CSR

‘จีซี’ จับมือ ‘ททท.’ สานต่อโครงการ ‘Shade of Blue Ocean’ อนุรักษ์ทะเลไทย

สานต่อความสำเร็จอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ททท. จับมือ GC และมูลนิธิ ECOALF จัดงาน “Shade of Blue Ocean ร่วมแรงร่วมใจทะเลไทยสวยงาม” ภายใต้โครงการ “Upcycling the Oceans, Thailand” ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ปลุกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ท้องทะเลไทย

S 55091250

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานปล่อยตัวจิตอาส กิจกรรมดำน้ำเก็บขยะใต้ท้องทะเล และบริเวณชายหาด ในงาน “Shade of Blue Ocean ร่วมแรงร่วมใจทะเลไทยสวยงาม” ภายใต้โครงการ “Upcycling the Oceans, Thailand” โดยมี ดร.ชญาน์ จันทวสุ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความยั่งยืนและภาพลักษณ์องค์กร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC) และนายฮาเวียร์ โกเยนิเช่ ประธานและผู้ก่อตั้งมูลนิธิอีโคอัลฟ์ ประเทศสเปน ร่วมพิธี พร้อมด้วยดารานักแสดง จ๊อบ – นิธิ สมุทรโคจร, ตั๊ก – บริบูรณ์ จันทร์เรือง และครอบครัว, นิว – ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต ร่วมเก็บขยะและรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม ณ สวนเฉลิมพระเกียรติฯ หน้าสถานีรายงานบ้านเพ หาดเภตรา จังหวัดระยอง

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทยถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนทั่วโลกมาโดยตลอด เห็นได้จากการจัดอันดับของ Trip Advisor ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมักจะได้รับการโหวตให้เป็น Travelers’ Choice ติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลยอดนิยมที่สุดในโลกมาโดยตลอด เช่น จังหวัดระยอง ชลบุรี ที่อยู่ทางฝั่งอ่าวไทย และภูเก็ต กระบี่ ซึ่งอยู่ทางฝั่งทะเลอันดามัน เป็นต้น

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไทยดำเนินการทุกวิถีทาง ร่วมกันทุกภาคส่วนในการจัดการปัญหาขยะทางทะเล ซึ่งก็ดำเนินการได้เป็นอย่างดี โดยข้อมูลจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ปี 2562 พบว่าไทยอยู่ในลำดับประเทศที่ทิ้งขยะลงในทะเลมากเป็นลำดับที่ 10 ซึ่งเป็นลำดับที่ดีขึ้นจากอดีต โดยปริมาณขยะประมาณ 80% นั้นมาจากบนบก ส่วนใหญ่เป็นถุงพลาสติก ขวดน้ำ และเศษอาหาร

ข้อมูลจากการสำรวจของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ยังพบว่า 10% ของขยะที่ตกค้าง มาจากการจัดการที่ไม่ถูกวิธี บนชายฝั่งไหลลงสู่ทะเล ปีละประมาณ 50,000 – 60,000 ตันต่อปี นำไปสู่ผลกระทบต่อความสมดุล ของระบบนิเวศทางทะเลเป็นอย่างมาก

S 28352589

ททท. ในฐานะองค์กรหลักที่ดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ และมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมาโดยตลอด จึงได้ร่วมกับ บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) และมูลนิธิอีโคอัลฟ์ ของสเปน ดำเนินโครงการ Upcycling the Oceans, Thailand มาตั้งแต่ปี 2560 ด้วยความตระหนักในความสำคัญของการจัดการแก้ปัญหาขยะในท้องทะเลไทย และสร้างจิตสำนึกแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงนักท่องเที่ยว ในการเข้ามามีส่วนร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทำให้ทะเลไทยใสสะอาด พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนตราบนานเท่านาน

โครงการฯ ยังมีการต่อยอดนำความรู้ ด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ขยะที่หลายคนอาจไม่เคยเห็นคุณค่าให้กลับมาเป็นสินค้าแฟชั่นที่มีการออกแบบอย่างร่วมสมัย ถือได้ว่าเป็นการยกระดับจาก Recycling เป็น Upcycling โดยโครงการฯ ได้เริ่มดำเนินการเมื่อเดือนกันยายน 2560 ในพื้นที่นำร่องที่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง สามารถรวบรวมขยะทั้งหมดจำนวน 618.90 กิโลกรัม แบ่งเป็นขยะจากชายหาดและบนบก 445.30 กิโลกรัม และขยะจากใต้น้ำ 173.60 กิโลกรัม

ปี 2561 ดำเนินการในพื้นที่หาดป่าตอง หาดในหาน และหาดในยาง จังหวัดภูเก็ต สามารถรวบรวมขยะทั้งหมดจำนวน 852.60 กิโลกรัม แบ่งเป็นขยะจากชายหาดและบนบก 672.10 กิโลกรัม และขยะจากใต้น้ำ 180.50 กิโลกรัม จากกิจกรรม Upcycling the Oceans, Thailand ในวันนั้นถือเป็นการจุดประกาย และร่วมมือแก้ไขปัญหาด้านขยะทะเล

ทั้งนี้ จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ และยังเป็นพื้นที่ที่มีความเข้มแข็งมีศักยภาพในการดำเนินกิจกรรมที่หลายภาคส่วนในพื้นที่ให้การสนับสนุนจิตอาสาร่วมกัน จัดกิจกรรมเก็บขยะบริเวณชายหาด รวมถึงท่าเรือ และการปล่อยตัวจิตอาสานักดำน้ำร่วมกัน เก็บขยะใต้น้ำ รวมแล้วมีจิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 500 คน นับเป็นความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจกันเป็นอย่างดี

นายยุทธศักดิ์  ยังแสดงความหวังว่า โครงการ Upcycling the Oceans, Thailand นี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ทุกภาคส่วนเกิดความตระหนัก และเข้ามา มีส่วนร่วมในการจัดการขยะในแหล่งท่องเที่ยว รักษาทรัพยากรธรรมชาติของท้องทะเลอย่างยั่งยืน แม้ว่าเราจะมีเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้นทุกปี แต่ผมเชื่อว่าถ้าเราสร้างนักท่องเที่ยวที่มีใจอนุรักษ์ได้แล้ว แม้ว่านักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น แต่ปริมาณขยะในแหล่งท่องเที่ยวจะต้องลดลงอย่างแน่นอน”

924523

ทางด้านดร. ชญาน์ จันทวสุ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความยั่งยืนและภาพลักษณ์องค์กร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การจัดงาน Shade of Blue Ocean ในครั้งนี้นับเป็นความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งของการสานต่อโครงการ Upcycling the Oceans, Thailand โดยความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย GC และ มูลนิธิอีโคอัลฟ์ เพื่อการจัดการปัญหาขยะในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทย

ปีนี้นับเป็นปีที่ 3 ที่ยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินการ เพื่อการจัดการขยะในทะเลและการอนุรักษ์ท้องทะเลไทยอย่างยั่งยืน พร้อมนำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาปรับใช้ในการดำเนินโครงการ โดยคำนึงถึงการนำทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด มาใช้อย่างคุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด การเก็บรวบรวมขยะเพื่อนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ด้วยความร่วมมือของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

ตลอดระยะเวลา 3 ปี โครงการสามารถรวบรวมปริมาณขยะพลาสติกที่เก็บได้จากบริเวณชายหาดและในทะเลระยองจำนวน 20 ตัน และนำมาผ่านกระบวนการอัพไซเคิล ด้วยนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อคืนชีวิตใหม่ ให้ขยะพลาสติกเป็นผลิตภัณฑ์แฟชั่นมากมาย อาทิ เสื้อผ้า กระเป๋า ที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขยะ ซึ่งนับเป็นการช่วยลดปริมาณขยะ และสร้างความยั่งยืนให้กับโลก  ซึ่งในอนาคต จะยังมุ่งมั่นในการดำเนินโครงการ Upcycling the Oceans,Thailand ต่อไป โดยจะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าให้มีคุณภาพมากขึ้น พร้อมทั้งนำโครงการฯ เป็นโมเดลเพื่อต่อยอดสู่โครงการอื่น ๆ ที่ เกี่ยวข้องกับการจัดการขยะต่อไป

ในงาน Shade of Blue Ocean นี้ ผู้ร่วมโครงการจะได้เรียนรู้และมีส่วนร่วมตั้งแต่การเก็บขยะ การคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างไลฟ์สไตล์แบบ Circular Living เพื่อลดปัญหาขยะล้นโลก

S 83222536

“Shade of Blue Ocean” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 21 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ปลูกจิตสำนึกให้นักท่องเที่ยวใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวในจังหวัดระยอง

นอกจากนี้ยังมอบถังขยะให้กับอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า, เทศบาลตำบลบ้านเพ และชุมชนต่างๆ ในจังหวัดระยอง ซึ่งภายในงานได้นำเอาวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และวัสดุเหลือใช้ที่กลายเป็นขยะมาดัดแปลงเพื่อตกแต่งสถานที่ มีการจัดนิทรรศการ DIY จากขยะ และกิจกรรมเสวนาในหัวข้อ “Shade of Blue Ocean – ร่วมแรงร่วมใจ ทะเลไทยสวยงาม” และหัวข้อ “Responsibility Rayong – รักษ์ระยองยั่งยืน”

Avatar photo