‘แพต ชญานิษฐ์’ เปิดใจครั้งแรก หลัง Call Out ถึง ส.ว. บนเวที KAZZ AWARDS 2023 มองเป็นสิทธิประชาชน
เป็นคำพูดที่ถูกแชร์บนโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก หลังจากที่นางเอกสาว แพต ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช ได้กล่าวถึงเรื่องการเมืองบนเวที KAZZ AWARDS 2023 หลังรับรางวัลบนเวทีว่า “แต่ว่าจะปังกว่านี้มาก หากรัฐบาลที่ผ่านการคัดเลือกจากประชาชนมากกว่า 14 ล้านเสียง ได้ขึ้นเป็นรัฐบาลอย่างสมบูรณ์แบบ วันนี้ขอฝาก ส.ว.หลาย ๆ ท่าน รับพิจารณาเสียงของประชาชนด้วยค่ะ แล้วคราวนี้เราจะปังไปพร้อมกันทั้งประเทศ ขอบคุณค่ะ”
- ส่องเมนต์ชาวเน็ต หลังเห็นรูปคู่ มิย่า-อชิ โพสท่านี้ เจอแซว ระวังโดนพ่อดุนะ
- โสดสวย ‘ปราง กัญญ์ณรัณ’ เฉลยเหตุผล ทำไม? ยังไม่พร้อมเปิดใจอีกครั้ง
- ‘วิกกี้ พีมนต์ญา’ ลงมือสะบัดแปรงเอง อวดลุคสวยฉ่ำ ‘เวียร์’ เมนต์ชมอย่างไว
‘แพต ชญานิษฐ์’ เปิดใจครั้งแรก หลัง Call Out ถึง ส.ว. มองเป็นสิทธิประชาชน
ล่าสุด (30 พ.ค.) แพต ได้เผยความรู้สึกในงานอีเวนต์แห่งหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “หนูรู้สึกว่าหนูเป็นประชาชนคนหนึ่งที่หนูมีสิทธิ์พูดได้ คิดว่าคนเขาก็พูดกันหมดเลยนะคะ มันไม่ใช่แค่หนูหรือโลกโซเชียล หรือว่าเวลาเรานั่งกินข้าวกับเพื่อนคือทุกคนตื่นรู้ ตระหนักรู้กันหมดทุกคนอยู่แล้ว
เอาจริง ๆ นะมันเป็นสปีชที่หนูคิดตอนที่นั่งรอที่จะขึ้นไปพูด หนูรอนานมากมันไม่มีอะไรทำ เล่นโทรศัพท์ก็แล้วขนม กินขนมก็แล้ว ดมยาดมก็แล้ว ออกไปเดินเล่นก็แล้ว ก็คิดดีกว่าพูดอะไรดี”
ใจเราอยากจะพูดบ้าง?
คือจริง ๆ เรารู้สึกว่าเราไม่กลัวที่จะพูดในสิ่งที่เรามีสิทธิ์พูดอยู่แล้ว
กลัวมีผลกระทบไหม?
มีผลกระทบไหมเหรอ ก็ไม่ได้คิดเลยว่ามันจะมีหรือไม่ คือจริง ๆ อ่ะมีหลายคนที่เดินมาพูดกับแพตว่าเฮ้ยขอบคุณมากที่เราพูดออกไป คือจริง ๆ มันเป็นสิ่งที่คุณไม่จำเป็นจะต้องขอบคุณเราเลยด้วยซ้ำมันเป็นสิ่งที่นี่คือความจริงที่เกิดขึ้น
พูดออกมาจากตอนนั้น?
หนูคิดตอนที่นั่งรอตอนนั้น
มีแอคชั่นไหนบ้างที่กลับมา?
จริง ๆ มันก็มีแบบ..เราจะไปรู้อะไร หรือเรายังรู้ไม่มากพอหรือไม่ มันก็มีตรงนั้นเหมือนกัน
มีก้อนหินกลับมา?
มันเล็ก ๆ เชื่อว่าทุกคนน่ะตระหนักรู้สิ่งนี้อยู่แล้วแล้วมันก็เกิดขึ้นจริง หนูรู้สึกว่ามันถึงช่วงเวลาแล้วที่ท่านผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่านที่ควรจะรับฟังเสียงของประชาชนที่แท้จริง เขาจะเรียกว่าอะไรดี งั้นจะให้ประชาชนขับรถออกมาเลือกตั้งกันทำไม เราจะตระหนักรู้และตื่นรู้กับคำว่าประชาธิปไตยกันได้หรือยัง
ไม่มั่นใจในระบบ?
คือหนูต้องเล่าก่อนนะคะ ว่าเมื่อก่อนน่ะหนูเป็นคนที่กลัวการออกความคิดเห็น หนูกลัวที่จะพูดสิ่งนี้ออกมา หนูบอกตอนนี้เลยนะคะว่าหนูอ่ะเคยกลัวมาก่อน แต่มันถึงเวลาที่เราตระหนักรู้ เราเรียนรู้ เราเห็น เราซึมซับกับสิ่งนี้มาหลายปีมาก ๆ มันเป็นช่วงอายุและวัยที่เราเติบโต เรียนรู้กับสิ่งนี้ ก็รู้สึกว่ามันไม่แฟร์มาก ๆ จนเราเกิดคำถามหลาย ๆ อย่าง เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่เวลาที่เราจะต้องกลัวอีกต่อไป
อยากเห็นความเปลี่ยนแปลง?
ก็คือทุกคนอยากเห็นอยู่แล้ว
มันมีแรงกระเพื่อมอะไรไหม?
คือหนูไม่ได้คิดว่าสิ่งที่เราพูดมันจะส่งผลอะไรมากหรือน้อย แค่รู้สึกว่าหนูอ่ะมีความหวังแล้วคิดว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้มีความหวังที่จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง
ได้ปลดล็อกไปในตัว?
ไม่รู้ว่ามันจะใช้คำว่าอะไร แต่ว่าหนูรู้สึกว่า พอเราไม่ได้กลัวอีกต่อไปแล้ว เราสแตนด์บายความไม่กลัวมาสักพักนึงแล้ว เราเป็นประชาชนคนหนึ่งที่เราตื่นรู้กับสิ่งนี้ เราอ่านเราไม่กลัวที่จะแชร์ไม่กลัวที่จะออกความคิดเห็นในโซเชียลมีเดียอยู่แล้ว มันเหมือนถ้าเทียบกับการขับรถ เหมือนหนูมองคันเร่งมาเรื่อย ๆ แล้วการพูดครั้งนี้มันก็ไม่ได้แปลว่าจะทำให้หนูเหยียบคันเร่งเร็วขึ้น
หนูก็ยังตื่นรู้กับสิ่งนี้มากด้วยสปีดเดิมไปเรื่อย ๆ ค่ะ ซึ่งหนูยังมีความหวังนะ รอสองเดือนนี้
อยากจะบอกอะไรกับคนในวงการเรื่องนี้ไหม?
ม่รู้จะบอกอะไรเหมือนกัน เพราะว่าหนูรู้สึกมันเป็นสิทธิส่วนตัวจริง ๆ สิทธิของเขาจริง ๆ มันเป็นช้อยส์ทางเลือกหรือวิธีการของแต่ละคนมากกว่า บางคนไม่พูดก็ไม่ได้แปลว่าเขาไม่ออกความคิดเห็นก็ได้นะ อย่างน้อยตื่นรู้และตระหนักตัวมันเป็นอะไรที่ดีอยู่แล้ว
คอมเมนต์ด้านลบตั้งรับยังไง?
จริง ๆ หนูรู้อยู่แล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น หนูรู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องมีทั้งคนที่ไม่ชอบและคนที่ชอบในสิ่งที่เราทำ มันเป็นเรื่องปกติเลย ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตามก็จะมีทั้งคนรักทั้งชอบและไม่ชอบฉะนั้นหนูเฉย ๆ นะ
ผลกระทบกับงาน?
ไม่นะคะ หนูรู้สึกว่าเราพูดในสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ แล้วมันไม่มีใครที่จะสามารถโต้แย้งได้ว่ามันไม่จริง คือเราพูดออกไปแล้ว เราไม่สามารถที่จะชักคำพูดกลับมาและย้อนเวลาได้
คิดว่าเสียงเราดังไหม?
ไม่รู้สิ เขารู้อยู่แล้วแหละ หนูก็คือมนุษย์คนหนึ่งประชาชนคนไทยคนหนึ่ง จริง ๆ หนึ่งสิทธิเสียงของหนูก็มีหนึ่งสิทธิเสียงเท่าพี่ ๆ ทุกคนเหมือนกัน หนูเป็นคนหนึ่งที่ขับรถไปเลือกตั้งเหมือนทุกคน หนูนั่งฟังข่าวอ่านข่าวเหมือนกับที่ทุกคนทำ หนูเสียภาษีเหมือนคนปกติเหมือนกัน มันก็แค่นั้นเลย
มาลุ้นกันค่ะ สองเดือนเพราะพวกเรารู้อยู่แล้วว่ามันมีจุดโหว่เยอะมากในหลาย ๆ อย่างที่มันมีความหละหลวม ถ้าเป็นไปได้เราก็มีความหวังว่ามันจะสตรองมากขึ้น มันจะพูดสิ่งดี ๆ ขึ้นไปมากขึ้น รู้สึกว่าคนไทยเมืองไทยเรามีควอลิตี้มาก ๆ ความหวังมันเป็นอะไรที่ทำให้เราอะ ไลฟ์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- หนิง ปณิตา เคลื่อนไหว ขึ้นศาลเสร็จไปหา เพื่อนคนนี้ต่อ? แม่ยิ้มสดใสมาก
- ภรรยา ‘เอส กันตพงศ์’ แจงความจริงด่วน! หลังมีข่าวลือสามีออกจาก รพ.
- ก้อย รัชวิน ประกาศข่าวดี! เป็นของขวัญวันเกิด ตูน บอดี้สแลม ท้องลูกคนที่ 2 แล้ว