ดับฝันควบรวม “ทรู-ดีแทค” หลังคณะอนุกรรมการพิจารณาควบรวม มีมติ 10 ต่อ 1 “บอร์ดกสทช.มีอำนาจ” อนุญาตให้ควบรวม หรือไม่อนุญาตควบรวม เสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกสทช.วันนี้
หลังจากเกิดปัญหาข้อขัดแย้งว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ มีอำนาจในการพิจารณาควบรวมธุรกิจหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีประเด็นการควบรวม ธุรกิจระหว่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือทรู และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เนื่องจาก ประกาศกสทช.ปี 2561 กระทั้งบอร์ดกสทช.ชุดปัจจุบันต้องตั้ง คณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาและวิเคราะห์กรณีการรวมธุรกิจระหว่างทรู-ดีแทค ขึ้นมาพิจารณา
ควบรวมทรู-ดีแทค บอร์ดกสทช.มีอำนาจ
ล่าสุดแหล่งข่าวจาก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (บอร์ด กสทช. ) กล่าวกับ The Bangkok Insight ว่าในการประชุมบอร์ดกสทช.วันที่ 15 มิถุนายน 2565 ที่ประชุมจะพิจารณาข้อเสนอของ คณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาและวิเคราะห์กรณีการรวมธุรกิจระหว่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือทรู และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ซึ่งเป็นคณะอนุกรรมการฯ ที่ตั้งขึ้นมาพิจารณาเรื่องการควบรวมระหว่าง ทรู กับ ดีแทค โดยตรง
ล่าสุดคณะอนุกรรมการฯ ได้มีการประชุมในช่วงที่ผ่านมาทุกสัปดาห์ ซึ่งได้ข้อสรุปแล้วว่า คณะกรรมการกสทช. “มีอำนาจ” ในการอนุญาตให้ควบรวม หรือไม่อนุญาตควบรวม ด้วยคะแนนเสียง 10 ต่อ 1 ขณะที่หนึ่งเสียง มองว่าประกาศกสทช.ปี 2561 เห็นชอบแล้ว ควรที่ไปขั้นต่อไป คือกำหนดกติกาเงื่อนไขให้แก่การควบรวมไปเลย ขณะที่เสียงส่วนใหญ่มองว่าไม่ได้ ปัจจุบันยังไม่รู้เลยว่าบอร์ดกสทช.มีอำนาจหรือไม่ จะเอาตามประกาศปี 2561 ไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ข้อสรุปดังกล่าวคณะอนุกรรมการฯ ได้เสนอมายังบอร์ดกสทช.แล้ว และจะมีการนำเสนอเข้าที่ประชุมวันนี้ (15 มิ.ย.) เพื่อที่บอร์ดจะได้นำไปดำเนินการต่อในเรื่องการควบรวมธุรกิจระหว่าง ทรู-ดีแทค ต่อไป
“อำนาจในการอนุญาตไม่อนุญาต เป็นอำนาจเดิมของคณะกรรมการกสทช.อยู่แล้ว ตามประกาศกสทช.เมื่อปี 2549 มาเรื่อย ๆ กระทั่งเมื่อปี 2561 มีประกาศกสทช. ออกมา อาจจะต้องการเพื่อความรวดเร็ว บอร์ดจึงเป็นเพียงแค่รับทราบอย่างเดียวเมื่อฝ่ายเลขากสทช. เสนอเรื่องขึ้นมา” แหล่งข่าว ระบุ
แหล่งข่าว กล่าวว่าเมื่อบอร์ดกสทช.มีอำนาจ ดังนั้นต่อไปการเสนอเรื่องจากฝ่ายเลขากสทช. จะเอาอย่างไรกับการควบรวม นั่นหมายถึงว่าบอร์ดมีอำนาจสามารถขอเวลาในการพิจารณาได้ เวลาพิจารณาไม่ได้กำหนดไว้ในประกาศว่าต้องพิจารณากี่วัน
ควบรวมทรู-ดีแทค ส่อเค้าวุ่น
ก่อนหน้านี้ นายณภัทร วินิจฉัยกุล หนึ่งในกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หรือ ซูเปอร์บอร์ด ได้ยื่นศาลปกครองกลางเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 เรื่องการแก้ไขประกาศ กสทช. เกี่ยวกับการควบรวมกิจการทรู – ดีแทค โดยขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินไม่นำการแก้ไขประกาศของ กสทช. ปี 2561 มาบังคับใช้ เนื่องจากมีความไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายประการ เช่น ประกาศในปี 2561 ขัดกับกฎหมายที่มีระดับใหญ่กว่าอย่าง พ.ร.บ. และยังขัดกับประกาศกสทช. ปี 2549 ที่ออกแบบเอาไว้ว่าการควบรวมจะต้องได้รับการอนุญาตไม่ใช่แจ้งเพื่อทราบต่อเลขาธิการกสทช.ภายใน 60 วันเท่านั้น
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นร้องเรียนต่อ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและการโทรคมนาคม วุฒิสภา ให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) และคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) กรณีการควบรวมกิจการบริษัท ทรู กับ DTAC
ขอให้ดำเนินการให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ ของรัฐธรรมนูญ และกฎหมายทุกฉบับอย่างเคร่งครัด โดยไม่ให้มีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา ครั้งที่ 5/2565 วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ได้มีมติรับเรื่องไว้พิจารณา เพื่อสอบหาข้อเท็จจริงตามอำนาจหน้าที่
ขณะที่ คณะอนุกรรมาธิการพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม เป็นผู้พิจารณาเรื่องนี้ โดยเชิญเลขาธิการกสทช. และเลขาธิการ กขค. มาให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการควบรวมทรู-ดีแทค ดังกล่าวเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565
ได้ผลสรุปการพิจารณาศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการ พร้อมกับประเด็นข้อสังเกตและความเห็นของคณะกรรมาธิการฯ คือ อำนาจหน้าที่ของ กสทช. ต่อการกำกับดูแลการรวมธุรกิจระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) เดิมประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการการควบรวมและการถือหุ้นไขว้ในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 กำหนดมาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจไว้เป็นลักษณะของการต้องขออนุญาตก่อนการรวมกิจการ
แต่เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย หลักที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เหมาะสมกับสภาพตลาดและอำนวยความสะดวกให้ภาคอุตสาหกรรม รวมถึงเพื่อให้เกิดประโยชน์การแข่งขันและเกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการ กสทช. จึงได้มีการปรับปรุงแก้ไขระเบียบ หลักเกณฑ์ดังกล่าว โดยการออกประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2561 ซึ่งเปลี่ยนมาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจ เป็นลักษณะของการแจ้งรายละเอียดการรวมธุรกิจ และผลกระทบของการรวมธุรกิจต่อสำนักงาน กสทช. เพื่อทราบ
แล้ว กสทช. อาจพิจารณากำหนดเงื่อนไขหรือนำมาตรการเฉพาะ สำหรับผู้มีอำนาจเหนือตลาดอย่างมีนัยสำคัญในตลาดโทรคมนาคมที่เกี่ยวข้อง มาบังคับใช้เพื่อป้องกันความเสียหายต่อประโยชน์สาธารณะได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ไม่จบ!! ‘กสทช.’ ตั้ง 4 อนุกรรมการ ศึกษาดีลควบรวม ‘ทรู-ดีแทค’
- รุมต้านดีลควบรวม ‘ทรู-ดีแทค’ กระทบค่าบริการมือถือ -บอร์ดใหม่กสทช. ต้องกล้าตัดสินใจ
- กมธ. วุฒิสภา ย้ำ กสทช. ควบรวมทรู-ดีแทค ต้องทบทวนกฏระเบียบ เคร่งครัดกม.