เปิดประวัติ สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 30 ของอยุธยา หลังถูกพูดถึงอีกครั้งในละครเรื่อง พรหมลิขิต ภาคต่อของละคร บุพเพสันนิวาส
เป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์ ได้รับเล่น สำหรับบท สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ หรือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 หรือ พระเจ้าภูมินทราชา หรือ พระเจ้าบรรยงก์รัตนาสน์ ในละคร พรหมลิขิต ภาคต่อของละคร บุพเพสันนิวาส ที่แค่เปิดตัวมาก็สร้างความประทับใจแก่แฟนละครไม่น้อย
- นางเอกดัง รู้สึกกดดัน! เล่นคู่ โป๊ป ธนวรรธน์ ไม่กล้าเทียบคู่จิ้น เบลล่า ราณี
- นางเอกตัวเล็ก คบแฟนไฮโซ 6 ปี แต่ยังไม่พร้อมแต่ง ขอให้เวลากับสิ่งนี้ก่อน..?
- ‘ป๋อง เดอะช็อค’ เคลียร์ใจ ‘แจ็ค เดอะโกสต์’ จากเคยรักกันเหมือนพ่อลูก สู่วันเลิกทำรายการ
เปิดประวัติ สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 30 ของอยุธยา
สำหรับ สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ หรือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 หรือ พระเจ้าท้ายสระ หรือ พระเจ้าภูมินทราชา หรือ พระเจ้าบรรยงก์รัตนาสน์ เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 30 แห่งอาณาจักรอยุธยา และเป็นพระองค์ที่สามแห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง ราชวงศ์สุดท้ายของอาณาจักรอยุธยา ทรงครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2251-2275 ซึ่งที่มาของ สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ มาจากนามพระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ ซึ่งพระองค์ใช้เป็นประทับอันอยู่ข้างสระน้ำท้ายพระราชวัง
สมเด็จพระเจ้าท้ายสระ มีพระนามเดิมว่า เจ้าฟ้าเพชร เสด็จพระราชสมภพเมื่อปี พ.ศ.2221 ในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดี (พระเจ้าเสือ) กับพระอัครมเหสีพระนามว่าสมเด็จพระพันวษา มีพระอนุชาและพระกนิษฐาร่วมพระมารดา 2 พระองค์ คือ เจ้าฟ้าพร และเจ้าฟ้าหญิงไม่ทราบพระนาม พระองค์ประสูติตั้งแต่พระราชบิดา (พระเจ้าเสือ) เป็นขุนนางในตำแหน่งออกหลวงสรศักดิ์ ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ หลังจากสมเด็จพระเพทราชา พระอัยกา (ปู่) ทรงครองราชย์และแต่งตั้งพระเจ้าเสือเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) ทำให้สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระได้เป็นเชื้อพระวงศ์ และออกพระนามว่า สุรินทกุมาร
เมื่อพระราชบิดาสวรรคตในปี พ.ศ.2251 จึงขึ้นครองราชย์ เฉลิมพระนามว่า พระเจ้าภูมินทราชา แต่ประชาชนมักออกพระนามว่า พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ต่อมาทรงสถาปนาพระบัณฑูรน้อย เจ้าฟ้าพร พระราชอนุชาเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล โดยสมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ ทรงมีพระราชโอรส 3 พระองค์ ได้แก่ เจ้าฟ้านเรนทร (กรมขุนสุเรนทรพิทักษ์), เจ้าฟ้าอภัย, เจ้าฟ้าชายปรเมศร์
จดหมายเหตุของคณะบาทหลวงฝรั่งเศสซึ่งเข้ามาตั้งครั้งกรุงศรีอยุธยา ได้รวบรวมพิมพ์เมื่อ พ.ศ.2463 ระบุว่า สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระประชวรมีฝีในพระโอษฐ์หรือพระศอ ขณะที่ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพระจักรพรรดิพงศ์ (จาด) บันทึกไว้ว่าพระองค์ประชวรที่พระชิวหา (ลิ้น) นักประวัติศาสตร์จึงสันนิษฐานว่าพระองค์อาจเป็นมะเร็งช่องปาก พระองค์ประชวรด้วยพระโรคนี้เป็นเวลานานจนเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2275 ณ พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์
หลังจากสมเด็จพระที่นั่งท้ายสระเสด็จสวรรคต เจ้าฟ้าอภัย พระราชโอรสของพระเจ้าท้ายสระอ้างสิทธิในราชสมบัติ เกิดการต่อสู้ระหว่างอาและหลาน ผลสุดท้ายฝั่งอาผู้เป็นวังหน้าเป็นฝ่ายชนะ จึงปราบดาภิเษกครองราชสมบัติเป็น “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ” ก่อนทำการกวาดล้างฝ่ายเจ้าฟ้าอภัย จนสูญสิ้น กลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อาณาจักรอยุธยาอ่อนแอ เพราะมีสงครามกลางเมืองหลายครั้ง และยังยืดเยื้อ จนนำมาสู่การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ในอังคารขึ้น 9 ค่ำ เดือนห้า หรือวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2310 ในรัชสมัยของพระเจ้าเอกทัศน์
ขอบคุณ : amarintv
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เขินทั้งด้อม! ‘แอฟ ทักษอร’ เป็นผีสาวสวยในคืนฮาโลวีน ‘นนกุล’ แซว อย่ามาหลอกนะครับ
- หมาก-คิม ฮาโลวีนที่ไม่หลอน ฉลองแบบเทพวีนัส สวยหล่อเหมือนหลุดจากนิยาย
- ‘เบนซ์ เรซซิ่ง’ เคลียร์ชัดเจน! สถานะอดีตภรรยา ‘แพท ณปภา’ เลยขั้นนั้นมาไกลแล้ว