Entertainment

เต ตะวัน เคลียร์ประเด็นสนิท ใบเฟิร์น ไม่เกรงใจนาย ชาวเน็ตกล่าวหาเป็นตุเป็นตะว่ามีใจ

เต ตะวัน เคลียร์ประเด็นสนิท ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ไม่เกรงใจ นาย ณภัทร ขำ ๆ ตอกกลับเกรียนคีย์บอร์ดกล่าวหาเป็นตุเป็นตะว่ามีใจ

ทำเอาหนุ่มฮอตอย่าง เต ตะวัน ต้องออกโรงตอบโต้ หลังจากที่มีเกรียนคีย์บอร์ดกล่าวหาว่าสนิทกับ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก จนไม่เกรงใจแฟนตัวจริงอย่าง นาย ณภัทร โดยก่อนหน้านี้ เต และ ใบเฟิร์น มีโอกาสไปทำงานด้วยกันที่งานแฟชั่นโชว์แบรนด์ดังที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

1 เต ตะวัน 1

ล่าสุด หนุ่มเต เปิดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “คือบางทีเหมือนคนที่ใช้อินเทอร์เน็ตจนชิน จนวู่วามอย่างเงี้ย บางทีเขาอาจจะคิดน้อยตอนเวลาพิมพ์ บางทีอยากให้เช็กก่อนที่จะกดพิมพ์ส่งอะไรไป บางทีสิ่งที่คุณพิมพ์มันก็กระทบกับคนอื่นเหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริงจริง ๆ เนี่ย ลองดึงตัวเองถอยออกมาก่อน มองสักพักก่อนดีไหม แน่ใจแล้วค่อยพิมพ์ อันนี้คือมันค่อนข้างเป็นแบบเป็นตุเป็นตะไปนิดนึง ซึ่งมันทำให้บางทีคนอ่านเขาก็รู้สึกไม่ดีเนอะ”

“เรียกว่าอะไรดีอะ เราอยู่ใน Industry นี้มาสักพัก เพราะฉะนั้นเราก็จะมีความไม่เคสของเราก็เป็นเพื่อนที่ต้องเจอกันอะไรเงี้ย เพราะฉะนั้นเราจะมีความชินน่ะ แต่ว่าในความชินนั้นน่ะ เราไม่ได้อยากให้ทุกคนทำเป็นเรื่องปกติไง เราอยากให้ทุกคนใช้โซเชียลอย่างมีสติแล้วก็รอบคอบ ผมเชื่อว่าไม่มีใครชอบหรอกในการที่จะถูกพูดถึงในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง เพราะฉะนั้นเนี่ยก็ต้องใจเขาใจเราให้มากขึ้น”

“ความจริงก็คือผมไปทำงาน Loewe กับใบเฟิร์น แล้วผมเป็นคนชอบถ่ายรูปแล้วก็ถ่ายฟิล์ม แล้วก็รีบล้างฟิล์ม แล้วลงอินสตาแกรม ก่อนถ่ายยังบอกว่าใบเฟิร์นเลยว่าทำหน้าดี ๆ เพราะฟิล์มมันแพง ด้วยความที่เราชอบฟิล์มสีนี้มาก เราอยากจะลง มีรูปที่อยากจะลงอีกหลายรูปมาก แต่ที่เขาถ่ายให้เรา เขาถ่ายไม่ชัดไง เราเลยไม่ลงรูปตัวเอง (หัวเราะ)”

“แต่ดีใจที่เขาสู้ ผมว่านายน่าจะเทรนเขามาเยอะ ผมเคยเจอนายที่ร้านกล้อง คือน่าจะคนเล่นกล้องด้วยกันแหละ แล้วนายเขาน่าจะเคยแบบ… เหมือนดูรู้เลยว่าใบเฟิร์นน่าจะถูกเทรน เพราะว่ากล้องที่ผมเอาไปมันถ่ายยาก พอเราถ่ายเขาเสร็จ เขาจะถ่ายให้เรา เราก็บอกไม่เป็นไร ๆ แต่เขาเนี่ยดูรู้เลย อยากจะบอกว่าฉันทำได้ ๆ เลยรู้ว่าน่าจะถูกเทรนมา ถามว่าถ่ายได้มั้ย ได้ (หัวเราะ) ก็ไม่ได้ลง ได้มั้ยล่ะ (ยิ้ม) อะพูดจริง ๆ ว่าได้ แต่เราดันลงรูปเดียวกันที่ถ่ายจากมือถือไปก่อน เลยไม่อยากลงรูปซ้ำ แต่ว่ารูปที่เขาถ่ายให้อะ ในความพยายามของเขาได้หลายรูปเลย เดี๋ยวไว้ลงในสตอรี่ให้ดู”

1 เต ตะวัน 3

“วันนั้นเขาโทรมา คือวันนั้นเป็นงานที่ผมออกกับนิว ออฟ กัน แล้วใบเฟิร์นเขาสนิทกับออฟอยู่แล้ว เขาโทรวิดีโอคอลมาหาผมแล้วก็คุยกัน ยังหัวเราะกันอยู่เลย เขาคงไม่ได้ตอบ เขาคงรู้สึกว่าเหมือนเขาน่าจะอยู่ในจุดที่ชินกว่าผม เขาก็เลยโทรมาถามว่าตอบอย่างนี้เลยเหรอ ก็ตลกดี พอดีเรารู้จักกันอยู่แล้ว เป็นเพื่อนกัน แล้วก็ต่างฝ่ายต่างรู้จักกันแล้วก็เข้าใจกันดีครับ จะมีแต่ชาวเน็ตที่ไม่เข้าใจครับ ไม่ต้องกังวลแทนด้วย”

“พอเราเริ่มชินกับสิ่งนี้ ผมจะไม่ตอบตอนที่ตัวเองรู้สึกไม่ดี เพราะถ้าเรารู้สึกไม่ดี เราอาจจะใช้อารมณ์นำได้ถูกไหมครับ ถ้าวินาทีที่ข้อความที่ออกไป นั่นคือผมแบบกำลังอารมณ์ดีนะ ผมตอบด้วยความมันเขี้ยวนิดหน่อย เพราะว่าถ้าเรารู้สึกว่าถ้าเราใช้อารมณ์ปุ๊บ เคยเป็นเหมือนกัน คือมีอยู่แล้วแหละเวลาแบบมันอยากจะเพ้อ เพราะไม่ใช่ความจริง เราอยากจะพิมพ์ มันรู้สึกว่ามันเท่านั้นแหละ พอเรามีอารมณ์ เราใช้อารมณ์ปุ๊บ สุดท้ายพอเวลาผ่านไปเราจะรู้สึกไม่ชอบในสิ่งที่เราทำ

“เพราะฉะนั้นเนี่ยสิ่งที่เราทำไปก็คือเรารู้สึกว่า เราคิดมาแล้วว่าอันนี้เราตอบด้วยอารมณ์ที่เราไม่ได้โกรธอะไร ก็คือตอบขำ ๆ เฉย ๆ แต่ในความขำ ๆ นั้นก็คือมีเรื่องจริงที่อยากให้ตระหนักเหมือนกันว่า การใช้โซเชียลควรจะระวังนะ ที่ผมโพสต์ไปก็คือเรื่องจริงเหมือนกันที่ว่า เวลาเราหมกมุ่นกับอะไรมาก ๆ เราลองถอยกลับมามองห่าง ๆ บ้าง คือเราก็เคยเป็นนึกออกไหม เวลาเราจดจ่อกับอะไรมาก ๆ หรือจะทำให้บางทีทำไปด้วยไม่มีสติ แต่ถ้าเราพักเรื่องนี้ไว้ก่อน แล้วออกไปคุยกับครอบครัว อยู่กับเพื่อนบ้างให้เราสบาย เราอาจจะคิดอีกแบบนึงก็ได้นะ เราอาจจะ release มากขึ้นแล้วก็ทำให้เราใช้สติ ใช้ความคิดได้ดีขึ้น”

1 เต ตะวัน 5

“จริงๆ ผมก็เป็นเนเจอร์ของผมอะ เป็นคนที่ตั้งแต่เด็กเลยก็คือไม่ได้ถนัดสังคม แต่ถนัดการเขียนมากกว่า เพราะฉะนั้นเราก็เลยชอบเล่นแอปฯ นี้ อย่าง TikTok เราเลยจะไม่ถนัดเพราะว่ามันต้องเป็นคลิป เราไม่ค่อยถนัดอย่างนี้ แต่เราเป็นคนที่ชอบพิมพ์ชอบเขียน เพราะว่าเหมือนเราก็อยู่กับญาติที่มีความเป็นนักเขียน เพราะฉะนั้นผมก็เลยใช้แอปฯ นี้มานานมาก ก็เลยเหมือนมีความชิน ก็เลยทำให้เรารู้เนเจอร์ อย่างที่บอกว่าแอปฯ มันก็มีข้อดีข้อเสียของมัน ข้อดีคืออาจทำให้เราตื่นรู้เรื่องบางอย่างเร็ว แต่ผมว่าความตื่นรู้ในยุคนี้มันต้องเป็นความตื่นรู้ที่มีความพอดีด้วย ถึงจะเป็นการตื่นรู้ที่มีเสน่ห์”

“ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็จะลงมือเอง แต่ถ้าสมมติถ้าเหลือบ่ากว่าแรงก็จะขอยืมมือกฎหมายช่วย (หัวเราะ) ก็จริง ๆ มีบ้างแหละ แต่เราแค่รู้สึกว่าเราไม่ให้ค่าอะไรอย่างเนี้ย ก็อยากให้รู้ว่าจริง ๆ นักแสดงเราก็เป็นคนเหมือนกัน ถ้าสมมติเราอาจจะเป็น trauma ได้ เหมือนตอนเด็ก ๆ ผมเคยโดนหมากัดหมาไล่ไง เราก็กลัวหมาไปเลย นักแสดงหลาย ๆ คนที่เป็นเพื่อนผมบางทีเจอคอมเมนต์พวกนี้ไปเหมือนแขยงไปเลยก็มี เพราะฉะนั้นบางทีที่ผมทำเนี่ยก็คือการปกป้องตัวเองอย่างนึงเลย เพราะฉะนั้นก็มีมือเหมือนกัน”

“เหมือนผมก็เพิ่งเจอใบเฟิร์นครั้งแรกเหมือนกัน แต่รู้ว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทกับออฟ เพราะว่าเหมือนเขาเล่นซีรีส์ด้วยกัน แล้วผมเห็นเขาไปตีแบดด้วยกันบ่อยแล้วไม่ชวนเลย ออฟอะปกติไม่เคยชวนเลย ก่อนไปออฟยังพิมพ์มาบอกเลยว่า บอกใบเฟิร์นเลยว่าฝากเพื่อนด้วยนะ เพื่อนป้ำ ๆ เป๋อ ๆ ฝากใบเฟิร์นด้วย จริง ๆ ผมเจอนายก่อนใบเฟิร์นอีก เจอนายที่ร้านกล้องครับ”

1 เต ตะวัน 4

1 เต ตะวัน 2

คลิปจาก INN ENTERTAINMENT

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo