Digital Economy

ทำความรู้จัก เครื่องตรวจคัดกรอง ‘โควิด’ จาก ‘ลมหายใจ’ ต่อยอดเทคโนโลยี สู่นวัตกรรมใหม่

ทำความรู้จัก เครื่องตรวจคัดกรอง ‘โควิด’ จาก ‘ลมหายใจ’ ต่อยอดเทคโนโลยี เครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือด สู่นวัตกรรมใหม่

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้เผยแพร่ข้อมูล นวัตกรรมคัดกรองโควิด -19 จากลมหายใจ ซึ่งเป็นผลงานของนักวิจัยไทย ใช้จมูกอิเล็กทรอนิกส์ผสาน กับแมชชีนเลิร์นนิ่งและเอไอ แยกแยะกลิ่นคนติดเชื้อได้ รู้ผลใน 5 นาที มีความแม่นยำประมาณ 97%

โควิด

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีการแรพ่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการกเชิงรุกในการควบคุมเชื้อโรค พื่อไม่ให้ทวีความรุนแรงในอนาคต สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จึงให้ทุนสนับสนุน “การพัฒนาระบบต้นแบบเครื่องตรวจคัดกรองผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แบบไม่เจ็บตัว โดยการวิเคราะห์โปรไฟล์จากลมหายใจ”

โควิด

นวัตกรรมใหม่ คัดกรองโควิดแบบไม่เจ็บตัว

นวัตกรรมอุปกรณ์ทางการแพทย์รูปแบบใหม่นี้ เป็นผลงานของ “นายพิศิษฐ์ มิตรเกื้อกูล และคณะ” ที่ร่วมกันพัฒนาพื่อเป็นทางเลือกในการคัดกรองผู้ป่วยที่ติดเชื้อโค วิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว

นายพิศิษฐ์  มิตรเกื้อกูล นายกสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ กล่าวว่า นวัตกรรมดังกล่าว เกิดขึ้นจากการบูรณาการความเชี่ยวชาญ ของทีมผู้พัฒนาที่มาจากหลายหน่วยงาน ซึ่งประกอบด้วย สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ โรงพยาบาลราชวิถี มหาวิทยาลัยมหิดล และภาคเอกชน

โดยระบบต้นแบบเครื่องตรวจคัดกรองผู้ป่วยติดเชื้อโค วิด-19 โดยใช้ลมหายใจนี้ ถือเป็นนวัตกรรมรูปแบบใหม่ ในการตรวจคัดกรองผู้ป่วยฯ ที่ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องแยงจมูก ไม่ต้องเจาะเลือด ไม่ต้องใช้น้ำลาย และลดการสัมผัสอีกด้วย

เป็นวิธีที่มีความไว(Sensitivity) และความจำเพาะ (specificity) สูง สามารถรู้ผลตรวจได้ภายใน 5 นาที ทำให้สามารถทำการคัดแยกผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อให้ออกมาได้อย่างรวดเร็ว  สามารถเข้าสู่กระบวนการรักษาได้ทันท่วงที และลดโอกาสในการระบาดของเชื้อโควิด-19 ในวงกว้างได้  โดยมีค่าใช้จ่ายในการตรวจไม่เกิน 50 บาท/คน

โควิด

จำแนกกลิ่น ผู้ติดเชื้อ ด้วยจมูกอิเล็กทรอนิกส์

ด้าน ดร.เธียร์สิทธิ์ นาสัมพันธ์ นักวิจัยหลังปริญญาเอก จากภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล หนึ่งในคณะผู้พัฒนาฯ กล่าวว่า งานวิจัยนี้เป็นการสร้างเครื่องสำหรับวิเคราะห์ลมหายใจ เพื่อจำแนกกลิ่นที่แตกต่างกันของคนติดเชื้อกับคนไม่ติดเชื้อ

เป็นการต่อยอดองค์ความรู้เดิม ที่มีการพัฒนาเครื่องที่วิเคราะห์ลมหายใจในการวิเคราะห์โรคมาแล้ว โดยเครื่องแรกคือ เครื่องตรวจระดับน้ำตาลในกระแสเลือดโดยใช้ลมหายใจ  ซึ่งใช้งานกับโรคเบาหวานมาแล้วกว่า 10 ปี ทำให้มีฐานข้อมูลและองค์ความรู้  เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 ในช่วง2-3 ปีที่ผ่านมา จึงเกิดแนวคิดในการฟอร์มทีมที่จะนำองค์ความรู้ที่มีอยู่ ต่อยอดกับความเชี่ยวชาญของหน่วยงานต่างๆ ในการสร้างนวัตกรรมรูปแบบใหม่ขึ้น

ทีมวิจัยเริ่มเก็บข้อมูลและทดสอบเบื้องต้นตั้งแต่ปี 2563 เมื่อมีข้อมูลมากพอจนเกิดความมั่นใจ จึงเริ่มขออนุญาตทำการทดสอบในคนอย่างเป็นทางการ  และเก็บตัวอย่างมากขึ้นที่โรงพยาบาลราชวิถี ต่อมาได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก วช. ในปี 2564 ทำให้สามารถเก็บตัวอย่างได้จำนวนมากขึ้นและพัฒนาต้นแบบออกมาได้อย่างรวดเร็ว

ดร.เธียร์สิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับเทคโนโลยีที่ใช้ เป็นการนำเทคโนโลยีที่เรียกว่า จมูกอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ก๊าซเซ็นเซอร์ มาตรวจวัดสารระเหยอินทรีย์ หรือกลิ่นที่เป็นสารไบโอมาร์กเกอร์จากลมหายใจ ซึ่งทีมวิจัยมีฐานข้อมูลที่สามารถจดจำและจำแนกกลิ่นที่แตกต่าง ระหว่างคนที่ติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อได้

นอกจากนี้ยังมีการนำระบบ แมชชีนเลิร์นนิ่ง และ ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เข้ามาใช้ในการประมวลผล ทำให้สามารถวิเคราะห์และตรวจคัดกรองได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ปัจจุบันมีความแม่นยำประมาณ 97% จากฐานข้อมูลของทีมวิจัยที่มีอยู่ประมาณ 3 พันตัวอย่าง

โควิด

ผลิตเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ในสิ้นปีนี้

อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยได้มีการเก็บตัวอย่างการคัดกรองโค วิด-19 จากผู้เข้าชมงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565  ซึ่งเป็นการนำต้นแบบนวัตกรรม ออกมาทดสอบใช้งานกับกิจกรรมภายนอกโรงพยาบาลเป็นครั้งแรก และจะมีการนำเอาข้อมูลกลับไปปรับปรุงนวัตกรรมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

นวัตกรรมนี้ ได้ขอจดสิทธิบัตรแล้ว 12 ประเทศใน 6 ทวีป และอยู่ระหว่างการดำเนินการส่งตีพิมพ์ ในวารสารนานาชาติที่มีคุณภาพ รวมถึงมีแผนในการขอขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรม บัญชีสิ่งประดิษฐ์ และการทำมาตรฐานต่างๆ ให้เป็นที่ยอมรับ คาดว่า จะสามารถผลิตจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ภายในสิ้นปีนี้ และอนาคตจะสามารถประยุกต์ใช้กับการตรวจคัดกรองโรคอื่นๆ ที่ใช้ลมหายใจเป็นตัวบ่งชี้หรือบ่งบอกสภาวะผิดปกติได้

ข้อมูลโดย : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo