“กระทรวงพาณิชย์” รายงานตัวเลขส่งออกเดือนเมษายนมีมูลค่า 23,521.4 ล้านดอลลาร์ โต 9.9% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 ขณะที่ 4 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัว 13.7%
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย ว่า การส่งออกของไทยในเดือนเมษายน 2565 มีมูลค่า 23,521.4 ล้านดอลลาร์ (782,146 ล้านบาท) ขยายตัวร้อยละ 9.9 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัว 6.9% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 ท่ามกลางปัจจัยกดดันจากการสู้รบในยูเครนและมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียที่ส่งผลต่อการชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานการผลิต รวมถึงผลักดันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ นอกจากนี้ ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจากมาตรการล็อกดาวน์ในหลายเมือง ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลก
อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตโลก (Global Manufacturing PMI) ที่อยู่เหนือระดับ 50 โดยเฉพาะสหรัฐ ยุโรป อินเดีย เกาหลีใต้ และอาเซียน รวมทั้งมีความต้องการสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น จึงทำให้การส่งออกไทยยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร
ทั้งนี้ การส่งออกไทย 4 เดือนแรกของปี 2565 ขยายตัว 13.7% เมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัว 8.2% ชี้ให้เห็นว่า การส่งออกยังเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
สินค้าส่งออกที่ขยายตัวดี ได้แก่
- สินค้าที่มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นตามราคาพลังงานโลก เช่น น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ยางยานพาหนะ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
- สินค้าเกษตรและอาหารที่เป็นสินค้าจำเป็นในภาวะสงคราม และตลาดต่างประเทศต้องการสต็อกสินค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง น้ำตาลทราย ไก่แปรรูป อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลไม้กระป๋องและแปรรูป น้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วเหลือง สิ่งปรุงรสอาหาร เป็นต้น
- สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าคงทน ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงาน เช่น เตาอบไมโครเวฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องคอมเพรสเซอร์ของเครื่องทำความเย็น เป็นต้น และ
- สินค้าทางการแพทย์ อาทิ เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์ เป็นต้น
มูลค่าการค้ารวม
- มูลค่าการค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ
เดือนเมษายน 2565 การส่งออก มีมูลค่า 23,521.4 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 9.9% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 25,429.8 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 21.5% ดุลการค้าขาดดุล 1,908.4 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ภาพรวมการส่งออก 4 เดือนแรกของปี 2565 (มกราคม-เมษายน) การส่งออก มีมูลค่า 97,122.8 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 13.7% การนำเข้า มีมูลค่า 99,975.1 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 19.2% ดุลการค้า 4 เดือนแรก ขาดดุล 2,852.4 ล้านดอลลาร์
- มูลค่าการค้าในรูปเงินบาท
เดือนเมษายน 2565 การส่งออก มีมูลค่า 782,146 ล้านบาท ขยายตัว 19.3% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 856,253 ล้านบาท ขยายตัว 31.7% ดุลการค้า ขาดดุล 74,107 ล้านบาท ภาพรวมการส่งออก 4 เดือนแรกของปี 2565 (มกราคม-เมษายน) การส่งออกมีมูลค่า 3,183,591 ล้านบาท ขยายตัว 24.3% การนำเข้า มีมูลค่า 3,322,907 ล้านบาท ขยายตัว 30.3% ดุลการค้า 4 เดือนแรก ขาดดุล 139,316 ล้านบาท
แนวโน้มและแผนส่งเสริมการส่งออกระยะถัดไป
แนวโน้มการส่งออกไทย การส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากประเทศคู่ค้าต้องการรักษาความมั่นคงทางอาหาร สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีจากสินค้าขั้นกลาง เช่น เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ สินค้าที่เกี่ยวกับน้ำมัน (เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ น้ำมันสำเร็จรูป ก๊าซปิโตรเลียมเหลว ก๊าซธรรมชาติ) นอกจากนี้ สินค้าไลฟ์สไตล์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันจะได้รับอานิสงส์จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด
อย่างไรก็ตาม สินค้าส่งออกไทยอาจยังได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนวัตถุดิบพื้นฐานที่ใช้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์อยู่บ้างในช่วงครึ่งแรกของปี สำหรับตลาดส่งออก คาดว่าบางตลาดจะมีแนวโน้มขยายตัวได้ท่ามกลางสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน เช่น การส่งออกไปตลาดอาเซียนมีทิศทางดีขึ้น หลังเริ่มทยอยเปิดประเทศ และผ่อนคลายมาตรการควบคุมให้ดำเนินกิจกรรมเศรษฐกิจได้ปกติ
นอกจากนี้ การส่งออกไปยังตลาดตะวันออกกลางมีแนวโน้มดีต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภาคพลังงาน ซึ่งส่งผลดีต่อกำลังซื้อ ขณะเดียวกันการส่งออกไทยได้รับประโยชน์จากทิศทางเงินบาทอ่อนค่าที่เอื้อต่อการส่งออก อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศคู่ค้าหลัก ซึ่งอาจเป็นปัจจัยบั่นทอนการส่งออกในระยะถัดไป
แผนส่งเสริมการส่งออก
กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการเชิงรุก เพื่อผลักดันและอำนวยความสะดวกด้านการส่งออกของผู้ประกอบการไทย ได้แก่
- ปลดล็อกอุปสรรคการส่งออกสินค้าผลไม้ไปจีน ส่งเสริมให้เปลี่ยนไปขนส่งสินค้าทางเรือมากขึ้น เพื่อลดความแออัดของด่านพรมแดนทางบก ขณะเดียวกันกระทรวงฯ มอบหมายให้ทูตพาณิชย์เร่งเจรจากับทางการจีนให้อำนวยความสะดวกการขนส่งทางบกให้เป็นไปอย่างคล่องตัว
- ฟื้นฟูตลาดซาอุดีอาระเบีย นำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงาน SAUDI FOOD EXPO พร้อมสร้างการเจรจาจับคู่ธุรกิจ อีกทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทยร่วมกับซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำในซาอุดีอาระเบีย เช่น ข้าว อาหารฮาลาล ผลไม้
- ส่งเสริมการค้าที่มีกระบวนการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงบริบททางการค้าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยเฉพาะการค้ากับสหภาพยุโรป
- เร่งรัดการเจรจาจัดทำ FTA และ Mini-FTA เพื่อเพิ่มโอกาสและขีดความสามารถทางการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการไทย และกระชับความสัมพันธ์กับคู่ค้าทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ธุรกิจขนส่ง และ คลังสินค้าแช่แข็ง รายได้ทะลุ หมื่นล้าน อานิสงส์ ตัวเลขส่งออกโตต่อเนื่อง
- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือฯ คาดส่งออกไทยปีนี้โต 5% จับตา 6 ปัจจัยเสี่ยง!
- เฮ!! ส่งออกเดือนมี.ค.ขยายตัว 4.17% สูงสุดในรอบ 8 เดือน