Entertainment

เนสตี้ สไปร์ทซี่ ยอมรับเป็นเด็กแก่แดด ถูกเชิญออกจากโรงเรียน ตอน ม.4 เพราะขอทำนม

เนสตี้ สไปร์ทซี่ ยอมรับเป็นเด็กแก่แดด ทำศัลยกรรมตั้งแต่อายุ 16 เจ็บที่สุดกับคำว่าไม่สวย เผยปมในใจเคยถูกเชิญออกจากโรงเรียนตอน ม.4

เน็ตไอดอลชื่อดัง เนสตี้ สไปร์ทซี่ เปิดใจผ่าน WOODY FM Special เผยชีวิตดิ้นรนทำงานในวงการตั้งแต่วัยเด็ก จนเป็นเสาหลักของครอบครัวได้ในวัย 18 ปี ยอมรับเป็นเด็กแก่แดด ทำศัลยกรรมตั้งแต่อายุ 16 เจ็บที่สุดกับคำว่าไม่สวย ร่ำไห้! เผยปมในใจเคยถูกเชิญออกจากโรงเรียนตอน ม.4

10 เนสตี้ สไปร์ทซี่ 1
เนสตี้ สไปร์ทซี่

คุณเข้าวงการตั้งแต่อายุเท่าไหร่ ?

เนสตี้ : 10 ขวบค่ะ ตอนนี้อายุ 18 ปี แล้วค่ะ

วันแรกที่เข้าวงการ จำได้ไหมว่าทำอะไร ?

เนสตี้ : วันแรกจำได้ค่ะ จากการนั่งไลฟ์สดในเพจ Facebook ค่ะ เป็นคนชอบแสดงออก ชอบเต้น ชอบร้องเพลง ชอบแต่งหน้าค่ะ อยู่ ๆ ก็มีคนเข้ามาดูไลฟ์สด ตอนแรก 7 คน หลังจากนั้นผ่านไป 10 นาทีก็เพิ่มาเป็น 20-30 คน ขึ้นไป 100 จนไต่ไป 1,000 คนค่ะ แล้วก็ขึ้นไปเป็น 10,000 คนเลยค่ะ ทุกคนอาจจะชอบหนูในมุมแบบ หูย! เด็กคนนี้เต้น ร้องเพลงสนุกมาก แล้วหนูเป็นเหมือนคนบ้าจี้เบา ๆ ค่ะ พอคนยิ่งดูเยอะ มาเชียร์ให้ทำอะไรก็จะทำหมด

ความสนุกสนานได้มาจากไหน โตขึ้นมาความเป็นตัวเราที่ไม่เหมือนใคร มันมีความกดดันไหม คุณโตมาเป็นยังไง ?

เนสตี้ : หนูโตมาแบบเด็กคนหนึ่งเลยค่ะ ที่บ้านสนับสนุนทุกเรื่อง ที่บ้านไม่เคยห้ามเรื่องเป็น LGBTQ+ พ่อแม่เข้าใจ ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองถูกเลี้ยงมาเป็นเด็กผู้ชายเลย ที่บ้านเลี้ยงหนูมาเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง

สังคมของเราตรงนั้นทุกคนยอมรับหมด ?

เนสตี้ : แต่มันก็จะมีอีกสังคมหนึ่ง ที่เราจะต้องก้าวเข้าไปในโรงเรียน แน่นอนอยู่แล้วเราก็ต้องโดนเพื่อนผู้ชายแกล้งบ้าง บูลลี่ แต่น่าเสียดายตรงนั้นที่หนูเป็นคนที่สู้คน (หัวเราะ) เราก็เอาไม้กวาดตีเลย เป็นกะเทยแล้วทำไม แล้วยังไงผิดเหรอ คือด้วยความที่เราโดนเลี้ยงมา เราเป็นแล้วเราผิดเหรอ เพราะที่บ้านไม่เคยบอกว่าเราผิดเลยที่เราเป็นแบบนี้

จริง ๆ สำคัญนะถ้าพ่อแม่บอกว่าลูกถูกต้อง เราก็จะมีความคิดตรงนั้นว่าเราก็ไม่ได้ผิด แต่ถ้าพ่อแม่ไม่คุย ไม่มีการยอมรับ เด็กก็อาจไขว้เขวพอสมควรว่าสุดท้ายที่เขาด่ามามันจริงหรือไม่จริง ?

เนสตี้ : ใช่ค่ะ สำหรับเด็กคนหนึ่งที่ตอนนั้นยังไม่สามารถคิดได้ว่าอันไหนถูกอันไหนผิด

ดังนั้นคุณโชคดีมากที่มีคุณพ่อคุณแม่และครอบครัวและคนรอบข้างที่เปิดใจ ?

เนสตี้ : ค่ะ ตอนเรียนมัธยมต้น หนูก็เป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เพราะยังใส่ชุดนักเรียนอยู่ ยังตัดผมเกรียน แล้วก็ได้ย้ายไปเรียนอีกที่หนึ่ง ซึ่งตอนนั้นด้วยความที่เรามีคนรู้จักพอสมควรแล้ว หนูเลยต้องทำงานไปด้วยแล้วก็เรียนไปด้วยหนักมาก หนูไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพฯ ปกติจะอยู่ที่พังงา จะต้องบินไปกลับอย่างงี้ทุกอาทิตย์ แล้วก็กลับไปเรียน พอได้ไปเรียนอีกที่หนึ่งหนูก็เลยขออนุญาตไว้ผม การทำงานต้องใช้รูปร่างหน้าตา แล้วหนูก็ขอเขาทำหน้าอก แล้วก็โดนไล่ออกค่ะ อย่าเรียกว่าโดนไล่ออก เรียกว่าเชิญออกดีกว่า เขาบอกว่ามีโรงเรียนที่มองไว้บ้างหรือยัง เพราะว่าถ้าคุณจะอยู่โรงเรียนนี้ถ้ายังมีคำว่านายอยู่ คุณก็ต้องเป็นเด็กผู้ชาย มันเป็นปมอีกอย่างหนึ่งในใจหนูเลย เพราะว่าหนูก็โดนออกจากโรงเรียนตอนนั้น (เสียงสั่น) ตอน ม.4 แล้วหนูก็ต้องไปเรียนที่อื่นใหม่ตอน ม.5 ค่ะ ตอนนี้หนูกลับมาเรียนที่เดิมแล้ว ก็คือโรงเรียนสตรีพังงา หนูได้ใส่ชุดนักเรียนผู้หญิง ได้ไว้ผมยาว เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเลย ต้องขอบคุณโรงเรียน ผู้ใหญ่ทุกคนที่เข้าใจ หนูอยากให้โรงเรียนอีกหลาย ๆ โรงเรียนเปิดใจกับเพศทางเลือก

10 เนสตี้ สไปร์ทซี่ 3
เนสตี้ สไปร์ทซี่

เรื่องไหนหนักที่สุดในชีวิต ?

เนสตี้ : โซเชียลค่ะ โซเชียลให้อะไรกับหนูมาก สอนทุกอย่าง สอนทุกเรื่อง โซเชียลมอบโอกาสให้ แต่เราก็เผลอให้โซเชียลมีอิทธิพลมากกว่าเหมือนกัน ด้วยความที่เด็กด้วยค่ะ ตอนนั้นเรายังไม่สามารถคัดกรองคอมเมนต์ได้ ว่าเราจะเอาคอมเมนต์นั้นมาเก็บไว้หมดหรือเปล่า ก็เลยเอาทุกคอมเมนต์มาเก็บไว้ในใจตัวเองตลอด หนูคือคนหนึ่งที่เป็นคนอ่อนไหวมาก แต่พยายามทำให้ตัวเองแกร่งตลอดเวลา แต่ลึก ๆ แล้วอ่อนแอมากทุกเรื่องเลยค่ะ

เคยเก็บคอมเมนต์ไปอ่านแล้วร้องไห้คนเดียวไหม ?

เนสตี้ : เรียกว่ามากกว่าร้องอีกค่ะ แบบผิดเหรอที่เกิดมาแบบบางทีไม่สวย บางทีคอสั้นอย่างนี้ (ร้องไห้) แล้วเราก็เก็บไปคิด ตอนนี้หนูก็เลยเข้าใจแล้วว่า เหรียญมันมี 2 ด้าน คนเราก็มี 2 ด้านเหมือนกัน ก็ต้องมีคนที่ชอบเราและไม่ชอบเรา เพราะฉะนั้นตอนนี้หนูคัดกรองได้แล้วว่า โอเค คอมเมนต์ที่เราควรติเพื่อก่อ เราพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองตลอดเวลา แล้วเราก็ต้องคัดกรองคอมเมนต์อีกว่าอันไหนที่อาจจะสนุกปากแค่เสี้ยววินาทีหนึ่งของคนเหล่านี้ที่คอมเมนต์ลงไปบนโลกโซเชียลเขาอาจจะไม่ได้คิดอะไร แต่คนที่รับสารมาคือเรา เก็บ ดิ่ง ทุกอย่าง แล้วตอนนั้นมันอยู่ในช่วงโควิดด้วยค่ะ โอ้โห! พี่วู้ดดี้เชื่อไหมคะว่ายิ่งไม่ได้ไปไหนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม ไม่ได้เจอคนไม่ได้เจอใคร ยิ่งสุด ๆ ไปเลยค่ะ

คอมเมนต์ไหนที่มันเจ็บที่สุด ?

เนสตี้ : ไม่สวย ทุกคนอาจจะคิดว่าหนูเป็นคนตลก ร่าเริงเฮฮา แล้วจะคิดว่าเราจะต้องตลกตลอดเวลา ร่าเริงตลอดเวลา แต่จริง ๆ หนูก็อยากมีมุมน่ารักสวย ๆ กับคนอื่นบ้าง

ทำไมคำว่าไม่สวยมันทำให้คุณเสียใจ ?

เนสตี้ : ความมั่นใจมั้งคะ คน ๆ หนึ่งกล้าที่จะออกจากบ้านได้ก็เพราะว่ามีความมั่นใจในตัวเอง

10 เนสตี้ สไปร์ทซี่ 2
เนสตี้ สไปร์ทซี่

พี่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีที่เกิดขึ้นกับคุณ เพราะมันสอนคุณเยอะมาก ถ้าไม่มีคอมเมนต์แบบนั้นเราก็จะไม่มีปัญญา ?

เนสตี้ : ใช่ค่ะ มันทำให้หนูเข้มแข็งขึ้นมาก ในตอนนั้นมันใหม่มากสำหรับหนูหลาย ๆ อย่าง สำหรับเด็กที่ 10-11 ขวบที่ต้องทำงานแล้ว และที่หนูเริ่มทำงานเร็วอีกอย่างหนึ่งก็คือเราคิดว่าความจนมันน่ากลัว มันน่ากลัวมาก เพราะที่บ้านหนูเคยไม่มีมาก่อน หนูโดนสนับสนุนมาก็จริง แต่ที่บ้านไม่มีทุนทรัพย์ที่จะสนับสนุนในเรื่องเครื่องสำอาง ซึ่งหนูเก็บเงินซื้อเองเวลาไปโรงเรียน พ่อแม่ก็ต้องไปตัดยาง ตัดปาล์มโน้นนี่นั่น

สุดท้ายคุณก็หาเงินให้ครอบครัวได้ ซื้อรถ ซื้อบ้านภายใน 1 ปี ?

เนสตี้ : ใช่ค่ะ คุณแม่เป็นคนเก็บเงินให้ค่ะ ภูมิใจมากค่ะ ตอนนั้นคือมีห้องอยู่เป็นของตัวเองแล้ว ในวัย 12-13 ปีค่ะ

ตอนนี้บ้านก็มีรถก็มีแล้ว สุดท้ายแล้วเงินที่เรายังอยากได้อีก เก็บไว้เพื่อความสบายใจหรืออะไร อยากรู้จากมุมมองของคนอายุ 18 ปี ?

เนสตี้ : เก็บไว้เพื่อให้ตัวเองในอนาคตค่ะ เราไม่รู้เลยว่าในอนาคตจะเป็นยังไงต่อไป ถ้าตอนนี้ยังมีแรงทำงาน ยังมีทุนทุกอย่าง หนูพร้อมจะทำทุกอย่างเลยค่ะ ถ้าเขาจ้างไปหมด (หัวเราะ)

คุณมีปัญญาเยอะมาก มาจากการเจอเรื่องราวต่าง ๆ หรือเปล่า มีความคิดเป็นผู้ใหญ่มาก ได้มาจากอะไร ?

เนสตี้ : การเจอสังคมในทุก ๆ วัน การทำงาน แต่ละวันก็ไม่ได้เหมือนกัน อยู่ที่การปรับตัว การวางตัว หนูจะโดนคำนี้มาด้วยเหมือนกัน คำว่า แก่แดด หนูยอมรับเลย ยอมรับคำนี้ เพราะหนูแก่แดดจริง ๆ ทุกคนพูดว่าเราตัวแค่นี้แต่ความคิดอยู่นี่! ซึ่งอาจจะเพราะการเข้าสังคม การเจอคนมาก ๆ เจอคนรอบตัว คนคิดบวก เรามีครอบครัวที่ดี มีเพื่อนรอบข้างที่พร้อมสนับสนุนเสมอ มีคนเชิงลบไหมก็ต้องมีบ้างอยู่แล้ว สังคมธรรมดาปกติ แต่เลือกที่จะอยู่ เลือกที่จะเป็นมากกว่าค่ะ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo