เอ็ม อภินันท์ เล่านาทีระทึก รถหมุน 180 องศา ทำเกือบตกเหวที่ญี่ปุ่น พราะหิมะตกอย่างหนัก ทำให้ถนนลื่น รถยนต์ที่ขับนั้นเสียหลักขณะที่อยู่บนเขา
หาเวลาเหมาะเจาะ ยกครอบครัวไปเที่ยวแบบพร้อมหน้า พร้อมตา สำหรับครอบครัวของดารารุ่นใหญ่ เอ็ม-อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล กับภรรยาคนสวย มิลค์ บุสกร และลูกสาวฝาแฝด น้องฌานา-น้องฌารีณ ด้วยการเก็บเสื้อผ้าพับใส่กระเป๋าพากันไปเที่ยวไกลถึงประเทศญี่ปุ่น แต่งานนี้กับเจอเหตุการณ์ระทึกสุด ๆ เมื่ออยู่กลางเขา
- คอนเสิร์ต BLACKPINK กดบัตรวันไหน? ราคา-ผังที่นั่ง เช็กได้ที่นี่เลย
- เปิดยอดเงินที่ อั้ม พัชราภา ช่วยเหลือ ป้าแมว เคยโอนให้ถึงกี่หลัก..?
- คาด พระเอกซุป’ตาร์ ใช้สารต้องห้าม ร้ายแรงถึงขั้นอาจไม่หวนคืนวงการอีก!
เอ็ม อภินันท์ เล่านาทีระทึก รถเสียหลักหมุน 180 องศา ทำเกือบตกเหวที่ญี่ปุ่น
แต่ล่าสุด (27 ก.พ.) เอ็ม อภินันท์ กลับเจอเรื่องราวสุดระทึกระหว่างทริป เพราะหิมะตกอย่างหนัก ทำให้ถนนลื่น รถยนต์ที่ขับนั้นเสียหลักขณะที่อยู่บนเขา “ขอแอบแชร์ประสบการณ์กับทุกคนนะครับ เมื่อเรามาญี่ปุ่น และเจอสถานการณ์หิมะตกอย่างหนัก จึงทำให้ถนนลื่น รถเสียหลักไถลไปชนราวกันตกที่ขอบถนน รถบุบนิดหน่อย แต่ก็ไม่เป็นอะไรมาก ขับต่อได้สบาย (และเราก็ซื้อประกันไว้แล้วด้วย) เราเลยไปเที่ยวกันต่อ
แต่ว่า…พอขากลับ หลังจากที่หิมะตกติดต่อกันหลายชั่วโมง หิมะบนถนนก็เริ่มแข็งตัว จากหิมะที่คลุมเต็มถนนเลย กลายเป็นถูกเคลือบไปด้วยแผ่นน้ำแข็งแทน ทีนี้ล่ะ พอขับไปขับมาสักพัก รถก็เริ่มควบคุมไม่ได้ หมุน 180 องศา แล้วก็มาจอดข้างทางของอีกฝั่งแบบพอดีเป๊ะ ข้างทางก็เป็นเหวอีกต่างหาก โชคดีที่รถหยุดเองทั้ง ๆ ที่ไม่ได้แตะฟุตบาทเลย ไม่งั้น…อาจจะตกเขาไปแล้วก็ได้
ตอนนั้นนะ บทสวดมนต์ต่า งๆ นี่ มาเป็นชุดเลยจ๊ะ ทีนี้ก็เลยโทรหากู้ภัย กู้ภัยคุยอังกฤษไม่ได้ โทรหาตำรวจ ซักพักตำรวจก็มา แต่ตอนนั้นตำรวจก็ทำอะไรมากไม่ได้ เราต้องโทรหาบริษัทรถเช่า และโทรหาประกันเอง ดูว่าเค้าจะว่ายังไง ก็โทรไปเรื่อย ๆ ๆ ๆ…จากที่คิดว่าไม่มีอะไรมาก แค่เอารถมาลาก หรือยกไป หรือหาโซ่มาใส่ล้อให้ แค่นั้นก็จบ
ที่ไหนได้ มันไปวุ่นตรงที่ว่า รถมันมีรอยชน เค้าเลยไม่เชื่อว่าเราจะไม่มีคู่กรณี คงจะกลัวว่าเราจะชนแล้วหนีมาอะไรประมาณนั้นล่ะมั้ง เราก็พยายามบอกว่า เรื่องนั้นน่ะเอาไว้ก่อนมั้ย พาพวกเราที่ติดอยู่กลางป่ากลางเขา หิมะล้อมรอบตัว ออกไปก่อนได้มั้ย ค่อยไปเคลียร์กันอีกทีข้างล่างในเมืองก็ได้….
ในระหว่างรอประกันทำเรื่อง ตำรวจก็ช่วยเรียกรถลากมาให้ก่อน รถลากมามอง ๆ ดูแล้วก็กลับไป ซักพักประกันโทรมาบอกว่า รถลากบอกว่าลากไม่ได้ เพราะหิมะเยอะเกินไป เพราะฉะนั้นพวกเราต้องหาทางเอารถกลับไปเอง เราก็เลยขอกลับลงไปกับตำรวจแล้วทิ้งรถไว้ได้มั้ย ประกันก็ไม่ยอม นางบอกว่ารถตำรวจไม่ใช่ taxi และสถานีตำรวจไม่ใช่โรงแรม เฮ้ยยยย ไม่ได้จะไปนอนที่นั่นซะหน่อย เรามีที่พักแล้ว
พูดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมฟัง พูดซ้ำ ๆ อยู่อย่างเดียวว่าเราต้องเฝ้ารถไปเรื่อย ๆ ทั้งคืน จนกว่าหิมะจะละลาย แล้วค่อยเอารถไปคืน บอกว่าเรามีเด็กเล็ก นางก็ไม่ยอม!!!! (ยังไม่จบ…อ่านต่อในคอมเมนต์นะครับ)
, โอ้ยยยย นี่มันกลางป่า หิมะตก และอุณหภูมิ 0 องศานะเฟ้ยยยยย พอประกันพูดว่าต้องเฝ้ารถทั้งคืนจบปุ๊บ สาวน้อยทั้งสองของเราก็ร้องไห้จ้าเลย เด็ก ๆ ก็กลัวอะนะ ก็แน่สิ นั่งรออยู่บนรถมา 3 ชั่วโมง จากสว่างยันมืด แถมอยู่กลางป่ากลางเขาแบบนี้…..
สุดท้ายตำรวจก็เห็นใจ ยอมพาพวกเราลงมาส่งในเมือง ซึ่งดูเหมือนจะหักหน้าเจ๊ประกันคนนั้นด้วย เพราะตอนหลังนางโทรกลับมาบ่นว่า ดีนะที่ตำรวจช่วยเรา ทั้ง ๆ ที่ไม่ควรต้องช่วย เราต้องขอบคุณตำรวจให้มาก ๆ นะ จ้าาาาา แม่คู้ณณณ เราอ่ะซาบซึ้งในความช่วยเหลือของคุณตำรวจมาก ๆ อยู่แล้ว มาอยู่ด้วยตลอด 3-4 ชั่วโมง ไม่ไปไหนเลย คุยกันก็ไม่รู้เรื่อง ก็พยายามกันสุดชีวิต ดีที่ระหว่างนั้นยังมีเซนเซปาล์ม @palm_instinct คอยช่วยเป็นล่ามข้ามประเทศให้ ไม่งั้นคงวุ่นกว่านี้อีกหลายเท่า….
สรุป ความช่วยเหลือทั้งหมดนี้มันควรจะเกิดขึ้นทันทีที่ตำรวจมาถึงด้วยซ้ำ เรื่องมันจะจบภายในครึ่งชั่วโมงแรกเลยแหละ ถ้าเจ๊ประกันไม่ห่วงรถ มากกว่าห่วงคน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เค้าจะเห็นว่ารถคันนึงมันมีค่ามากกว่าชีวิตคน 7 คน……แอบเสียความรู้สึกมากมาย”
ขอบคุณ : m_apinan
ดูโพสต์นี้บน Instagram
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ป้าแมว ยัน! ไม่เคยเอ่ยชื่อ ตอบแล้ว ดาราอ้างช่วยเหลือออกสื่อ ใช่ ยุ้ย จีรนันท์ ไหม?
- เป้ อารักษ์ เปิดใจ สาเหตุเลิกแฟนนางงาม มิเรียม หลังคบมานานถึง 3 ปี
- พ่อแม่ ‘ดีเจวิว’ ติดใจสาเหตุเสียชีวิต เล่ารถชน 3 วันก่อน แต่หมอจ่ายยา ให้กลับบ้าน