มัดรวมทุกอย่างเกี่ยวกับ ‘บัตรทอง’ ทั้งช่องทาง วิธีสมัคร การตรวจสอบสิทธิ รักษาอะไรได้บ้าง
“สิทธิบัตรทอง” หรือ “บัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า” ตามหลัก ประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนไทย โดยเป็นหลักประกันสุขภาพที่ภาครัฐช่วยให้ประชาชน เข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพและมีมาตรฐาน
คุณสมบัติประชาชนที่มีสิทธิบัตรทอง
เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย
มีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
ไม่มีสิทธิประกันสุขภาพจากหน่วยงานรัฐ ที่ใช้จ่ายจากเงินงบประมาณรัฐ (ประกันสังคม สิทธิรักษาพยาบาลข้าราชการสิทธิพนักงานส่วนท้องถิ่น ครูเอกชน รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน ข้าราชการการเมือง)
เด็กแรกเกิด ที่ไม่มีสิทธิรักษาพยาบาลข้าราชการจากบิดามารดา
บุตรข้าราชการที่บรรลุนิติภาวะ (อายุ 20 ปีขึ้นไปหรือ บรรลุนิติภาวะโดยการสมรส)และไม่มีสิทธิประกันสุขภาพจากหน่วยงานรัฐ
บุตรข้าราชการตั้งแต่คนที่ 4 ขึ้นไป (สิทธิข้าราชการคุ้มครองบุตรเพียง 3 คน)และไม่มีสิทธิประกันสุขภาพจากหน่วยงานรัฐ
ผู้ประกันตนที่ขาดการส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคม
ข้าราชการที่เกษียณอายุหรือออกจากราชการโดยมิได้รับบำนาญ
ผู้ประกอบอาชีพอิสระและไม่ได้เป็นผู้ประกันตน
ลงทะเบียน ใช้เอกสารอะไรบ้าง?
1.บัตรประชาชน (ตัวจริง) สำหรับเด็กที่ยังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ให้ใช้สูติบัตร (ใบเกิด)
2.หนังสือรับรองการพักอาศัย (กรณีที่อยู่ไม่ตรงตามบัตรประชาชน) พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของเจ้าบ้าน หรือหลักฐานอื่นที่แสดงว่าตนเองนั้นอาศัยอยู่จริง เช่น ใบเสร็จค่าน้ำ ค่าไฟ สัญญาเช่าที่พักฯลฯ
3.แบบคำร้องขอลงทะเบียน (ขอได้ ณ จุดรับลงทะเบียน)
ลงทะเบียนได้ที่ไหน?
1.สถานพยาบาลบัตรทoงใกล้บ้าน (คลิกที่นี่) กรุงเทพมหานครทำบัตรทoงได้ที่สำนักงานเขต จำนวน 19 เขต ตามชื่อที่อยู่ในทะเบียนบ้าน
2.สมัครบัตรทoงออนไลน์ 2564 ผ่านแอป สปสช.
ดาวน์โหลด แอป สปสช Google Play คลิก
ดาวน์โหลด แอป สปสช App Store คลิก
สมัครง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน
- คลิกแอปพลิชั่น สปสช.
- กดปุ่ม “ลงทะเบียน”
- กดอ่านเงื่อนไขข้อตกลง และกด “ยอมรับ”
- กรอกเลขบัตรประชาชน
- สแกนลายนิ้วมือหรือตั้งรหัสผ่านสำหรับเข้าสู่แอป เมื่อเข้าสู่หน้าหลักของแอปพลิเคชัน กดลงทะเบียนสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
- คลิกเลือก “ลงทะเบียนสิทธิหลักประกันถ้วนหน้า”
- ตรวจสอบที่อยู่ปัจจุบัน ว่าตรงกับหน้าบัตรประจำตัวประชาชนหรือไม่ กด “ไม่ตรง” หรือ “ตรง”
- ถ่ายรูปบัตรประชาชน
- ถ่ายรูปตัวเองถือบัตรประชาชน
- แนบหลักฐานแสดงที่อยู่ปัจจุบัน และเอกสารอื่นๆ ตามที่กล่าวมาข้างต้น
- กรอกที่อยู่ปัจจุบัน
- เลือกเครือข่ายหน่วยบริการ
นอกจากนี้ ยังสามารถสมัครบัตรทoง เพียงแอดไลน์ @nhso เพิ่มเพื่อนและดำเนินการตามขั้นตอน เมื่อระบบรับข้อมูลการลงทะเบียนและตรวจสอบหลักฐานแล้ว รอเกิดสิทธิตามรอบที่ระบุไว้ในแอปพลิเคชัน ซึ่งจะมีข้อความส่งมาแจ้งเตือนเขียนว่า “ขณะนี้สิทธิของท่านได้รับการลงทะเบียนแล้ว”
สิทธิบัตรทอง ใช้ทำอะไรได้บ้าง
สามารถเข้ารับการตรวจรักษาที่มีคุณภาพได้กับโรงพยาบาลรัฐ และหน่วยงานเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ ครอบคลุมการรักษาเกือบทุกกลุ่มโรค ตั้งแต่การคลอดลูก การผ่าตัด การทำหมัน การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคต่าง ๆ รักษาโรคร้าย มะเร็ง เบาหวาน รวมไปจนถึงการถอนฟัน อุดฟัน การทำฟันปลอม ให้สิทธิค่าห้อง ค่าอาหาร คุ้มครองดูแลสุขภาพเด็ก รวมถึงให้บริการคำปรึกษาด้านสุขภาพ เพียงแค่ยื่นบัตรประจำตัวประชาชนใบเดียว
เพิ่มเติม 4 บริการ
1.เจ็บป่วยรักษากับหมอประจำครอบครัวในหน่วยบริการปฐมภูมิไหนก็ได้ นำร่องใน จ.ขอนแก่น อุดรธานี นครราชสีมา อุบลราชธานี และ กทม.
2.โรคมะเร็งรับบริการที่ไหนก็ได้ ดำเนินการทั่วประเทศ
3.ย้ายหน่วยบริการได้สิทธิทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน ดำเนินการทั่วประเทศ
4.ผู้ป่วยในไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัว นำร่องใน จ.นครราชสีมา และ กทม.
โดย สปสช. ตั้งเป้าว่าในปี 2565 จะขยายบริการให้ผู้ป่วยใน ไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัวได้ทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วยและญาติ ในกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน จำเป็นต้องเข้ารับบริการจากหน่วยบริการอื่น
บัตรทอง ทำไม่ได้
บัตรทองจะไม่คุ้มครองการรักษาในระดับเกินความจำเป็นพื้นฐาน เช่น การผสมเทียม การทำเลเซอร์รักษาสิว ทำศัลยกรรมความงาม การแปลงเพศ และโรคเรื้อรัง เป็นต้น
“ตรวจสอบสิทธิบัตรทoง” ด้วยตนเอง
- ระบบอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ คลิก
- ไปติดต่อด้วยตัวเอง ที่ โรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สำนักงาานเขต กทม.(19 เขต) และ สปสช. เขตพื้นที่ 1-13
- โทรสายด่วน สปสช. 1330 กด 2 ตามด้วยหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลักและเครื่องหมาย #
วิธีเปลี่ยนหน่วยบริการ เปลี่ยนโรงพยาบาลสิทธิ ผ่านแอป LINE
พิมพ์ค้นหา @nhso ในช่องค้นหา
กดเมนู “เปลี่ยนหน่วยบริการด้วยตนเอง”
อ่านข้อตกลงในการให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลให้เรียบร้อย และกดยอมรับ
ระบุเลขบัตรประชาชน 13 หลัก แล้วกดถัดไป
ระบุข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม ได้แก่ ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด เลขหลังบัตรประชาชน แล้วกดถัดไป
กำหนดรหัสผ่าน 6 หลัก
กรอกหมายเลขโทรศัพท์เพื่อขอรับรหัส OTP
กรอกรหัส OTP ที่ได้รับ
ตรวจสอบที่อยู่ว่าที่อยู่ปัจจุบันและที่อยู่ตามบัตรประชาชนตรงกันหรือไม่
ถ่ายรูปบัตรประชาชน และถ่ายรูปเซลฟี่คู่กับบัตรประชาชน แล้วกดอัพโหลด
สแกน QR Code เพื่อดาวน์โหลดแบบคำร้อง
กด “เลือก” หน่วยบริการแห่งใหม่ที่ต้องการ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ถือบัตร ทองต้องรู้!! สปสช.แจงขั้นตอนรักษาโควิด ตั้งแต่ 16 มี.ค.เป็นต้นไป
- เริ่มวันแรก!! นายกฯ กำชับด่วน ประชาชนต้อง ‘เข้าใจ-เข้าถึง’ สิทธิ UCEP Plus
- ‘หมอนิธิพัฒน์’ ติงเกณฑ์ ‘ยูเซป พลัส’ หวั่นทำโรคลุกลาม แนะปรับค่าวัดไข้-ออกซิเจนในเลือด
