โรค “Aphasia” สาเหตุที่ทำให้ดาราฮอลีวูดชื่อก้อง “บรูซ วิลวิส” ต้องประกาศยุติบทบาทนักแสดง เกิดจากอะไร อาการแบบไหน รักษาอย่างไร เช็คเลย
ถือว่าเป็นข่าวช็อกวงการบันเทิงระดับโลก เมื่อ บรูซ วิลวิส ดาราฮอลลีวูดชื่อดังวัย 64 ปี ประกาศยุติบทบาทนักแสดง โดยครอบครัวแจ้งว่า มีสาเหตุมาจากโรคอะเฟเซีย (Aphasia) หรือภาวะสูญเสียการสื่อความ
ทั้งนี้ แพทย์ได้วินิจฉัยว่า บรูซ วิลลิซ มีอาการของโรคอะเฟเซีย ที่เกิดจากภาวะผิดปกติของสมองซีกซ้ายที่ควบคุมเกี่ยวกับภาษาและทักษะต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดความบกพร่องในด้านการพูด การออกเสียง และความเข้าใจภาษา เรียกว่าเกิดภาวะเสียการสื่อความ ทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน และการตอบสนองที่ผิดพลาดโดยอาจมีความรุนแรงในแต่ละทักษะไม่เท่ากัน
เปิดสาเหตุโรค Aphasia
- เส้นเลือดในสมองอุดตัน ตีบ หรือแตก
- เนื้องอกในสมอง
- ติดเชื้อในสมอง
- การบาดเจ็บที่กระทบกระเทือนถึงสมอง
ลักษณะอาการของโรค Aphasia
- พูดไม่ได้ สื่อสารไม่ได้แม้กระทั่งการใช้ภาษากาย
- ฟังคำพูดไม่เข้าใจ ตอบไม่ตรงคำถาม
- พูดไม่ชัด การนึกคำพูดลำบาก
- บอกความต้องการไม่ได้ บอกชื่อสิ่งของที่ใช้ไม่ได้ ลืมชื่อคนในครอบครัว
- ทำตามคำสั่งไม่ได้ พูดตามไม่ได้
- มีความลำบากในการเคลื่อนไหวอวัยวะในการพูด ปาก ลิ้น ขากรรไกร
โดยสรุปคือ อาการของโรคอะเฟเซีย จะมี 4 แบบ ดังนี้
1. แบบที่ยังสามารถสื่อสารได้ (Wernicke’s Aphasia)
เกิดจากส่วนกลางของสมองซีกซ้ายได้รับความเสียหาย ผู้ป่วยพูดได้ปกติ แต่ไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่ผู้อื่นพูด ไม่สามารถใช้ภาษาได้อย่างถูกต้อง มีแนวโน้มที่จะพูดประโยคยาว ๆ หรือประโยคที่ซับซ้อนติดต่อกันโดยไม่มีความหมาย หรือใช้คำไม่ถูก และไม่ทราบว่าผู้อื่นไม่เข้าใจ
2. แบบที่ไม่สามารถสื่อสารได้ (Broca Aphasia)
เป็นผลมาจากส่วนหน้าของสมองซีกซ้ายได้รับความเสียหาย ส่งผลให้มีปัญหาด้านการสื่อสารโดยเข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นสื่อสารได้ดีกว่าการพูดสื่อสารออกไป ผู้ป่วยจะสื่อสารได้แค่ประโยคสั้น ๆ พูดไม่จบประโยค และไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นสื่อสารได้ทั้งหมด
3. แบบ Conduction
ผู้ป่วยมีความเข้าใจและสามารถใช้ภาษาได้ดีทั้งการพูด และการเขียน แต่ไม่สามารถพูดตามได้หรือหากพูดตามจะพูดผิด
4. แบบ Global
เป็นผลจากสมองซีกซ้ายได้รับความเสียหายทั้งส่วนหน้าและส่วนกลาง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีปัญหาทั้งการสื่อสารและการรับสาร ไม่สามารถอ่านหรือเขียนได้ มีอาการของภาวะบกพร่องทางการสื่อความแบบที่สามารถสื่อสารได้และไม่ได้รวมกัน
ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลสุขภาพ พบแพทย์ ระบุว่า โรคอะเฟเซีย เป็นภาวะบกพร่องทางการสื่อความ โดยเป็นผลมาจากการที่สมองส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมการใช้ภาษาได้รับความเสียหาย ทำให้การลำเลียงเลือดเข้าสู่ในบริเวณดังกล่าวถูกขัดขวางจนทำให้เนื้อสมองตายในที่สุด
ทั้งนี้ ภาวะอะเฟเซีย อาจเกิดขึ้นได้อย่างกะทันหัน หลังเกิดภาวะเส้นเลือดในสมองแตก ภาวะสมองขาดเลือด การได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะหรือการเข้ารับการผ่าตัดสมอง
นอกจากนี้ยังพบว่าในบางรายอาการอาจจะเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ โดยสาเหตุอาจมาจากเนื้องอก การติดเชื้อในสมอง โรคทางระบบประสาท หรือภาวะเสื่อมถอยของสมองอย่างโรคสมองเสื่อม
แนวทางการรักษา
แพทย์จะรักษาด้วยวิธีการบำบัดทางการพูดและภาษาเป็นหลัก เพื่อฟื้นฟูความสามารถด้านการใช้ภาษา และเสริมทักษะการสื่อสาร เริ่มจากการประเมินสุขภาพทั่วไปของผู้ป่วย วัดระดับความผิดปกติของการใช้ภาษา และทักษะทางสังคม
จากนั้นเข้ารับการบำบัดจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ โดยแพทย์จะฝึกหรือทบทวนการใช้คำ ใช้ประโยคที่ถูกต้อง การพูดทวน และการถามตอบที่เหมาะสมให้แก่ผู้ป่วย รวมทั้งมีการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้คำศัพท์และเสียงของคำต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถพัฒนาทักษะด้านการสื่อสาร เข้าร่วมบทสนทนา สื่อสารได้
หลังได้รับการบำบัดอย่างต่อเนื่องอาการของผู้ป่วยจะค่อย ๆ ดีขึ้น จากการศึกษาแพทย์ระบุว่า การบำบัดจะได้ผลที่ดีที่สุดเมื่อเริ่มทันทีหลังร่างกายและสมองเริ่มฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บจนอยู่ในอาการที่ปลอดภัย ในบางรายอาจมีการใช้ยาในการรักษาร่วมด้วย
โรคอะเฟเซียป้องกันได้
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่สร้างความเสียหายต่อสมอง และดูแลสุขภาพของสมอง เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีโซเดียมและไขมันต่ำ งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควบคุมระดับความดันโลหิต และไขมันในเลือด
- สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หรือมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบการไหลเวียนโลหิต ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 1 ล้านวิวแล้ว! คลิปแรกของ Abigail ลูกสาว ชมพู่ อารยา-คนบันเทิงแห่เมนต์ไอจีแตก
- ย้อนคำทำนาย ‘หมอปลาย’ ผ่าดวงปี 2565 สูญเสียคนบันเทิงหลายราย ทั้งอุบัติเหตุและโรคภัย
- เปิดภาพล่าสุด ‘ดอน ธีระธาดา’ เป็นสตั๊นท์แมนฮอลลีวูด โผล่ The Matrix 4