เช็คเลย! ส่วนต่าง “ประกันราคาข้าว” งวด 3 เก็บเกี่ยวตั้งแต่ 15 พ.ย. เป็นต้นไป ถ้าหาก ครม. อนุมัติพร้อมจ่ายเงินทันที ขอให้มั่นใจ
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เปิดเผยว่า ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตาม โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2563/64 งวดที่ 3
โดยมีมติจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2563/64 ที่ระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 16 – 22 พฤศจิกายน 2563 จำนวน 5 ชนิด คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ, ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่, ข้าวเปลือกเจ้า, ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี และข้าวเปลือกเหนียว เพราะทุกชนิดยังมีราคาต่ำกว่าราคาเป้าหมายที่กำหนดตามโครงการที่ประกันรายได้
โดยผลการพิจารณาราคาตลาดปัจจุบันกับราคาที่เป้าหมายพบว่า ส่วนต่าง ประกันราคาข้าว งวด 3 เป็นดังนี้
- ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ อยู่ที่ตันละ 11,940.67 บาท มีส่วนต่างที่ต้องจ่ายตันละ 3,059.33 บาท
- ราคาข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 11,718.59 บาท มีส่วนต่างตันละ 2,281.41 บาท
- ราคาข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 8,963.80 บาท มีส่วนต่างตันละ 1,036.20 บาท
- ราคาข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 9,944.39 บาท มีส่วนต่างตันละ 1,055.61 บาท
- ราคาข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 11,003.42 บาท มีส่วนต่างตันละ 996.58 บาท
ทั้งนี้ ราคาข้าวในตลาดมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากยังคงมีความต้องการของตลาดสูงอยู่
ในส่วนของงบประมาณโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติเบื้องต้น เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 จะใช้สำหรับจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างราคาให้กับเกษตรกรในงวดที่ 1 และ 2 ที่แจ้งวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวจนถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 เท่านั้น
ส่วนการจ่ายเงินสำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 15 พฤศิจกายน 2563 เป็นต้นไป หรืองวดที่ 3 อยู่ระหว่างเสนอ ครม. พิจารณาอนุมัติ
โดยขณะนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ได้เตรียมเงินสำหรับจ่ายชดเชยโครงการ ประกันรายได้ ข้าวอย่างเพียงพอเรียบร้อยแล้ว และกระทรวงพาณิชย์ได้เสนอ ครม. เพื่อพิจารณาอนุมัติกรอบวงเงินชดเชยประกันรายได้ข้าว และเมื่อ ครม. อนุมัติก็จะโอนเงินให้เกษตรกรได้ทันที เมื่อ ครม. มีมติอนุมัติ
ทั้งนี้ จึงฝากไปถึงเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2563/64 กับกรมส่งเสริมการเกษตรว่าจะได้รับเงินตามโครงการอย่างแน่นอน
เตรียมจ่ายเงิน ประกันรายได้ “ยางพารา”
นอกจากความคืบหน้าเรื่องประกันราคาข้าว งวด 3 แล้ว โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 2 ก็เตรียมจะโอนเงินงวดแรกเข้าในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 และมีการกำหนดราคาประกันรายได้ดังต่อไปนี้
- ยางแผ่นดิบคุณภาพดี 60 บาทต่อกิโลกรัม
- น้ำยางสด (DRC 100%) 57 บาทต่อกิโลกรัม
- ยางก้อนถ้วย (DRC 50%) 23 บาทต่อกิโลกรัม
ทั้งนี้ รัฐบาลจ ะประกันรายได้ ให้เกษตรกรรายละไม่เกิน 25 ไร่ ให้คนกรีด 40% และเจ้าของสวน 60% วงเงินรวม 10,042 ล้านบาท
วิธีเช็คสิทธิ์ประกันราคายางพารา
ชาวสวนยางสามารถตรวจสอบสิทธิ์โครงการประกันรายได้เกษตรกรได้ง่ายๆ ดังนี้
- เข้าเว็บไซต์ www.rubber.co.th คลิกที่นี่
- คลิกเลือกประเภท “บุคคลธรรมดา”
- คลิกเลือกโครงการ “ตรวจสอบ ประกันรายได้ ระยะที่ 2”
- กรอกหมายเลขบัตประชาชน 13 หลัก
- กดปุ่ม “ตรวจสอบข้อมูล”
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยหรือไม่พบข้อมูลการขึ้นทะเบียน สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) สำนักงานใหญ่, กยท.จังหวัด และ กยท. สาขา ทั่วประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จี้เกษตรกร 1.8 ล้านคน รีบตรวจสอบสิทธิ์ ‘ประกันราคายางพารา’ รับเงิน 26 พ.ย.
- ‘หญิงหน่อย’ จี้รัฐเร่งจ่ายเงินประกันราคาข้าว ก่อนชาวนาหมดลมหายใจ!
- ชาวสวนยางมามุง! เปิดวิธีเช็คสิทธิ์ ‘ประกันราคายางพารา’ อีก 3 วันเงินเข้า