Digital Economy

เปิดเส้นทางทำเงิน WhatsApp

WhatsApp_Logo

เข้ามาอยู่ใต้ปีกเฟซบุ๊กมาก็นาน ล่าสุด ดูเหมือนว่า เฟซบุ๊กจะหาช่องทางทำเงินเจ๋ง ๆ ให้กับวอทส์แอป (WhatsApp) ได้แล้วกับการเปิดตัว WhatsApp Business API ที่ช่วยดึงผู้ใช้งานเข้ามาสื่อสาร – จับจ่ายใช้สอยกับแบรนด์ได้โดยตรงบน WhatsApp

โดยบล็อกของ WhatsApp ระบุว่า Business API สามารถช่วยให้แบรนด์ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นผ่านทางช่องทางดังกล่าว เช่น การจัดส่งบอร์ดดิ้งพาส การจัดส่งสินค้า นอกจากนั้นยังสามารถใช้เป็นช่องทางการให้ความช่วยเหลือลูกค้าในสถานการณ์คับขันได้

ทั้งนี้ จุดที่น่าสนใจของ WhatsApp Business API มีสองข้อ หนึ่งคือข้อความการพูดคุยระหว่างแบรนด์กับลูกค้านั้นจะได้รับการเข้ารหัสทั้งหมด ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการสื่อสารระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้ว่า ข้อมูลจะเป็นความลับ

ส่วนข้อสองนั้นก็คือ แบรนด์สามารถใช้ WhatsApp Business API ได้ฟรี โดยมีเงื่อนไขแค่ข้อเดียว นั่นคือต้องตอบลูกค้าภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าตอบไม่ทัน จะมีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

โดยจากการเปิดเผยของเฟซบุ๊กระบุว่า ปัจจุบันมีแบรนด์ยักษ์ใหญ่มากกว่า 90 รายที่ใช้ WhatsApp Business API แล้ว ไม่ว่าจะเป็น อูเบอร์, สิงคโปร์แอร์ไลน์, บุ๊กกิ้ง และเซลล์สต็อก บิรษัทด้านอีคอมเมิร์ซของอินโดนีเซีย

เฟซบุ๊กที่ตัดสินใจซื้อกิจการของ WhatsApp มาตั้งแต่ปี 2557 ในราคา 19,000 ล้านดอลลาร์ (และในตอนนั้นโดนคำครหาว่าจ่ายแพงเกินไป) มาถึงวันนี้ กิจการของ WhatsApp เติบโตและกลายเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากเป็นอันดับสองของบริษัท รองจากตัวเฟซบุ๊กเอง และแซงหน้าบริการอย่างแมสเซนเจอร์ และอินสตาแกรมไปแล้วเรียบร้อย

การดึงแบรนด์เข้ามาใน WhatsApp ที่กำลังเริ่มขึ้นนี้ จะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับ WhatsApp ให้มากขึ้นไปอีก โดยปัจจุบัน WhatsApp มีผู้ใช้งานมากกว่า 1.5 พันล้านคน และมีการส่งข้อความกว่า 60,000 ล้านครั้งต่อวัน อย่างไรก็ดี รายงานจาก Investopedia ระบุว่า ผู้ใช้งาน WhatsApp ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 1 ล้านราย ส่วนใหญ่มาจากประเทศในแถบละตินอเมริกา อินเดีย และยุโรป

นอกจากนี้ ฟอร์บส์ยังได้ประเมินตัวเลขรายได้ของ WhatsApp ว่าจะเพิ่มขึ้น โดยคิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้งาน 1 คนที่ 4 ดอลลาร์ ภายในปี 2563 ด้วย อุปสรรคที่สามารถสะกัดการเติบโตของ WhatsApp ได้ในขณะนี้จึงอาจมีเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือการเข้ารหัสข้อมูล ที่อาจทำให้รัฐบาลจากประเทศต่าง ๆ แบนการใช้งาน เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายจะใช้ WhatsApp ในการติดต่อสื่อสารระหว่างกันนั่นเอง

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight