นางเอกดัง พูดภาษาอิตาลี เล่าชีวิตก่อนมาอยู่ไทย สำเนียงคือฟังเพลินมาก

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 20 ธันวาคม 2566

พรีม รณิดา พูดภาษาอิตาลี เล่าชีวิตก่อนมาอยู่ไทย สำเนียงคือฟังเพลินมาก ซึ่งหลาย ๆ คนอาจไม่รู้เลยว่า สาวพรีม สามารถพูดได้ถึง 4 ภาษาด้วยกัน ไทย, อังกฤษ, อิตาลี และสเปน

เป็นอีกหนึ่งนางเอกสาวที่หลายคนตกหลุมรักเข้าเต็ม ๆ สำหรับ พรีม-รณิดา เตชสิทธิ์ เธอคนนี้ เป็นนักแสดงหญิงลูกครึ่งไทย-จีน-อิตาลี หลาย ๆ คนเริ่มรู้จักเธอจากละครเรื่อง สุภาพบุรุษจุฑาเทพ เรื่อง คุณชายธราธร ในปี 2556 และ สามี ในปี 2556 ซึ่งทั้งสองเรื่องแสดงคู่กับพระเอกคู่ขวัญ หนุ่มเกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์ นั่นเอง

พรีม รณิดา พูดภาษาอิตาลี เล่าชีวิตก่อนมาอยู่ไทย สำเนียงคือฟังเพลินมาก

ซึ่งหลาย ๆ คนอาจไม่รู้เลยว่า สาวพรีม สามารถพูดได้ถึง 4 ภาษาด้วยกัน ไทย, อังกฤษ, อิตาลี และสเปน อีกทั้งยังมีความสามารถพิเศษที่หลากหลาย เช่น Ballet, Jazz Dance, Latin Dance, Classic Guitar และ Clarinet

อย่างล่าสุด (17 ธ.ค.) สาวพรีม ได้โพสต์คลิปที่ทำเอาแฟนคลับฮือฮาไม่น้อย เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็ยังไม่เคยเห็นนั่นก็คือ การบอกเล่าชีวิตก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทย แต่งานนี้เธอขอเล่าด้วยการพูดเป็นภาษาอิตาเลี่ยนนั่นเอง โดยแปลได้ว่า

“ช่วงหลัง ๆ ไม่ค่อยได้พูดภาษาอิตาเลี่ยนเท่าไหร่ นอกจากเวลาอยู่กับที่บ้านกับเวลาได้ถ่ายวีดิโอแบบนี้ ก็เลยดีใจมีโอกาสได้พูดคุยกับทุกคนในนี้ วันนี้จะอยากบอกเล่าเกี่ยวกับตอนย้ายมาอยู่ไทย พรีมกับพี่ชายเกิดที่กรุงเทพฯ แต่ใช้ชีวิตวัยเด็กอยู่ที่เมืองโรม ตลอดจนจบประถม ตอนเด็ก ๆ เราพูดภาษาไทยแค่คำว่า สวัสดีค่ะ ขอบคุณค่ะ เพราะว่าแม่พูดภาษาอิตาเลียนได้ เลยพูดอิตาเลี่ยนกับที่บ้านตลอด”

พอพรีมอายุ 11 ปี พ่อแม่ก็ตัดสินใจย้ายมาอยู่เมืองไทย ตอนนั้นเป็นช่วงที่ค่อนข้างช็อกและเครียดสำหรับทุกคนมาก โดยเฉพาะพรีมกับพี่ พรีมต้องเรียนอ่าน พูด เขียน ภาษาไทยตั้งแต่ศูนย์ให้ได้ภายใน 3 เดือน เพราะต้องไปสมัครเรียนโรงเรียนไทย ก่อนจะเปิดเทอมใหม่ ตอนแรกเวลาคุยกับเพื่อนก็ต้องใช้ talking-dict ตอนนั้นกินอะไรไม่ได้เลยนอกจากข้าวเหนียว ไก่ย่าง กว่าจะเข้าใจภาษาไทยได้ทุกอย่างรวมถึงพวกคำ salang ก็ใช้เวลาประมาณปีครึ่ง

เมื่อก่อนไม่ได้มีโซเชียลมีเดียเหมือนสมัยนี้ คอนเทนต์ในอินเตอร์เน็ตก็ค่อนข้างจำกัด การติดต่อกับเพื่อนที่อิตาลีก็ยาก ต้องปรับตัวเยอะมาก ๆ จำได้ว่าช่วงแรก ๆ ร้องไห้ทุกวันเลย แต่แม้จะเป็นอย่างนั้นพรีมก็รู้สึกขอบคุณพ่อแม่มาก ๆ ที่เสียสละเพื่อครอบครัว พอมองย้อนกลับไปพรีมก็ไม่รู้สึกเสียดายอะไรเลย ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ พรีมก็คงทำแบบทุกอย่างเหมือนเดิม”