Technology

เตือนไว้ก่อน!! แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ระวังกลายเป็นขุมทรัพย์โจรไซเบอร์

ซูเปอร์โพล เผยผลการศึกษา “ภัยอยู่กับมือ” พบประชาชน 76% เคยถูกหลอกลวงในโลกออนไลน์จากการใช้โซเชียล เตือนแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท กลายเป็นขุมทรัพย์โจรไซเบอร์ 

ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้ก่อตั้ง สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (Super Poll) ในฐานะผู้แทนภาคประชาชนในกรรมการผู้ทรงคุณวุฒินโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) เปิดเผยผลการศึกษาเรื่อง ภัยอยู่กับมือ เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลจากผลสำรวจและแหล่งอื่น ๆ เกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือ 76% เคยถูกหลอกลวงในโลกออนไลน์จากการใช้โซเชียล

แจกเงินดิจิทัล

นอกจากนี้ แม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เกินครึ่งหรือ 51.2% ยังเคยตกเป็นเหยื่อขบวนการมิจฉาชีพในโลกออนไลน์หลายรูปแบบ เช่น ลิงก์ล่อเหยื่อ เข้าใช้บริการระบบออนไลน์ไม่ได้ การถูกดูดเงินออกไปจากบัญชี และอื่น ๆ

ทั้งนี้ การที่รัฐบาลจะแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทให้ประชาชนกว่า 50 ล้านคนทั่วประเทศ รวมเป็นเงินกว่า 5 แสนล้านบาท จึงกลายเป็นบ่อน้ำมันทรัพยากรอันมีค่ามหาศาลล่อตาล่อใจให้ขบวนการโจรไซเบอร์ กล้าลงทุนเข้ามาโจมตีระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ของรัฐบาล

แหล่งที่โจมตีง่ายที่สุดคือ โทรศัพท์มือถือ จึงกลายเป็น ภัยอยู่กับมือ ที่รัฐบาลและหน่วยงานความมั่นของชาติจะนิ่งนอนใจต่อไปไม่ได้ เพราะการโจมตีทางไซเบอร์ไปยังมือถือของประชาชนกำลังเป็นปัญหาใหญ่อยู่ทั่วโลกในเวลานี้

Super Poll

ผศ.ดร.นพดล กล่าวว่า ที่น่าพิจารณา คือ การแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ผ่านแอปพลิเคชันไปยังมือถือของประชาชนเป็นส่วนใหญ่ทั้งประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนระดับอำเภอทุกอำเภอและการพัฒนาเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งเสริมสร้างความตระหนักต่อความปลอดภัยทางไซเบอร์มาเป็นวาระสำคัญเร่งด่วน ก่อนวันกดปุ่มแจกเงินให้ประชาชนผ่านทางมือถือ

ทั้งนี้เพราะจุดอ่อนที่สุดของการโจมตีทางไซเบอร์โดยโจรไซเบอร์ คือ ปลายทาง (End Point) นั่นคือโทรศัพท์มือถือของประชาชน และนั่นคือข้อมูลส่วนตัวของประชาชน เลขที่บัตรประชาชน เลขที่บัญชีธนาคาร การทำธุรกรรมทางการเงินของประชาชนผ่านทางโทรศัพท์มือถือตกอยู่ในอันตรายที่เรียกว่า ภัยอยู่กับมือ

ที่น่าเป็นห่วงคือ ภัยอยู่กับมือของประชาชนนี้ควรนับรวม ภัยต่อความมั่นคงของชาติ ภัยต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง ที่อยู่กับโทรศัพท์มือถือของประชาชนทุกคนด้วย

นอกจากนี้ ที่น่าพิจารณาคือ การที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศจะพัฒนา เป๋าตัง ไปสู่การใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ถือได้ว่านายเศรษฐา ทวีสินจะเป็นนายกรัฐมตรีคนแรกของประเทศไทยและคนแรก ๆ ของโลกที่กล้าจะใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยสูงมาทำให้บ้านเมืองขาวสะอาด ลดปัญหาทุจริตคอรัปชั่นและความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชนได้ผลสำเร็จอย่างยั่งยืน หากทำได้จริง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo