Entertainment

ไม่เคยเล่า เปิ้ล ไอริณ โดนอะไรมาบ้าง? เผยสาเหตุสาปแช่ง ใบเตย เคลียร์ดราม่า 9 ปีก่อน

ไม่เคยเล่าที่ไหน เปิ้ล ไอริณ เคลียร์ดราม่า 9 ปีก่อน เผยสาเหตุสาปแช่ง ใบเตย วันนี้ไม่ติดใจแล้ว อโหสิกรรมกับทุกอย่าง

หลังจากที่ถูกชาวเน็ตขุดคลิปเก่าเมื่อ 9 ปีก่อน ที่ เปิ้ล ไอริณ เคยให้สัมภาษณ์ถึง ใบเตย อาร์สยาม เมื่อครั้งที่มีดราม่า มีปัญหากันเอาไว้ ซึ่งเรื่องนี้ชาวเน็ตต่างมองว่าคำสาปแช่งของเธอนั้นศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ หลังจากที่ ใบเตย-ดีเจแมน ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ล่าสุด เปิ้ล ไอริณ ออกมาเผยสาเหตุเบื้องลึกเล่าละเอียดถึงเหตุการณ์ในอดีต ผ่านทางรายการโต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา

13 เปิ้ล ไอริณ 1

9 ปีที่แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ?

“ก่อนอื่นเราต้องพูดให้ทุกคนทราบก่อน ว่าคลิปที่เป็นไวรัลไปเราได้พูดไปก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุเดือนก่อนเป็นเดือนแล้ว ด้วยคำถามที่นักข่าวถามเราว่ารู้สึกยังไงที่คนมาสาปแช่งเรา เราก็เลยหัวเราะขึ้นมา และพูดว่าจริง ๆ เราเป็นคนไปสาปแช่งเขามากกว่า ซึ่งจริง ๆ ลึก ๆ เรารู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น และเราก็เลยรู้ว่าถ้าเราพูดไปในอนาคตข้างหน้าเราไม่ต้องพูดแล้ว ตรงนี้จะแทนคำพูดของเรา และสังเกตอีกอย่างหนึ่งว่าตอนที่เราพูดเราก็จะไม่ได้ใส่เสื้อเรียบร้อยแบบนั้น แต่วันนั้นเราใส่เสื้อสีส้มและเป็นเสื้อเชิ้ตเรียบร้อยด้วย ซึ่งเรารู้ว่ามันจะต้องออกไปในทางไหน”

ในวันที่ออกมาพูดรู้สึกอย่างไร เครียดแค้นหรืออะไร ?

“วันที่เป็นข่าวตอนนั้น ด้วยความที่เราต้องเรียนให้ทุกคนทราบก่อนว่าเราเองเป็นคนที่สำคัญที่สุดคือการให้เกียรติผู้อื่น เราเป็นมนุษย์ที่ให้เกียรติทุกคนอย่างยิ่ง แม้แต่เด็กเสิร์ฟไปเสิร์ฟอาหารเรายังต้องมองตาเขาและพูดด้วยความสุภาพ แม้แต่ รปภ. เราไม่เคยเรียกเขาว่ายาม เพราะเราเล่นละครเวลาเรียกใครว่ายาม ซึ่งคาแรกเตอร์มันจะเป็นการดูถูกคน คือเราให้เกียรติทุกคนอย่างยิ่ง

แต่เวลานั้นเราโดนไม่ให้เกียรติในทุกมิติเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการก๊อปปี้ผลงาน ซึ่งก็ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนว่าจริงๆ  แล้วมีเพลงหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นเราจะทำเอ็มวีแล้วเราโทรไปหาผู้จัดการเรา เค้าก็เลยนัดเรามาเจอและให้เรายกหูคุยกับผู้ใหญ่อีกค่ายหนึ่ง และตอนนั้นเรามีสปอนเซอร์เราเลยบอกไปว่าเท่าไหร่ก็ยอมจ่าย เค้าก็เลยถามตัวเส้นเอ็มวี เราก็เลยบอกว่าเอ็มวีเราจะนั่งรถทัวร์มา และเราจะเปลี่ยนเสื้อผ้ามีแดนเซอร์ช่วยเปลี่ยน และรถทัวร์ชนกัน ซึ่งเราก็จะเดินจากปรากฏตัวลงมาเป็น Red Carpet และหลังจากนั้นเค้าหายไป แล้วก็กลายเป็นเอ็มวีของเค้า ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกว่าโกรธมากเพราะมันเป็นความคิดของเรา”

13 เปิ้ล ไอริณ 2

ก่อนหน้านั้นมีทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า ?

“ไม่เคยเลย ไม่เคยทะเลาะ แต่เราก็ยังเชื่อว่าทุกอย่างเกิดขึ้นไม่มีเรื่องบังเอิญ ด้วยเหตุผลของมัน มันอาจจะมีกรรมด้วยกันมา”

คำพูดเราวันนั้นเหมือนสาปส่ง ?

“ที่เรารู้สึกไม่ดีที่เค้าทำเรื่องนี้ไว้บุญกรรมก็เลยชักพาให้เราได้ไปเล่นภาพยนตร์กับแฟนเขา และในบทผู้กำกับก็มาเติมให้เราตอนที่เดินเข้าไปเซ็ทฉากว่าเดี๋ยวต้องจูบกันนะ เราก็คิดว่าจูบก็จูบ ไม่ได้คิดอะไร พอเขาออกไปเราก็ต้องปกป้องเขา ซึ่งตอนที่ถ่ายจูบมันเป็นซีนเฉพาะหน้า แต่มือเขาจับหน้าอกเรา พอมีคนมาถามเรื่องนี้เราก็บอกว่าไม่เป็นไรมันเป็นฟีลลิ่ง แล้วพยายามไม่มีปัญหา

แต่หลังจากนั้นพอภาพออกไปทางคุณดีเจแมน เค้าได้โทร.บอกให้ผู้ใหญ่มาบอกเราว่าเธอเป็นคนปล่อยภาพใช่ไหม ซึ่งมันเกินจากหน้าที่รับผิดชอบของเรา ที่เราจะไปปล่อยภาพจากบทหนังได้ จนเค้าไปสั่งบอกให้ผู้กำกับตัดบทนี้ออก ซึ่งเราก็โมโหเพราะเราเล่นเต็มที่นะ แล้วก็เปลืองตัวเรา ก็ทำงานเต็มที่สุดท้ายเค้าก็ให้ผู้ใหญ่โทร.มาด่าเรามันคือหลายอย่างมาก และบังเอิญหนูก็ได้ไปเล่นอีกเรื่องหนึ่งกับเขาอีก ซึ่งเค้าบอกว่าถ้าคนนี้เดินเข้ามาในสตูดิโอวันนี้เค้าจะเดินออก และทางผู้ใหญ่ก็เลยมาบอกเราว่าให้เปิ้ลไปรอข้างนอก ซึ่งเรารอตั้งแต่เริ่มแต่งหน้าใช้เวลา 4 ชั่วโมง”

13 เปิ้ล ไอริณ 3

ตอนนั้นคนจะรู้สึกกับเราว่าเราเป็นบ้า ที่ออกมาพูดเรื่องต่าง ๆ รู้สึกเสียใจไหม ?

“หนูไม่ได้เสียใจตรงนั้น แต่สิ่งหนึ่งก็คือว่าช่วงนั้นดูจิตใจอ่อนแอจริง ๆ คุณพ่อคุณแม่ก็เพิ่งเสีย คุณยายก็เพิ่งเสีย น้องสาวก็เพิ่งเสีย และหนูรู้สึกว่าหนูก็มาโดนผู้ใหญ่ว่าอย่างนี้อีกแล้ว คนนี้ก็มาไล่หนูอีก ปีนั้นเป็นปีที่โดนยุงกัดแล้วหนูตบยุงเลย คือหนูปกป้องตัวเองเลย เพราะทุกอย่างมันเข้ามารอบตัว เป็นปีที่จิตใจเราอ่อนแอ แต่พอเราย้อนกลับไป ทำไมมัวแต่คิดเรื่องหยามเกียรติ พอเราเริ่มปล่อยวางเราก็รู้สึกว่าเราอยากอโหสิกรรมให้ทุกคนบนโลกมนุษย์นี้หมดเลย”

เราปล่อยวางครั้งนี้ได้ยังไง ?

“เรามานั่งวิเคราะห์หลายอย่างในชีวิตมนุษย์ พอเราปล่อยวางตรงนั้นได้เราก็เลยได้บวชมาตลอด มากเกือบ 30 ครั้ง แล้วหนูชอบไปปลดปล่อยอยู่ในป่าด้วยซ้ำ ก็ต้องขอบคุณที่หนูได้เป็นพุทธศาสนิกชน และทำให้ตรงนี้มาช่วยหล่อหลอม จนเราเจออุปสรรค เจอเรื่องแบบนี้ เพราะเราไม่ได้ผ่านเรื่องนี้ เราก็ได้เจอ อีกเดี๋ยวเราตื่นรู้ว่าถ้าเราไม่ผ่านเรื่องไหน เรื่องมันจะเข้ามาอีกสันวันหนึ่ง เราตื่นรู้เราถึงรู้ว่าเราไม่ได้ปล่อยวาง เรายึดอัตราตัวตนแบบทดสอบเดิม ๆ มันเลยเข้ามาไม่หยุดอุปสรรคนี้ไปได้เลย ทำให้รู้ว่ามันผ่านได้เท่านั้นเอง”

13 เปิ้ล ไอริณ 4

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo