Lifestyle

ไร้ข้อพิสูจน์!! ‘ปลาเหล็ก-กระทะเหล็ก’ ช่วยแก้โลหิตจาง ย้ำทานอาหารที่มีธาตุเหล็กดีที่สุด

กรมอนามัย เตือนอย่าหลงเชื่อ “ปลาเหล็ก-กระทะเหล็ก” ช่วยเพิ่มธาตุเหล็ก ยันไม่มีหลักฐานชี้ชัดช่วยแก้โลหิตจาง แนะทานอาหารที่มีธาตุเหล็กดีที่สุด

นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดี กรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีการส่งต่อข้อมูลบนโลกออนไลน์ เกี่ยวกับปัญหาการขาดธาตุเหล็ก โดยมีข้อมูลงานวิจัยที่ระบุว่า การนำปลาเหล็กลงไปร่วมปรุงประกอบอาหาร เพื่อจะช่วยเพิ่มธาตุเหล็กในอาหารนั้น

ปลาเหล็ก

จากข้อมูลเชิงวิชาการ พบว่า ปลาเหล็ก ที่ได้รับการเตรียมตามสูตรดังกล่าว (Lucky Iron Fish) สามารถให้ธาตุเหล็กเมื่อต้มในน้ำเดือดได้จริง

แต่ผลจากการวิจัย ชี้ให้เห็นว่า การดูดซึมและการที่ร่างกายนำธาตุเหล็กไปใช้ (Iron Bioavailability) น้อยมาก เมื่อเทียบกับการได้รับวิตามินเสริมธาตุเหล็ก Ferrous Sulfate จึงไม่พบการเพิ่มขึ้นของระดับเฟอร์ริติน (Ferritin) ที่เป็นโปรตีนที่จับกับธาตุเหล็กในเม็ดเลือดแดง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการขาดธาตุเหล็กหรือโรคโลหิตจางได้

ดังนั้น ปลาเหล็กจึงไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ในการป้องกันแก้ไขปัญหาโลหิตจาง จากการขาดธาตุเหล็ก

นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า มีการส่งต่อข้อมูลการขายสินค้ากระทะเหล็ก ที่อวดอ้างสรรพคุณ ว่ามีธาตุเหล็กและช่วยเพิ่มธาตุเหล็กในอาหาร ถือเป็นการโฆษณาเกินจริง เพราะยังไม่มีงานวิจัยใดสามารถยืนยันได้

สาเหตุหลักที่ผู้ปรุงอาหาร นิยมนำกระทะเหล็ก มาใช้ปรุงประกอบอาหาร เพราะร้อนเร็ว ให้ความร้อนสูง ใช้เวลาในการปรุงอาหารน้อย และยังทำให้อาหารสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการน้อยลง

กะทะเหล็ก

แต่ข้อเท็จจริงคือ ความร้อนสูงที่ใช้ ในการปรุง จะทำให้อาหารไขมันสูงบางชนิด ก่อให้เกิดสารเคมีที่ไม่ดีต่อสุขภาพ หากไม่ระวังให้ดี การปรุงอาหารด้วยกระทะเหล็ก อาจทำให้อาหารไหม้ได้ง่าย

สรุปว่า การปรุงอาหารด้วยกระทะเหล็กจะดีต่อสุขภาพหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ โดยเฉพาะอาหารหรือวัตถุดิบที่ใช้ ปริมาณ และชนิดของน้ำมันที่ใช้ในการปรุงอาหารอีกด้วย

กรณีการขาดธาตุเหล็ก ส่วนใหญ่ก็มักจะเกิดกับผู้หญิง สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการมีประจำเดือน และในกลุ่มคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์ รวมไปถึงหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ร่างกายต้องการธาตุเหล็กเพื่อนำมาสร้างเม็ดเลือดแดง

ส่วนวิธีสังเกตอาการของการขาดธาตุเหล็ก คือ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ตัวซีด เปลือกตาด้านในซีด เจ็บป่วยง่าย เนื่องจากเลือดไม่มีธาตุเหล็กเพียงพอ ซึ่งนำไปสู่ภาวะโลหิตจาง

ข้อมูลจากการสำรวจด้านโภชนาการของเด็ก ในภูมิภาคเอเชีย ปี 2554-2555 พบว่าเด็กไทย อายุ 6 เดือน-12 ปี มีความชุกภาวะโลหิตจาง 10.4% โดยพบความชุกในเขตชนบทสูงกว่าเขตเมืองถึง 2 เท่า

ขณะที่รายงานสำรวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 5 ปี 2556-2557 พบความชุกโลหิตจางในกลุ่มหญิงวัยเจริญพันธุ์ อายุ 15-45 ปี 22.7% รวมถึงข้อมูลจากระบบคลังสุขภาพกระทรวงสาธารณสุข ยังพบความชุกโลหิตจางในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ตั้งแต่ ปี 256232564 พบ 16.4%, 15.1% และ 14.6% ตามลำดับ

ปลาเหล็ก1

ที่ผ่านมา กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เร่งผลักดันนโยบาย และรูปแบบการบริการต่าง ๆ เพื่อให้หญิงไทย ได้รับการส่งเสริมภาวะโภชนาการป้องกันภาวะโลหิตจาง รวมทั้ง การส่งเสริมพฤติกรรมการกินอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ได้แก่

1. เนื้อสัตว์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเนื้อแดง เลือด ตับ เครื่องในสัตว์ ไข่แดง ปลา เป็ด ไก่ และอาหารทะเล

2. ธัญพืช เช่น ซีเรียล ข้าวโอ๊ต จมูกข้าวสาลี แป้ง และถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ เป็นต้น

3. ผักใบเขียวเข้ม เช่น คะน้า ตำลึง ผักโขม ผักบุ้ง บรอกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง เป็นต้น

นอกจากนี้ ควรกินผลไม้ที่เป็นแหล่งของวิตามินซี เช่น ส้ม ฝรั่ง มะละกอ สตรอว์เบอร์รี ส้มโอ กีวี เป็นต้น ร่วมกับอาหารในมื้อนั้น จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กไปใช้ได้ง่ายขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo