นอสตร้า โลจิสติกส์ เผย 3 ปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน แนะงานขนส่งและโลจิสติกส์ ใช้สุดยอดเทคโนโลยีกล้องติดรถ All In One เพิ่มความปลอดภัย
นางวรินทร สีสุขดี ผู้อำนวยการส่วนผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ บริษัท จีไอเอส จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจการขนส่งสินค้าทางถนนเป็นประเภทการขนส่งหลักของประเทศไทยโดยมีสัดส่วนถึง 80% ของการขนส่งทุกรูปแบบ และเติบโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้นไปด้วย
สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน 3 ปัจจัยหลัก คือ 1. ผู้ขับรถ 2. ยานพาหนะ และ 3. ถนนและสิ่งแวดล้อม
ข้อมูลสถิติของ กรมการขนส่งทางบก ในปี 2564 พบจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดจากรถบรรทุก รวมทั้งสิ้น 563 ครั้ง เพิ่มขึ้นคิดเป็น 9.74% จากปีก่อน โดยสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมผู้ขับรถจำนวน 383 ครั้ง คิดเป็น 68%
สาเหตุพฤติกรรมหลักมาจากความประมาทเป็นอันดับแรก ขับรถเร็วและหลับในเป็นอันดับที่สองในจำนวนเท่ากัน และอันดับที่สามเกิดจากการขับรถตามหลังในระยะกระชั้นชิด
จากข้อมูลอุบัติเหตุดังกล่าว รถบรรทุกมักจะทำให้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงสูง การเกิดอุบัติเหตุจากการขนส่งแต่ละครั้งยังก่อให้เกิดความสูญเสียมากมาย ทั้งการสูญเสียในโอกาสทางธุรกิจและการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งยังส่งผลกระทบทั้งต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและระบบการขนส่งสาธารณะโดยรวม
ดังนั้นผู้ประกอบการธุรกิจให้บริการขนส่ง จึงยิ่งต้องให้ความสำคัญต่อการขับขี่ และการใช้รถใช้ถนน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งเป็นการรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม
พร้อมกันนี้หน่วยงานภาครัฐได้ออกมาตรการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานของธุรกิจบริการขนส่งและลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว ซึ่งสามารถช่วยผู้ประกอบการขนส่งในการควบคุม ตรวจสอบ และดูแลพฤติกรรมการขับรถของพนักงานขับรถได้แบบเรียลไทม์ เพื่อการบริหารจัดการระบบการขนส่งที่ปลอดภัยได้ตามมาตรฐานสากล
ขณะที่ นอสตร้า โลจิสติกส์ ได้พัฒนา NOSTRA LOGISTICS All In One เทคโนโลยีเทเลเมติกส์เพิ่มความปลอดภัยงานขนส่งและโลจิสติกส์ ผสมผสานความสามารถระหว่างกล้องวิดีโอในรถยนต์ การแจ้งเตือนการขับรถ และการตรวจจับความเสี่ยงพฤติกรรมการขับรถ ใช้ในการตรวจสอบ บันทึก และแจ้งเตือนพฤติกรรมการขับรถอันตรายที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างเรียลไทม์
ทั้งนี้ เทคโนโลยีดังกล่าว มีความสามารถในการแจ้งเตือนผู้ขับรถเมื่อมีการเปลี่ยนเลนกะทันหัน เตือนให้รักษาตำแหน่งรถในเลน เมื่อมีการขับรถระยะกระชั้นชิด ขณะรถคันหน้าเคลื่อนที่ และขณะรถคันหน้าหยุดนิ่ง แจ้งเตือนเมื่อมีสิ่งกีดขวางอยู่หน้ารถ เตือนเมื่อรถคันหน้าเริ่มขยับ
นอกจากนี้ ยังมีระบบกล้องตรวจจับความเหนื่อยล้าของตาขณะขับรถ ตรวจจับการเบี่ยงเบนความสนใจขณะขับรถ พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถทั้งแบบแนบหูและจ่อปาก ตรวจจับการสูบบุหรี่ขณะขับรถ โดยสามารถใช้งานรูปแบบภาษาไทย และรองรับการติดตั้งเบาะสั่นเพื่อเตือนพนักงานขับรถ โดยเฉพาะเมื่อมีการละสายตาจากถนน
ปัจจุบันมีผู้ประกอบการขนส่ง โลจิสติกส์ สนใจใช้งานแล้วกว่า 8,000 คัน โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอีก 15% ภายในปี 2566
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘นอสตร้า โลจิสติกส์’ ชี้ลดต้นทุนธุรกิจขนส่ง หัวใจความสำเร็จธุรกิจขนส่ง
- มาแล้ว! ไปรษณีย์ไทย กลับมาให้บริการ ‘ขนส่งต่างประเทศทางอากาศ’ 10 ปลายทาง
- ‘SCGL x JWD’ ประกาศดีลรวมกิจการ ขึ้นแท่น ‘ผู้นำบริการโลจิสติกส์’ รายใหญ่ที่สุดในอาเซียน