Economics

‘คมนาคม’ เคลียร์ ‘จราจรทางอากาศ-หลุมจอด131 หลุม’ รับประชุมผู้นำเอเปค

“คมนาคม” สั่งเคลียร์การจราจรทางอากาศ เตรียมพร้อมหลุมจอดเครื่องบิน 131 หลุม อำวยความสะดวก รับการประชุมผู้นำเอเปค 

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมการให้บริการผู้โดยสารขาเข้า และขาออก และการเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวก ในโอกาสที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย แปซิฟิค (เอเปค) โดยพบว่า ทุกขั้นตอนดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถบริหารจัดการได้ดี ไม่มีปัญหาใด ๆ

นอกจากนี้ ยังได้ตั้งคณะทำงาน เพื่อเตรียมความพร้อม และอำนวยความสะดวกด้านคมนาคมขนส่งให้แก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค โดยสนามบินสุวรรณภูมิ ได้เพิ่มช่องตรวจอนุญาต 19 ช่องตรวจ เพื่อรองรับผู้เข้าร่วมประชุม แบ่งเป็น โซนตะวันออก 8 ช่องตรวจ (AE1-8) โซนกลาง 4 ช่องตรวจ (AM17-20) และโซนตะวันตก 7 ช่องตรวจ (AW1-7)

เอเปค

ทั้งยังได้เพิ่มหลุมจอดอากาศยานขนาดกลาง และขนาดใหญ่ เพื่อรองรับอากาศยานของคณะประมุข และผู้นำประเทศที่เข้าร่วมประชุม 120 หลุมจอด ยืนยันว่า สนามบินสุวรรณภูมิ สามารถบริหารจัดการได้ โดยไม่กระทบต่อการให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์อื่น ๆ และผู้โดยสาร

ในส่วนสนามบินดอนเมือง ได้เตรียมพร้อมหลุมจอดอากาศยานไว้ 101 หลุมจอด รวมทั้งจัดมาตรการรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานความมั่นคง ทั้งในกรณีปกติ และฉุกเฉิน

นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน สนามบินสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสารขาเข้า-ขาออกเพิ่มขึ้น เฉลี่ย 1-1.2 แสนคนต่อวัน แบ่งเป็น ระหว่างประเทศ 8.7 หมื่นคน และในประเทศ 3 หมื่นคน ซึ่งสุวรรณภูมิยังมีขีดความสามารถในการรองรับได้อีกมาก โดยช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เมื่อปี 2562 ผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 2 แสนคนต่อวัน

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปี 2566 จำนวนผู้โดยสารจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หรือมากกว่าเดิม โดยได้เร่งรัดให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. เปิดการใช้งานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT 1) ในช่วงกลางปีหน้า ซึ่งจะรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 15 ล้านคนต่อปี

แต่การที่ SAT 1 เป็นอาคารสำหรับให้เครื่องบินมาเทียบจอด ซึ่งผู้โดยสารที่เดินทางมากับเครื่องบิน ต้องนั่งรถไฟฟ้าไร้คนขับ (APM) เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่อาคารผู้โดยสารหลัก จึงได้มอบหมายให้ ทอท. พิจารณาว่า จะสามารถจัดทำ ตม. ชั่วคราวได้ในพื้นที่ใดบ้าง ในระหว่างที่รอการเพิ่มช่อง ตม. ในอาคารผู้โดยสารหลัก

เอเปค

นายศักดิ์สยาม ระบุว่า สนามบินสุวรรณภูมิมีช่อง ตม.119 ช่องตรวจ สามารถระบายผู้โดยสารได้ 7,140 คนต่อชั่วโมง แบ่งเป็น โซนตะวันออก 56 ช่องตรวจ สามารถระบายผู้โดยสารได้ 3,360 คน/ชม. โซนกลาง 20 ช่องตรวจ 1,200 คน/ชม. โซนตะวันตก 43 ช่องตรวจ 2,580 คน/ชม.

นอกจากนี้ มีเครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ 32 เครื่อง แบ่งเป็น ขาเข้า 16 เครื่อง และขาออก 16 เครื่อง แต่ในปัจจุบัน ทั้งช่วงเช้า บ่าย และเย็น จะมีสายการบินลงจอดที่สุวรรณภูมิพร้อมกันจำนวนมาก จึงทำให้เกิดความหนาแน่นในขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง จึงได้มอบหมายให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) บริหารจัดการตารางบิน (สลอต) ให้สอดคล้องกับความสามารถในการให้บริการส่วนงานต่าง ๆ ของสนามบินด้วย

ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ยังยอมรับว่า ขณะนี้อัตรากำลังไม่เพียงพอ ได้ทำเรื่องไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อแจ้งถึงความจำเป็นที่ต้องขออัตรากำลังเพิ่มแล้ว

ส่วนปัญหาเครื่องตรวจคนเข้าเมืองอัตโนมัติไม่อ่านพาสปอร์ตรุ่นใหม่ของคนไทยนั้น ทางกระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า ได้แก้ไขด้วยการเชื่อมข้อมูลเรียบร้อยแล้ว แต่เบื้องต้นมอบให้จัดเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องดังกล่าวบางจุดไว้ด้วย เพราะหากเกิดปัญหา ทางเจ้าหน้าที่จะได้เข้าช่วยแก้ไขปัญหาทันที

สำหรับเรื่องอุปกรณ์เครื่องตรวจอัตโนมัติที่ไม่เพียงพอ และมีการใช้งานมากว่า 10 ปีแล้วนั้น ได้แจ้ง สตม. ให้ประสาน ทอท. เพื่อ ทอท. จะสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการ และจัดซื้อจัดจ้างต่อไป

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ได้เร่งรัดให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาความแออัดในทุกเรื่องตามที่มอบหมายไป โดยจะต้องแล้วเสร็จภายใน 15 วันหลังจากนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง และสร้างความประทับใจให้แก่ผู้โดยสาร

เอเปค

อย่างไรก็ตาม ได้มอบให้ ทอท. และกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ซึ่งดูแลท่าอากาศยานในภูมิภาค เตรียมพร้อมรับผู้โดยสารที่จะเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศด้วย ซึ่งขณะนี้ทุกท่าอากาศยานมีความพร้อมแล้ว พร้อมกันนี้ มอบให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ดูการบริการรถโดยสารสาธารณะให้เพียงพอกับปริมาณผู้โดยสาร รวมถึงตรวจเข้มเรื่องราคาค่าโดยสารด้วย

ขณะนี้ได้แต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อติดตามความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทย รวมถึงควบคุม และแก้ปัญหาต่าง ๆ โดยจะต้องรายงานให้กระทรวงคมนาคมรับทราบทุกวัน และได้สั่งให้ กพท. และ ทอท. จัดทำคลิปสั้น 3 นาทีเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติในการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย และประสานให้สายการบิน นำคลิปดังกล่าวฉายบนเครื่องบินก่อนลงจอดที่สนามบิน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo