Telecommunications

‘มาเลเซีย’ ไฟเขียว ‘เซลคอม-ดิจิ’ เดินหน้าควบรวมกิจการในประเทศ

หน่วยงานคุมกฎระเบียบด้านกิจการการสื่อสาร มาเลเซีย ไฟเขียว “เซลคอม-ดิจิ” เดินหน้าควบรวมกิจการ เปิดทางสร้างผู้บริการดิจิทัล ที่แข็งแกร่งในเชิงพาณิชย์ และมีความยืดหยุ่นในการดำเนินงานมากขึ้น

วันนี้ (29 มิ.ย.) ดิจิ (Digi) บริษัทมาเลเซีย ในเครือเทเลนอร์กรุ๊ป และกลุ่มเอเซียต้า (Axiata) เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือแจ้งจากคณะกรรมการการสื่อสารและมัลติมีเดียแห่งมาเลเซีย (MCMC) ที่กำกับดูแลกิจการการสื่อสาร ระบุว่า ไม่คัดค้านการควบรวมกิจการระหว่าง 2 บริษัท

ควบรวมกิจการ

การแจ้งดังกล่าวจาก MCMC เป็นการเปิดทางให้ทั้งสองบริษัท ดำเนินการตามขั้นตอนควบรวมต่อไปตามกระบวนการ โดยการทำธุรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์ จะต้องได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ ประเทศมาเลเซีย และผู้ถือหุ้นทั้ง เอเซียต้า  และ ดิจิ

นายเยอเก้น โรสทริป EVP and Head of Telenor Asia เทเลนอร์ กรุ๊ป กล่าวว่า บริษัทบรรลุขั้นตอนสำคัญในเชิงบวกด้านกฎระเบียบ สำหรับการควบรวมกิจการในมาเลเซีย

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะก้าวไปข้างหน้า โดยนำบริษัททั้งสองนี้มารวมกันเพื่อศักยภาพสูงสุด ซึ่งจะเป็นการสร้างผู้ให้บริการดิจิทัลที่แข็งแกร่งในเชิงพาณิชย์และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ด้วยแผนการควบรวมกิจการทั้งในไทย และมาเลเซียนี้ ทำให้เทเลนอร์มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า จะสร้างบริษัทที่พร้อมก้าวสู่อนาคตที่สามารถรองรับการใช้งานดิจิทัลระดับประเทศได้ดียิ่งขึ้น และสามารถนำเสนอบริการล้ำหน้าใหม่ๆ แก่ผู้บริโภคในภูมิภาคได้”

เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคในมาเลเซียจะยังคงได้รับประโยชน์จากการแข่งขันที่มีประสิทธิภาพในภาคโทรคมนาคม เอเซียต้า และ ดิจิ พร้อมที่จะดำเนินการตามข้อเสนอตามที่ระบุโดย MCMC อย่างครบถ้วน

ควบรวมกิจการ

ทั้งสองบริษัทมั่นใจว่า การควบรวมกิจการจะทำให้เกิดการทำงานร่วมกัน และจะสร้างผู้ให้บริการดิจิทัลที่มีความแข็งแกร่ง และยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งสามารถตอบสนองต่อสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

บริษัทที่ควบรวมนี้จะส่งมอบเครือข่ายและสัญญาณที่มีคุณภาพและครอบคลุมมากขึ้น ทั้งยังพร้อมสำหรับการลงทุนในการขยายเครือข่าย ขับเคลื่อนโซลูชัน 5G ใหม่ ๆ และสร้างการเติบโตสำหรับกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ และเอสเอ็มอี โดยบริษัทใหม่ จะสามารถรองรับผู้ใช้งานที่มีจำนวนมากขึ้นได้ ควบคู่ไปกับการส่งมอบสิทธิประโยชน์มากมายผ่านช่องทางบริการต่าง ๆ ที่มีศักยภาพมากขึ้น มอบประสบการณ์เครือข่ายที่ดียิ่งขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ

บริษัทที่ควบรวมนี้ยังได้เสนอแผนการลงทุนมูลค่าสูงถึง 250 ล้านริงกิต (ประมาณ 55 ล้านดอลลาร์) ในระยะเวลา 5 ปี เพื่อสร้างศูนย์นวัตกรรมระดับโลกในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งจะผลักดันให้มาเลเซีย ก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของวิวัฒนาการด้านดิจิทัลทั่วโลก

ศูนย์นวัตกรรมนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการวิจัยและพัฒนาอย่างกว้างขวางโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G, AI และ IOT ตลอดจนสนับสนุนสตาร์ทอัปด้านดิจิทัลในประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม

ทั้งสองฝ่ายคาดการณ์ว่า การควบรวมกิจการจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในครึ่งหลังของปี  2565 ตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อเสร็จสมบูรณ์ เอเซียต้า และ เทเลนอร์ จะถือหุ้นในสัดส่วนที่เท่าเทียมกันในบริษัทที่ควบรวมใหม่ฝ่ายละ 33.1%

ควบรวมกิจการ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo