Economics

‘ศักดิ์สยาม’ จี้ ‘รฟท.’ โอนทรัพย์สินให้บริษัทลูก เดินหน้าสร้างรายได้ 6 แสนล้านบาท ใน 30 ปี

“ศักดิ์สยาม” ตามการบ้าน เร่ง “รฟท.” โอนทรัพย์สินให้บริษัทลูกบริหาร ขีดเส้นต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 30 วัน เพื่อเดินหน้าตามเป้าหมาย 30 ปี สร้างรายได้ให้ รฟท. 600,000 ล้านบาท

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้า การจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารทรัพย์สินของ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่า ขณะนี้ รฟท. รายงานว่าได้มีการส่งมอบพื้นที่ให้กับบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ประกอบด้วย ที่ดินของรฟท. ที่มีสัญญาเช่าทั้งสิ้น 15,528 สัญญา

ศักดิ์ห้องประชุม

แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ดินที่มีสัญญาเช่าเดิม เช่น กลุ่มสัญญาเช่าที่ยังไม่หมดอายุสัญญา และสัญญาเช่าฝ่ายปฏิบัติการเดินรถเป็นคู่สัญญา กลุ่มพื้นที่ว่าง ประกอบด้วยโครงการพัฒนาที่ดินขนาดใหญ่ หรือ กลุ่มพื้นที่ออกจัดประโยชน์ใหม่ เช่น ที่ดินแปลงธนบุรี และที่ดินแปลงหัวหิน (โรงแรม)

สุดท้าย กลุ่มที่ไม่ส่งมอบให้เอสอาร์ที แอสเสท บริหาร ได้แก่ สัญญาเช่าหน่วยราชการ สัญญาทางเข้า-ออก สัญญาปักเสาพาดสาย และสัญญาลูกค้าขนส่งทางรถไฟ

นายศักดิ์สยาม บอกด้วยว่า ได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมตั้งคณะทำงาน ประกอบด้วย กรมการขนส่งทางราง (ขร.) สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง รฟท. เอสอาร์ที แอสเสท และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน

รฟท. และ เอสอาร์ที แอสเสท มีแผนดำเนินงานเพื่อกำหนดอัตราค่าบริหารดำเนินการ และลงนามในสัญญาจ้าง ซึ่งจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ในเดือนกันยายน 2565 หลังจากที่มีการลงนามในสัญญาแล้ว รฟท. จะเริ่มส่งมอบพื้นที่ให้ เอสอาร์ที แอสเสท

ประโยชน์ที่ รฟท.จะได้รับ คือ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ลดระยะเวลาการพิจารณาต่ออายุสัญญาเช่า หรือการออกจัดหาประโยชน์ใหม่ ลดต้นทุนการบริหารจัดการด้านบริหารทรัพย์สิน และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี ในการบริหารจัดการทรัพย์สิน

โครงการสถานีธนบุรี

นอกจากนั้น เอสอาร์ที แอสเสท ยังได้รายงานผลการดำเนินงานในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาว่าได้มีการดำเนินการ วางระบบที่เกี่ยวข้อง ถึงร่างระเบียบ/หลักเกณฑ์ รวมถึงศึกษาแนวทางการพัฒนาพื้นที่โครงการขนาดใหญ่ เพื่อเตรียมการเพื่อบริหารทรัพย์สิน และกำหนดเป้าหมายของการดำเนินธุรกิจ

บริษัทคาดว่าในปี 2566 จะมีประมาณการรายได้อยู่ที่ 4,000 ล้านบาท และปี 2570 จะมีประมาณการรายได้อยู่ที่ 8,000 ล้านบาท และในระยะ 30 ปี จะมีประมาณการรายได้รวม 600,000 ล้านบาท ซึ่งรายได้เหล่านี้ จะไม่รวมรายได้จากธุรกิจอื่น ๆ จากการตั้งบริษัทลูก

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า เอสอาร์ที แอสเสท ยังได้มีการเริ่มศึกษาโครงการต่างๆ จำนวน 4 โครงการ คือ

โครงการโรงแรมรถไฟหัวหิน แต่เนื่องจากปัจจุบันมีการแพร่ระบาดโควิด ส่งผลกระทบโดยตรงกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ จึงจำเป็นต้องทบทวนผลการศึกษาใหม่ และประเมินมูลค่าสิทธิการเช่าปัจจุบัน และสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงทรัพย์สินอื่นที่เกี่ยวข้องใหม่

ทั้งนี้ จะมีการเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่เพื่อให้สอดคล้องกับบริษัทสามารถเจราจากับผู้เช่าได้ เนื่องจากใกล้จะครบกำหนดสัญญา

โครงการบางซื่อ

โครงการฝั่งธนบุรี เป็นโครงการที่จะถูกพัฒนาให้เป็นศูนย์ทางการแพทย์ชั้นนำ และสังคมสีเขียว ผ่านการจัดทำแผนแม่บท

โครงการสถานีธนบุรี เอสอาร์ที แอสเสท ได้เสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการ และคณะทำงาน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ในการพัฒนาพื้นที่

โครงการบางซื่อ เป็นการศึกษาโครงสร้างของ Smart City Company ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการจ้างที่ปรึกษาจัดทำแผน และโครงการพื้นที่ตลอดแนวเส้นทางพระรามเก้า (RCA-คลองตัน)

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo