สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือฯ ประเมินการส่งออกไตรมาส 2 ปีนี้ ขยายตัวได้ 3.5-5% ส่วนทั้งปีคาดโต 5% สั่งจับตา 6 ปัจจัยเสี่ยง พร้อมแนะภาครัฐพิจารณาการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธาน สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า สรท.คาดการณ์การส่งออกไทยในไตรมาสที่สองของปี 2565 เติบโต 3.5-5% โดยยังคงคาดการณ์รวมปี 2565 ทั้งปี ขยายตัวที่ 5% (ณ เดือนพฤษภาคม 2565) โดยมีปัจจัยปัจจัยเสี่ยงที่เป็นอุปสรรคสำคัญได้แก่
จับตา 6 ปัจจัยเสี่ยง
- สถานการณ์ข้อพิพาทระหว่างยูเครนและรัสเซีย
- ราคาพลังงานทรงตัวในระดับสูง
- ค่าระวางปรับลงเล็กน้อยแต่ยังทรงตัวในระดับสูง ในเส้นทางยุโรป
- แรงงานในภาคการผลิตขาดแคลนต่อเนื่อง ประกอบกับอาจมีแนวโน้มต้นทุนการจ้างงานที่ปรับตัวสูงขึ้น
- ปัญหาวัตถุดิบขาดแคลนและราคาผันผวน อาทิ เซมิคอนดักเตอร์, เหล็ก, แร่ธรรมชาติ, สินค้าอุปโภคบริโภคขั้นต้นและขั้นกลาง
- สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลายประเทศเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการ
แนะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
ทั้งนี้ สรท.มีข้อเสนอแนะได้แก่ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ขอให้ภาครัฐพิจารณาการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำโดยอ้างอิงจากปัจจัยการปรับขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อเป็นหลัก พร้อมทั้งบริหารจัดการอัตราเงินเฟ้อไม่ให้ปรับตัวสูงเกินกว่า 5% ภาครัฐต้องพิจารณาควบคุมหรือปรับลดค่าใช้จ่ายภาคประชาชนในการดำรงชีวิต เช่น ค่าเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และค่าพลังงาน รักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันในประเทศให้อยู่ระดับที่เหมาะสม ผ่านเครื่องมือหรือกลไกในการควบคุม ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการและผู้บริโภคมากเกินไป
ขณะเดียวกัน เร่งมองหาช่องทางขยายตลาดเพิ่มเติมทั้งกลุ่มตลาดศักยภาพระดับรองที่อาจเป็นโอกาสของสินค้าไทยที่สามารถทดแทนกลุ่มสินค้าที่เริ่มได้รับผลกระทบจากการชะลอคำสั่งซื้อจากประเทศรัสเซียและยูเครน เร่งกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าเพื่อยกระดับ/กระตุ้นให้เกิด Trade activity ในลักษณะ Exhibition / Business matching ระหว่างกันให้มากขึ้น รวมถึงเร่งผลักดันการค้าเข้าสู่ตลาด RCEP ให้มากที่สุด เพื่อใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลงดังกล่าว
ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศ
สำหรับภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนมกราคม-มีนาคมของปี 2565 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน พบว่า ไทยส่งออกรวมมูลค่า 73,601.4 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 14.9% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 2,401,444 ล้านบาท ขยายตัว 26.1% (เมื่อหักทองคำ น้ำมัน และอาวุธยุทธปัจจัย พบว่าการส่งออกในช่วงมกราคม-มีนาคมขยายตัว 8.7%
ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 74,545.3 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 18.4% และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 2,466,654 ล้านบาท ขยายตัว 29.9% ส่งผลให้ดุลการค้าของประเทศไทยในเดือนมกราคม-มีนาคมของปี 2565 ขาดดุลเท่ากับ 944 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 65,210 ล้านบาท
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ส่งออก-ท่องเที่ยว หนุนเศรษฐกิจไทยเดือน มี.ค. ยันเสถียรภาพเศรษฐกิจยังดี
- ‘จุรินทร์’ ปลื้ม! ส่งออกมี.ค.65 ยอดพุ่งกว่า 9 แสนล้านบาท สูงสุดรอบ 30 ปี
- ยอดส่งออกรถยนต์ มี.ค.65 ลดลง 10.21% ขณะที่ยอดขายในประเทศพุ่ง 9.14%