลยด้วยซ้ำถึงความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ แต่ขออนุญาตแก้ข่าวนิดนึงที่ก่อนหน้านี้มีข่าวระหองระแหงอันนั้นไม่มีอะไรนะ ความสัมพันธ์ดีมาโดยตลอด คู่รักมาดเท่ไม่ใช่คู่เรา”
“ส่วนประเด็นอันฟอลโลว์กัน ต้องบอกว่าส่วนตัวเชียร์ไม่ได้คอมมิตสเตตัสที่การฟอลโลว์กัน เราไม่ได้ฟอลโลว์เขาทางอินสตาแกรมมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เราติดต่อกันทางอื่น อย่างเฟซบุ๊ก ก็ไม่รู้ไปเป็นประเด็นว่าเราอันฟอลโลว์กันได้ยังไง ตอนนั้นมันไม่มีอะไร ความสัมพันธ์ยังดีมาก ๆ ไม่ได้มีปัญหาเรื่องมือที่สาม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นวันนี้คือชัดเจนแล้วว่าเรายุติความสัมพันธ์กับการเป็นแฟนกัน”
“เหมือนคนเราต้องตรวจสุขภาพ เหมือนเรายังแข็งแรงแต่เราต้องตรวจสุขภาพว่าข้างในเรามันแข็งแรงจริงไหม เช่นกันกับความสัมพันธ์ที่มันเดินทางมา 4 ปีกว่า เกือบ 5 ปี มันจะต้องไปอีกสเต็ปนึงแล้ว เราต้องตรวจสุขภาพของความสัมพันธ์นี้เช่นกันว่าเรายังโอเคกันจริง ๆ ไหม มันเป็นเรื่องของคนสองคนจริง ๆ ที่อาจจะไม่ได้มีความพอดีกัน เป็นจิ๊กซอว์ที่อาจจะไม่ได้พอดีกันแค่นั้นเองค่ะ ก็ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงนะคะแต่ว่ามันไม่ได้มีอะไรไม่ดีเลยในการใช้คำว่าเลิกรา ก็ยังคงไว้ซึ่งความเป็นเพื่อนที่ดีมาก ๆ ต่อกัน”
“ความพอดี ไม่พอดี เชียร์ว่ามีกันทุกคู่ ก็พบว่ามันมีบางจุดที่เราเคยจะก้าวข้ามผ่านมาในความไม่พอดีบางอย่าง แต่ ณ วันนี้บางสิ่งเราเลือกที่จะเรียกว่าปรับตัวมาแล้ว แต่การปรับในบางอย่าง พอมันยังไม่พอดีกันจริง ๆ มันเหมือนจุดเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ สะสม เชียร์กับบิ๊กไม่ใช่คู่ที่มาทะเลาะกันจุกจิกเลย”
“เราไม่ได้มีปัญหากระทบกระทั่งอะไรที่ชัดเจน ความสัมพันธ์มันดำเนินมาเรื่อย ๆ ตลอด แต่พอมันมีสิ่งที่จะต้องโฟกัสกันทั้งคู่บางอย่างเราก็ไม่อยากจะเอามาเป็นความหนักใจ หยุมหยิมให้อีกฝ่าย บางอย่างเขาก็ไม่อยากให้เราไม่สบายใจ บางข้อพอเราไม่คุยกันแล้วมันเก็บไว้กับเราทั้งคู่มันเลยเกิดจากการที่ไม่เป็นอะไร จริง ๆ แล้วมันเป็นอะไร คนเริ่มพูดก่อนคือเชียร์ มันเป็นการชวนคุย แล้วมันก็ชึ้บตั้งแต่วันนั้นเลย เป็นการพูดคุยตัดสินใจร่วมกัน คำตอบที่เราได้คือกลับมาเป็นเพื่อนกัน”
“ไม่เชิงว่าเป้าหมายชีวิตไม่ตรงกัน เราเคยมองชีวิตคู่ด้วยกันอยู่แล้ว แต่แค่วันนี้ความสัมพันธ์ที่เราเดินมา พอเรามองย้อนกลับไปบางจุดมันไม่ได้ผ่านการพูดออกไป เราเก็บไว้ มารู้ตัวอีกทีความสัมพันธ์มันลดลงเรื่อย ๆ ต่างคนต่างเก็บไว้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นเรื่องอะไรรุนแรงเลย เป็นเรื่องของความเข้าใจของเราทั้งคู่จริง ๆ”
“เรามาจากการเป็นเพื่อนกันมาก่อน การคุยกันครั้งนี้เชียร์บอกเขาว่าเราคุยกันด้วยความรัก ว่าถ้าความรักนี้มันดำเนินไปในแบบชีวิตคู่อีกแบบนึงไม่ได้ มันก็อาจจะต้องกลับมารักกันแบบเพื่อน มันไม่ใช่ใครบอกเลิกใคร เหมือนเป็นการคุยกัน แล้วมันเป็นสิ่งที่เราตกลงร่วมกันมากกว่า ตอนนี้เราก็ยังคุยกัน มีความเป็นเพื่อนเต็มที่มาก ๆ เชียร์ยังบอกเขาเลยว่า วันนี้เชียร์รักเขาไปแล้ว ยังไงเขาก็เป็นคนที่เชียร์รักอยู่ดี เพียงแค่ว่ามันไม่ได้เป็นไปในรูปแบบเดิม”
“การเริ่มคุยกัน มันยากสำหรับเชียร์ จริง ๆ ต้องการจะคุยเพื่อมองหาวิธีการปรับในการแก้ปัญหาค่ะ ไม่ใช่เรื่องของการคุยเพื่อจะยุติ แต่ว่าสุดท้ายแล้วมันกลายเป็นเราเลือกคำตอบที่จะยุติกัน”
“เรื่องของการแต่งงานไม่ใช่เป้าหมายของเชียร์ตั้งแต่แรก เราเคยคุยกันด้วยซ้ำว่าไม่อยากมีลูกนะ ถ้าอยากเราอาจจะมีระยะเวลาของเรื่องอื่นมาจำกัด อันนี้น่าจะเป็นข้อบีบบังคับเรื่องไทม์ไลน์ แต่เราไม่มีเรื่องนี้ ยังไงวันนี้เราก็ยังรักเขาอยู่ดี เขาก็ยังรักและหวังดีกับเราอยู่ดีแต่เพียงแค่มาเป็นเพื่อนกันเท่านั้นเอง”
“วันนี้เชียร์ก็อาจจะจำเป็นต้องพูด ไม่อย่างนั้นคือคนที่รักและหวังดีกับเราทั้งคู่ก็จะแบบว่าจะแต่งเมื่อไหร่อะไรแบบนี้ เหมือนเพื่อให้มันชัดเจนด้วย แล้วก็ไม่ให้มีคำถามไปถึงเขา ไม่ให้มีคำถามมาถึงเรา”
“ทุกคนก็แล้วแต่การตัดสินใจของเราแหละ ทั้งฝั่งครอบครัวเรา ครอบครัวของทางบิ๊กด้วย อย่างที่บอกว่าเชียร์ไม่ได้พูดอะไรจริง ๆ มันตั้งแต่ตุลาคมแล้วด้วยซ้ำเรื่องนี้ มันคุยกันตั้งแต่ตุลาคมแล้ว แต่ว่ามันเป็นด้วยความเข้าใจกันจริง ๆ เชียร์ถึงบอกว่ามันเป็นเหมือนสถานการณ์ที่ดีในการคุยกันครั้งนี้ด้วยซ้ำ ตอนนี้เชียร์เชื่อว่าเราทั้งคู่ต่างแข็งแรงกันอยู่แล้วเราก็แค่เก็บเป็นเส้นทางดี ๆ ที่เราเดินทางกันมาค่ะ แต่ว่ามันก็ไม่ได้หายไป”
“ตอนนี้ก็คงอยู่กับตัวเองก่อนแล้วกันทำงานในสิ่งที่มี และเชียร์เชื่อว่าเขาก็คงจะมีเป้าหมายที่ดีกับชีวิตเขาเหมือนกัน เพราะยังไงเราก็อยู่ในช่วงวัยที่ยุ่งกันทั้งคู่ ในธุรกิจเองหรือในสิ่งที่จะทำมันก็มีธงค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว ช่วงนี้ก็ดูแลเรื่องงานดูแลตัวเองค่ะ”
“เราเจอหน้ากันได้จริง ๆ ก็ยังมีทริปที่ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันอยู่เลย ก็มีความเป็นเพื่อนกันจริง ๆ ค่ะ (แสดงว่าก็ยังให้ความสำคัญกับคำว่าคู่ชีวิตอยู่?) ถ้าจะมีหรือไม่มี มันไม่ใช่สิ่งที่เราคาดหวังเลยค่ะ มีก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่มีก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เช่นกัน”
คลิปจาก NEWSPLUS
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ช็อก! นักร้องตัวแม่ ประกาศเลิกรับงานร้องเพลง โต้! คนแซะเลือกเยอะ เพราะไม่เคยลำบาก
- คนใกล้ตัวทวงยากที่สุด ตุ๊กกี้ ไม่กลัวโดนเกลียด ยื่นคำขาด ญาติยืมเงินพ่อแม่ เกือบ 2 ล้าน
- เนสตี้ สไปร์ทซี่ ยอมรับเป็นเด็กแก่แดด ถูกเชิญออกจากโรงเรียน ตอน ม.4 เพราะขอทำนม