มหากาพย์ความรัก! บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์-แพรวพราว แสงทอง ปะทะเดือดกลางโซเชียล

24 กุมภาพันธ์ 2567

มหากาพย์ความรัก! บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์-แพรวพราว แสงทอง ปะทะเดือดกลางโซเชียล หลังฝ่ายชายโพสต์ปมมีบุคคลที่ 3 เข้ามาทำร้ายครอบครัว

เป็นทอล์กอ๊อฟเดอะทาวน์ในโลกออนไลน์ขณะนี้ กับเรื่องของ บิ๊ก-ธิติวุฒิ วารุณ หรือที่รู้จักกันในชื่อของ บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ซึ่งกำลังตกเป็นข่าว ว่ามีปัญหากับภรรยา แพรวพราว แสงทอง หมอลำสาว ที่อยู่กินกันมานานกว่า 5 ปี และมีลูกด้วยกัน 2 คน กับปมมือที่ 3 ทำครอบครัวพัง ก่อนมีการตอบโต้กันไปอย่างมาดุเดือด

มหากาพย์ความรัก! บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์-แพรวพราว แสงทอง

จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นจากฝ่ายชาย บิ๊ก ได้ออกมาโพสต์ แฉฝ่ายหญิงว่านอกใจ มีมือที่สามทำให้ครอบครัวต้องแตกแยก และตอนนี้ตัวเองกับภรรยาอยู่ในสถานะพ่อแม่ของลูกเท่านั้น “พูดถึงเรื่องความซื่อสัตย์ต่อคนที่ผมรัก ผมก็ถวายหัวให้มาโดยตลอดทุกวินาที เพราะผมรู้ว่าผมมาจากที่ไหนและ กำพืดผมเป็นใคร แต่สิ่งที่ข่อยได้รับตอบแทน คือความเจ็บปวด ถ้าไม่เป็นผมคงไม่มีวันเข้าใจ ผมไม่อยากเป็นแบบนี้ แต่เพราะผมรักเขามาก ผมก็เจ็บจากเขามาก และนี่เป็นรักแรกของผม เมียคนแรก

ผมพยายามสร้างครอบครัวให้สมบูรณ์แบบที่สุดในรูปแบบของผม ไม่ว่าจะทำอะไรก็นึกถึงหน้าลูก ๆ เสมอ จนตอนนี้มันเหมือนระเบิดที่นับเวลาถอยหลัง แต่บางทีคนเราอ่ะ ไม่ใช่ปูน ไม่ใช่เหล็ก ที่จะทนได้เสมอ ผมอาจจะไม่ดีพอสำหรับเขา ก็ยอมรับเพราะอายุน้อยและอาจจะไม่เฟอร์เฟคสำหรับเขา แต่ผมไม่เคยคิดนอกใจเขาเลยแม้แต่สักนิดเดียว ก็มีแต่ก้มหน้า ก้มตาทำมาหากิน สร้างเนื้อสร้างตัวเพื่อคนข้างหลัง มันผิดที่ผมยังอายุน้อย และผิดที่ผมไม่ดีเท่าที่เขาต้องการ

แล้ววันนี้สิ่งที่ผมได้รับการตอบแทนจากความซื่อสัตย์ คือ? และบักผู้ชายคนนั้นมันเป็นใคร มันดีแค่ไหน ปล่อยให้หยามน้ำใจผมถึงขนาดนี้ ทำไมไม่นึกถึงหัวอกผมบ้างและปล่อยให้มันลอยหน้า ลอยตาจนวินาทีนี้? ปล่อยให้มันเหยียบศักดิ์ศรีของความเป็นผัว และพ่อของลูกหรือแม้กระทั่งความเป็นผัวของหัวหน้าวง? บักผู้ชายมันก็ไม่มีอย่างอาย ไม่มีความเป็นลูกผู้ชายก็รู้ว่าเค้ามีผัวมีลูก ทำไมมึงถึงไม่ยอมถอย?

ถ้าผมไม่ดีตรงไหน? บกพร่องตรงไหนบอกสอนผมสิ..? ผมพร้อมที่จะแก้ไขทุกสิ่งเพื่อคนที่ผมรักที่สุด(เพื่อครอบครัว) ทำไมต้องทิ้งกันกลางทางแบบนี้? ลูก 2 แล้วนะ? มันใช่การแก้ปัญหาที่แท้จริงหรือเปล่า ที่คุณปล่อยให้คนที่ 3 เข้ามาทำร้ายครอบครัวของเรา

(คนนี้บอกเลยกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา ) สุดท้ายนี้แสงทองฟินแลนด์มันก็คือส่วนหนึ่งของตัวผม ทุกอย่างยังต้องเดินหน้า และพัฒนาต่อไป เพื่อคนข้างหลัง ปล. ผญบฟินแลนด์ (สถานะสถานะความเป็นพ่อแม่ก็ยังอยู่คงเหมือนเดิมตลอดไป)”

จากนั้น แพรวพราว ก็ไม่นิ่งเฉย ออกมาโพสต์โต้กลับ บอกว่า “เหยียบฉันให้จมดินไปเลย…ถ้ามันทำให้เทอมีความสุข ถ้าคิดว่ามันเป็นผลดีกับลูก เด็กตาดำๆที่กำลังเติบโต…ขอบคุณที่ยังมีบางคนมองเห็นเหตุผลและเชื่อมั่นในตัวผู้หญิงคนนี้ ฉันไม่ใช่คนดี 100% แต่กูกะบ่ได้ชั่วพอที่จะทำร้ายครอบครัว และเหยียบย่ำคนในครอบครัว หรือพูดเพื่อให้ตัวเองสูงขึ้น และเหยียบอีกคนให้ต่ำลง นี่หรอคำว่าลูกผู้ชาย…?

ต่อไปนี้อะไรจะเกิดให้มันเกิดแต่จงจำไว้นะว่าผู้หญิงมันจดจำทุกเหตุการณ์ มันอาจจะไม่เคยพูด แต่มันสะสมทุกอย่าง อย่าคิดว่าตัวเองทำถูกต้องทุกอย่างเสมอไป ฉันก็คน มีความรู้สึก เจ็บเป็น!!” พร้อมกับย้ำว่า “โพสต์เดียวและโพสต์สุดท้าย…ที่จะพูด (เพราะลูกคือหัวใจ)”

และในวันถัดมา บิ๊ก ก็ได้ออกมาไลฟ์ทางเฟซบุ๊ก ช่วงนึงได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า “อยู่ด้วยกันมา 5 ปีแล้ว ตนก็ไม่ได้ไปไหน และตนก็ตั้งใจว่าจะมาตั้งหลักปักฐานอยู่ที่นี่ และคุยกันหมดแล้ว ต่อจากนี้ก็คงทำหน้าที่เป็นพ่อเป็นแม่เหมือนเดิม เพราะลูกก็อยู่ที่นี่ และตนก็คงไม่ไปไหนเพราะผูกพันธ์กับที่นี่ ทั้งนี้ความรู้สึกที่เสียไปแล้วยังไงก็เอาคืนไม่ได้

ส่วนวงดนตรีแสงทองฟินแลนด์ตนก็ไม่ได้ทิ้งไปไหน ยังขึ้นเวทีเหมือนเดิม ยังบริหารงานเหมือนเดิมทุกอย่าง แค่เราต้องสู้ต่อไป ส่วนเอฟซีจะว่าอย่างไร ตำหินติเตียนอย่างไรก็ทนได้

แต่ที่มีปัญหาเพราะคนที่ 3 เข้ามาเหยียบย่ำศักดิ์ศรี เป็นลูกผู้ชายด้วยกันก็ควรมีจิตสำนักบ้าง คุณรู้อยู่ว่าอยู่ไปแล้วทำให้ครอบครัวเขามีปัญหาคุณต้องถอย แต่นี่ยังหน้าด้านอยู่ พร้อมกับยืนยันว่า ไม่ได้จะมาพูดใส่ร้ายใคร แต่มีหลักฐานทุกอย่าง เพราะคอยสังเกตุมา 2 เดือนแล้ว และวันหนึ่งที่จำเป็นต้องใช้ตนก็ต้องใช้ ย้ำว่าไม่พูดว่าใคร เพราะให้เกียรติแม่ของลูก ไม่พูดหมดทุกอย่าง ที่พูดอยู่นี้ไม่ได้อยากเลิกกับเมีย แต่พูดในส่วนของตัวเอง เพราะในวันหนึ่งไม่ช้าก็เร็วคนก็ต้องรู้

ขณะที่ แพรวพราว ก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านไลฟ์สด ยอมรับว่าเผลอใจคุยกับผู้ชายคนอื่น แต่ไม่ได้ชั่วถึงขนาดไม่ซื่อสัตย์กับลูกกับผัว เผยเหตุผลน้อยใจ บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ติดเที่ยว บาร์เกย์,ไปบาร์โฮสต์ ไม่มีเวลาให้ครอบครัว ซึ่งก็ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของ แพรวพราว ที่เก็บความรู้สึกน้อยใจ และพลาดไปคุยกับบุลคลที่ 3 คุยแล้วรู้สึกดี แต่ไม่เรื่องของเชิงชู้สาว ยังซื่อสัตย์กับลูกกับสามี

จากนั้นฝ่ายชายก็ได้ออกมาไลฟ์อีกครั้ง ระบุว่า ขอยุติบทบาทผู้บริหารแสงทองฟินแลนด์ ขอถอยออกมาเอง ถ้าอยู่แล้วมันอึดอัดไม่อยากให้ทุกคนลำบาก ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงต่อไป แต่ก็ยังดูแลโตเกียวมิวสิคเหมือนเดิม ศิลปิน ผลงานยังพบกันได้เหมือนเดิม งานไหนที่ผมรับแล้วก็จะไปทุกงาน แต่ถ้างานไหนที่ผมไม่ได้รับผมก็ไม่ไป ถ้าเค้าออกมาไลฟ์อีกผมก็จะไม่ไลฟ์แล้ว ให้มันจบไป

และยังระบุอีกว่าที่ดินที่ซื้อไว้ อะไรที่เป็นชื่อตนเองจะมอบให้ลูก โดยเจ้าตัวได้ปาดน้ำตากลางไลฟ์บอกชีวิตต้องไปต่อ เจ็บนานไม่ได้ เพราะมีภาระ และค่าใช้จ่าย ในความเป็นพ่อแม่ก็ยังเป็นเหมือนเดิม ดูแลลูกเหมือนเดิมเต็มร้อย โปรดเข้าใจและขอโทษทีมงานทุกคนด้วย

จากนั้นในช่วงดึกของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 แพรวพราว ก็ได้เดินทางไปแสดงคอนเสิร์ตตามปกติ ก่อนที่จะพรั่งพรูความรู้สึกบนเวทีอีกว่า “ถ้ามีแฟนคลับบางคนที่อาจจะไม่รักหนูแล้ว แต่อยากให้ทุกคนยังรักองค์กร รักทีมงานทุกคน อยากให้ทีมงานทุกคนมีกินมีใช้ จุดประสงค์ที่ต่อสู้ คือ หนูทำวงแพรวพราวแสงทองมา ไม่อยากให้มันพังเพราะตัวหนู

ขอโทษทีมงานทุกคน ขอโทษเอฟซีทุกคน แต่ไม่มีใครดี 100% เชื่อว่าทุกคนล้วนมีความผิดพลาดกันทั้งนั้น รวมถึงตัวหนู แค่ว่าหนูเป็นคนมีชื่อเสียง เป็นนักร้อง เวลาที่ผิดพลาดมันก็เลยมีดราม่า มีคนเหยียบย่ำซ้ำเติมเยอะ ตรงนี้หนูก็ยอมรับในส่วนที่ผิดพลาด

แต่ทีนี้เราจะแก้ไขยังไงแค่นั้น หนูอยากอยู่ตรงนี้ หนูต้องเข้มแข็ง เพื่อที่จะประคับประคองคำว่าวง ทีมงานเกือบร้อยชีวิตที่ต้องพึ่งพาตัวหนู หนูต้องพาวงก้าวต่อไป หนูต้องออกมาปกป้องด้วยตัวของหนูเอง ขอขอบคุณที่ไม่ยกเลิกงานหนู ขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาส”

และในเวลาต่อมา น้ำตาล น้องสาว ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ โพสต์ประกาศขอลาออกจากวง ขอโทษเอฟซีที่ทำให้ผิดหวัง พร้อมทิ้งท้ายว่า “หนูมาด้วยกัน ก็กลับด้วยกันค่ะ”

ส่วนในประเด็นบุคคลที่ บิ๊ก ได้กล่าวถึงนั้น คือ มือมิกซ์ ของวงแสงทองฟินแลนด์ ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวพร้อมประกาศชัด ๆ ว่า “ผมขอให้กลับมาเป็นครอบครัวเหมือนเดิมนะครับ ขอบคุณระยะเวลา 4 เดือนกว่า ๆ รวม ๆ 100+ งาน (รับเชิญ มินิ เต็มวง) ขอบคุณบอสทั้งสองท่าน ที่เมตตาให้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวง

ขอบคุณการซัปพอร์ต ดูแลเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ค่าแรง การเดินทาง ที่พัก อาหารการกิน แม้กระทั่งความรู้สึกดีๆ และการให้กำลังใจกับลูกน้องทุกคน ผมเต็มที่กับการทำงานที่สุดแล้ว การกระทำใด ๆ ที่ล่วงเกิน หรือไม่เหมาะสม กราบขอโทษบอสทั้งสองท่าน และเพื่อนร่วมงานทุก ๆ คนครับ สุดท้ายนี้ผมไม่ได้เจตนาที่จะทำลายครอบครัวใคร เพราะผมรู้สถานะตัวเองอยู่แล้ว ว่าเป็นแค่ลูกจ้าง”

ก่อนในช่วงกลางดึกของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 แพรวพราว จะออกมาโพสต์ภาพบรรยากาศดี ๆ ที่แฟนคลับต่างรอคอยได้เจอกับ บิ๊ก พร้อมระบุแคปชั่นเอาไว้ว่า “ตอนนี้ต่างคนต่างใจเย็นลงมากแล้ว คุยกันแล้ว ตอนนี้เราเป็นแม่และพ่อให้ลูก และยังอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวได้เหมือนเดิม

แต่ทุกอย่างมันต้องใช้เวลาปรับจูนเข้าหากัน ขอเวลาให้เราได้ทบทวนอะไรหลาย ๆ อย่างนะคะ ขอบคุณทุกคนที่คอยเป็นห่วง กำลังใจที่ดี แม่ไปทำหน้าที่ก่อนนะคะ คืนนี้ที่ บ.โนนรังษี ต.ห้วยเกิ่ง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี นะคะ”

จากนั้น บิ๊ก ก็ได้ออกมายืนยันสถานะด้วยตัวเองว่า ” สถานะตอนนี้ เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน (คุยกันแล้ว) และยังคงเป็นพ่อแม่ให้ลูก และ แบ่งเวลาดูแลลูกทั้ง2 ให้ดีที่สุด ตัวผมก็จะอยู่ทั้ง อุดรธานี และเทียวไปมาระหว่าง อุดร-ยโสธร นะครับ เดินหน้าต่อไปครับ (Move on) ”