Economics

‘จุรินทร์’ ปลื้ม! ส่งออกมี.ค.65 ยอดพุ่งกว่า 9 แสนล้านบาท สูงสุดรอบ 30 ปี

“จุรินทร์” เผย “ส่งออกเดือนมีนาคม” ทำได้ 28,859.6 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 19.5% ขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่อง 13 เดือนติดต่อกัน มูลค่าสูงสุดในรอบ 30 ปี นับตั้งแต่บันทึกสถิติมา ยอดรวม 3 เดือน 73,601.4 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14.9% มั่นใจปีนี้ ส่งออกจะยังเป็นพระเอกกอบกู้เศรษฐกิจ คาดทั้งปีทะลุเป้าแน่ 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขการส่งออกเดือนมีนาคม 2565 มีมูลค่า 28,859.6 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 19.5% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 คิดเป็นเงินบาท มีมูลค่า 922,313 ล้านบาท ถือเป็นมูลค่าการส่งออกสูงที่สุดในรอบ 30 ปี นับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติการส่งออกตั้งแต่ปี 2534

การนำเข้ามีมูลค่า 27,400.6 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 887,353.2 ล้านบาท เกินดุลการค้า 1,459.1 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 34,960.1 ล้านบาท

6267b81f4c76d

ทั้งนี้ ยอดรวมการส่งออก 3 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-มี.ค.) มีมูลค่า 73,601.4 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14.9% คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 2,401,444.4 ล้านบาท การนำเข้ามีมูลค่า 74,545.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.4% คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 2,466,654 ล้านบาท ขาดดุลการค้ามูลค่า 944 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 65,209.6 ล้านบาท

สำหรับการส่งออกสินค้าสำคัญ 3 หมวด เพิ่มขึ้นทุกหมวด โดย สินค้าเกษตร เพิ่ม 3.3% สินค้าสำคัญที่เพิ่ม เช่น ข้าว เพิ่ม 53.9% ไก่แปรรูป เพิ่ม 6.6% มันสำปะหลัง เพิ่ม 6.3%

สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร เพิ่ม 27.7% สินค้าสำคัญที่เพิ่ม เช่น น้ำมันพืช เพิ่ม 350% โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม เพิ่ม 768.3% น้ำตาลทราย เพิ่ม 204.3% อาหารสัตว์เลี้ยง เพิ่ม 15.5% เครื่องปรุงรส เพิ่ม 9.7% อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เพิ่ม 2%

สินค้าอุตสาหกรรม เพิ่ม 20.6% สินค้าสำคัญ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เพิ่ม 71.9% โทรสาร โทรศัพท์ เพิ่ม 37.9% อัญมณีและเครื่องประดับ เพิ่ม 37.1% คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ เพิ่ม 36.9% และสินค้าที่เกี่ยวกับน้ำมัน เพิ่ม 15.5% แผงวงจรไฟฟ้า เพิ่ม 11% เครื่องมือแพทย์ เพิ่ม 10.6%

ตลาดส่งออกขยายตัวสูงสุด 10 อันดับแรก 

  1. สวิตเซอร์แลนด์ เพิ่ม 2,864.7%
  2. เอเชียใต้ เพิ่ม 36.4%
  3. อาเซียน เพิ่ม 34.8%
  4. ตะวันออกกลาง เพิ่ม 29.5%
  5. สหรัฐ เพิ่ม 21.5%
  6. สหราชอาณาจักร เพิ่ม14.5%
  7. เกาหลีใต้ เพิ่ม 14.5%
  8. ไต้หวัน เพิ่ม 9.4%
  9. แคนาดา เพิ่ม 9.2%
  10. สหภาพยุโรป เพิ่ม 6.9%

ส่วนรัสเซียและยูเครน มีผลกระทบจากสงครามชัดเจน โดยรัสเซีย ลด 73% และยูเครน ลด 66.3%    

ปัจจัยสำคัญ ที่ช่วยสนับหนุนตัวเลขการส่งออกในเดือนมีนาคม 2565 เพิ่มขึ้น มาจากนโยบายการส่งเสริม และผลักดัน Soft Power ของกระทรวงพาณิชย์ ที่เร่งรัดการส่งออกสินค้าใน 4 หมวดสำคัญ ได้แก่ อาหาร ดิจิทัลคอนเทนต์ สุขภาพความงาม และสินค้าอัตลักษณ์ไทย

นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำมาตรการเชิงรุก ผลักดันการส่งออกผลไม้ และการผลักดันการค้าชายแดน โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) ยังอยู่ในระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 21 ซึ่งคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐ ยุโรป เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย อาเซียน ยังอยู่ในระดับ 50 มีโอกาสที่จะซื้อสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้น

อัตราค่าระวางเรือจากไทยไปยุโรป เริ่มลดลง ในขณะที่บางเส้นทางไม่เพิ่มขึ้น และเงินบาทอ่อนค่าลงมา มีส่วนช่วยทำให้การส่งออกการแข่งขันในตลาดโลกได้ดีขึ้น

นายจุรินทร์กล่าวถึงแนวโน้มการส่งออกว่า หากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ไม่ซ้ำเติมไปมากกว่านี้ การส่งออกปีนี้ น่าจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยกระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าขยายตัวไว้ที่ 3-4% มูลค่า 280,000 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินบาทมูลค่าประมาณ 9 ล้านล้านบาท

เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ในขณะนี้ ทำได้แล้ว 2.4 ล้านล้านบาท ถ้าแต่ละไตรมาส ทำได้ประมาณนี้ เมื่อคูณ 4 เข้าไป ก็จะเป็น 9.6 ล้านล้านบาท ตัวเลขเกินเป้า แต่ยังเป็นแค่การประเมิน ต้องดูตัวเลขจริงต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo