ชง ครม. เคาะ 4 โครงการใหญ่พยุงเศรษฐกิจอังคารนี้ (1 มิ.ย.) “บัตรคนจน-ผู้ต้องการความช่วยเหลือ-คนละครึ่ง–ยิ่งใช้ยิ่งได้” เทเงินรวม 1.4 แสนล้าน
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 จะมีการเสนอโครงการกระตุ้นและเยียวยาเศรษฐกิจจำนวน 4 โครงการ วงเงินรวม 1.4 แสนล้านบาท ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ได้แก่
1.โครงการเติมเงินให้ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) จำนวน 13.65 ล้านคน เดือนละ 200 บาท ระยะเวลา 6 เดือน ใช้งบประมาณ 1.64 หมื่นล้านบาท
2.โครงการเติมเงินให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนและเคยเข้าร่วมโครงการเราชนะ รวมทั้งกลุ่มผู้พิการและผู้สูงอายุด้วย จำนวน 2.5 ล้านคน เดือนละ 200 บาท ระยะเวลา 6 เดือน ใช้งบประมาณ 3,000 ล้านบาท
3.โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 เป็นการกระตุ้นกำลังซื้อผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง และช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยด้วย โดยจะเป็นการใช้จ่ายแบบร่วมจ่าย (copay) รัฐช่วยจ่ายวันละ 150 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการรวมเป็นเงิน 3,000 บาท ซึ่งจะแบ่งจ่ายไตรมาสที่ 3 และ 4 ไตรมาสละ 1,500 บาท ครอบคลุมประชาชน 31 ล้านคน โดยที่ผ่านมามีประชาชนเข้าร่วมโครงการแล้ว 15 ล้านคน สำหรับโครงการเฟส 3 นั้น จะเปิดให้เข้ามาลงทะเบียนรับสิทธิอีก 16 ล้านคน ใช้งบประมาณรวมกว่า 93,000 ล้านบาท
4.โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศผ่านผู้ที่มีกำลังซื้อ และสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) โดยจะมีการเปิดลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หลังจากที่ ครม.อนุมัติโครงการ กลุ่มเป้าหมาย 4 ล้านคน ใช้งบประมาณ 2.8 หมื่นล้านบาท
โดยโครงการนี้รัฐจะสนับสนุน e-Voucher สำหรับจ่ายค่าสินค้า อาหาร ค่าเครื่องดื่ม และค่าบริการ (ไม่รวมลอตเตอรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ น้ำมันและก๊าซสำหรับยานพาหนะ ค่าบริการนำเที่ยว ค่าที่พัก และค่าตั๋วเครื่องบิน) ในอัตรา 10-15% สูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน และยอดใช้จ่ายเพื่อคำนวณ e-Voucher ไม่เกิน 5,000 บาทต่อวันต่อคน
แบ่งเป็น 2 ต่อ ดังนี้ ต่อที่ 1 ใช้จ่าย 1-40,000 บาทแรก จะรับ e-Voucher 10% ของยอดชำระเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 4,000 บาทต่อคน และต่อที่ 2 ใช้จ่าย 40,001-60,000 บาท รับ e-Voucher 15% ของยอดชำระเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน
ทั้งนี้ วิธีการใช้จ่ายผ่านโครงการ จะต้องนำเงินเข้ามาในวอลเลตบนแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง โดยใช้จ่ายในการซื้อสินค้า/บริการ ที่จะได้รับ e-Voucher ช่วงกรกฎาคม-กันยายน 2564 จากนั้นจะได้รับ e-Voucher คืนทุกต้นเดือนถัดไปหลังมีการใช้จ่าย หรือช่วงสิงหาคม-ธันวาคม 2564 โดยวงเงินสิทธิที่ได้รับนั้น ก็จะเข้ามาในวอลเลตบนแอปเป๋าตังเช่นกัน ซึ่งไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้
“ทั้ง 4 โครงการ ครม. ได้เห็นชอบในหลักการไปแล้วเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ในรายละเอียดสุดท้ายจะออกมาอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ครม. ด้วย” นางสาวกุลยากล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โฆษกรัฐบาล ย้ำ ‘พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้าน’ มีกรอบใช้ชัดเจน-โปร่งใส แก้เศรษฐกิจหลังโควิด
- เหลือเชื่อ! คลังเผยเศรษฐกิจไทยเดือนเม.ย.ขยายตัวดี
- เช็คไทม์ไลน์ ‘ม33เรารักกัน เฟส 2’ ผู้ประกันตนรับ 2,000 บาทไม่ต้องลงทะเบียน
