Digital Economy

10 เรื่องน่ารู้ ของดาต้าเซนเตอร์แห่งใหม่ของเฟซบุ๊กที่สิงคโปร์

Facebook Singapore Data Center 1.original
ดาต้าเซนเตอร์แห่งใหม่ของเฟซบุ๊กที่จะเปิดตัวในสิงคโปร์ในอีก 4 ปีข้างหน้า (ภาพจากเฟซบุ๊ก)

“ดาต้าเซนเตอร์” ชื่อนี้ย่อมหมายถึงการลงทุนมหาศาล แต่อาจไม่ใช่สำหรับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่าง “เฟซบุ๊ก” ที่ออกมาประกาศควักเงินอีกก้อนเพื่อลงทุนสร้างดาต้าเซนเตอร์แห่งใหม่ล่าสุดแล้วที่ประเทศสิงคโปร์ โดยความน่าสนใจของดาต้าเซนเตอร์แห่งนี้จะมีอะไรบ้าง เราขอชวนไปติดตามกันเลย

  • ข้อมูลเบื้องต้นที่ทางบริษัทเปิดเผยออกมานั้นก็คือ มูลค่าของการลงทุนครั้งนี้อยู่ที่ 1.4 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการลงทุนที่คาดว่าจะทำให้บริการของเฟซบุ๊กในภูมิภาคนี้รวดเร็ว และเสถียรมากขึ้น
  • ความเสถียรที่กล่าวไปในข้างต้นนั้นคาดว่าจะส่งผลต่อเม็ดเงินที่จะไหลเข้าแพลตฟอร์มด้วย โดยปัจจุบันภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กต่อเดือนอยู่ที่ 894 ล้านคน หรือคิดเป็น 40% ของผู้ใช้งานทั้งหมด โดยถือเป็นภูมิภาคที่มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กมากที่สุดในโลก ทว่า เมื่อเทียบกับรายได้ที่แพลตฟอร์มได้รับนั้น กลับมีอยู่เพียง 2.3 พันล้านดอลลาร์ (รายได้ไตรมาสล่าสุด) หรือคิดเป็น 18% ของรายได้ทั้งหมดเท่านั้น จึงคาดการณ์ว่า หากสามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพก็จะช่วยเพิ่มรายได้ในจุดนี้ของบริษัทให้สูงขึ้นได้
  • สำหรับพื้นที่ของดาต้าเซนเตอร์นั้นมีทั้งสิ้น 170,000 ตารางเมตร โดยจะตั้งอยู่ในย่าน Tanjong Kling ซึ่งเป็นย่านที่รัฐบาลสิงคโปร์ตั้งใจจะให้เป็นศูนย์รวมของดาต้าเซนเตอร์
  • ตึกที่จะกลายเป็นที่ตั้งของดาต้าเซนเตอร์ของเฟซบุ๊กนี้ จะใช้พลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Renewable Energy) 100%
  • ความไฮเทคอีกข้อหนึ่งของตึกดังกล่าวก็คือการนำระบบหล่อเย็นใหม่ล่าสุดอย่าง StatePoint Liquid Cooling มาใช้ด้วย ซึ่งเฟซบุ๊กอ้างว่าช่วยลดการใช้น้ำและพลังงานลงได้อย่างมาก แม้จะเป็นประเทศในย่านเส้นศูนย์สูตรอย่างสิงคโปร์ก็ตาม
  • การตั้งดาต้าเซนเตอร์แห่งนี้จะทำให้เกิดการจ้างงานหลายร้อยตำแหน่ง
  • สำหรับปีที่คาดว่าเฟสแรกจะแล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการก็คือ ปี 2565 (ค.ศ.2022)
  • ความต้องการใช้ไฟฟ้าในระดับที่สูงสุดของตึกแห่งนี้คือ 150 เมกะวัตต์ แต่ในระยะเริ่มต้นจะใช้ไฟอยู่ที่ 30 เมกะวัตต์
  • ปัจจุบัน เฟซบุ๊กมีดาต้าเซนเตอร์ 15 แห่งทั่วโลก กระจายอยู่ในประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา สวีเดน ไอร์แลนด์
  • สำหรับสาเหตุที่เลือกสิงคโปร์ เนื่องจากเฟซบุ๊กระบุว่าสิงคโปร์เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค มีบุคลากรเก่ง ๆ มากมาย และมีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ไว้ใจได้

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight