‘ซีพี-ซีพีเอฟ’ หนุนโครงการ ‘สานใจไทย สู่ใจใต้’ รุ่น 42 ส่งเสริมเยาวชนรุ่นใหม่ ตอบแทนคุณแผ่นดิน

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 25 เมษายน 2567

เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมกับ ซีพีเอฟ มอบผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพ สนับสนุนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 42 ร่วมสร้างโอกาสการเรียนรู้แก่เยาวชนจากพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ มุ่งพัฒนาทัศนคติแนวคิด เพื่อพัฒนาตนเอง และครอบครัว สู่การเป็น “คนดีของสังคม” พร้อมนำความรู้ไปต่อยอดสร้างโอกาสทางการศึกษาในอนาคต

โครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ รุ่นที่ 42 ได้รับเกียรติจาก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ในฐานะนายกมูลนิธิสานใจไทย สู่ใจใต้ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ พร้อมด้วย นายอารีย์ วงศ์อารยะ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิ โดยมี นายจอมกิตติ ศิริกุล ผู้บริหารสูงสุด สายงานด้านบริหารกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และผู้ช่วยบริหารสำนักประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เป็นผู้แทนบริษัท ร่วมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำศาสนา ครอบครัวอุปถัมภ์ เยาวชนผู้ร่วมโครงการ และครูพี่เลี้ยง เข้าร่วมกิจกรรมรวมกว่า 350 คน

พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ชื่อโครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ แสดงออกถึงความร่วมมือของทุกคนในประเทศ ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันช่วยเหลือดูแล ส่งเสริม ให้ความอนุเคราะห์แก่เยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีโอกาสได้รับสิ่งที่พวกเขาใฝ่ฝันไว้

นอกจากนี้ ขอฝากถึงเยาวชนให้จดจำดำริของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ผู้ริเริ่มโครงการนี้ ที่ว่า “ความเป็นไทย และความเป็นธรรม” โดย “ความเป็นไทย” หมายถึง ความรัก ความผูกพัน โอบอ้อมอารี โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องมีความเชื่อเหมือนกัน แต่เมื่อมารวมกันเป็นคนไทยแล้ว ก็จะมีสิ่งนั้นอยู่ในความรู้สึก อยู่ในความคิดของทุกคน และเมื่อมีความเป็นไทย มีความผูกพันกันแล้ว การให้ “ความเป็นธรรม” ก็เกิดขึ้นได้ไม่ยาก จากความยุติธรรม มีความเท่าเทียมกัน ภายใต้กรอบวัฒนธรรม และกฎหมายของสังคม

ทางด้านนายจอมกิตติ กล่าวว่า ซีพี และซีพีเอฟ โดยมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมโครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 20 สำหรับโครงการในรุ่น 42 นี้ บริษัทมอบผลิตภัณฑ์อาหาร ไข่ไก่สดซีพี และข้าวตราฉัตร ให้แก่เยาวชน และพี่เลี้ยง จำนวน 350 คน สำหรับนำไปประกอบอาหารบริโภคตลอดช่วงที่พักอาศัย กับครอบครัวอุปถัมภ์ ในระหว่างวันที่ 17 เมษายน-27 พฤษภาคมนี้

ตลอดระยะเวลาการจัดกิจกรรม เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้ร่วมกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ ประสบการณ์ทักษะอาชีพ และได้พำนักกับครอบครัวอุปถัมภ์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียง ได้พัฒนาทัศนคติแนวคิด สู่การพัฒนาตนเอง และครอบครัว เพื่อเป็นคนดีของสังคม พร้อมนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดสร้างโอกาสทางการศึกษาต่อไปในอนาคต

ทางด้าน อาวาตีฟ โชติจันทร์ ตัวแทนเยาวชน กล่าวถึงสาเหตุที่ตัดสินใจสมัครเข้าร่วมโครงการว่า ต้องการพัฒนาตนเอง และออกจากกรอบ ประกอบกับอยากลองทำสิ่งใหม่ๆ โดยหวังว่าจะได้นำประสบการณ์ที่ได้รับไปพัฒนาในด้านต่าง ๆ และโครงการนี้ถือเป็นโอกาสที่ดี และเป็นประสบการณ์ที่หาจากที่อื่นไม่ได้

กิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการจัดในนาม มูลนิธิสานใจไทย สู่ใจใต้ เป็นครั้งแรก โดยมูลนิธิมีเป้าหมาย สนับสนุนให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมเดียวกัน มีความเป็นธรรม ความเป็นไทยเท่าเทียมกัน