Economics

นักวิชาการแฉ ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ เกือบ 30% อยู่ในมือคนชั้นกลางถึงรวยสุด

“เดชรัต สุขกำเนิด” กางข้อมูล “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน” ทั้งตกหล่นและรั่วไหล เกือบ 30% ตกอยู่ในมือคนชั้นกลางถึงรวยสุด ด้านครอบครัวจนสุด 2 ใน 3 ไม่ได้ถือ

นายเดชรัต สุขกำเนิด อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความเกี่ยวกับนโยบาย บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว “Decharut Sukkumnoed” โดยอ้างอิงข้อมูลของ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ว่า นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน มีปัญหาเรื่องการตกหล่นและรั่วไหล

โดยมากกว่า 2 ใน 3 ของครัวเรือนยากจนที่สุด 40% แรกของประเทศ “ตกหล่น” ไม่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขณะเดียวกันบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก็มีปัญหา “รั่วไหล” ไปสู่กลุ่มที่ไม่จนจริง ประมาณ 29% ของผู้ได้รับบัตรฯ ทั้งหมด

บัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดชรัต

วิพากษ์ “บัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ”

“บัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั้งตกหล่นและรั่วไหล

ปัจจุบัน เวลารัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ หรือครัวเรือนเปราะบาง รัฐบาลก็มักจะใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นกลไกสำคัญ

ตัวอย่างเช่น หลังจากสถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลก็เพิ่มเงินเบี้ยความพิการเป็น 1,000 บาทต่อเดือน แต่มิได้ให้กับคนพิการทุกคน แต่จะให้กับผู้พิการที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น หรือล่าสุด ต้นสัปดาห์นี้ รัฐบาลเพิ่มวงเงินใช้จ่ายในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มขึ้นอีก 500 บาทต่อเดือน (เป็นเวลา 3 เดือน) และขยายเวลาการใช้น้ำประปาและไฟฟ้าไปอีก 1 ปี

แต่การใช้ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นกลไกที่ดีหรือไม่ ในการจัดสรรสวัสดิการสังคม

โดยทั่วไป การจัดระบบสวัสดิการของรัฐมักพบปัญหาทางสองแพร่ง

  • แพร่งหนึ่งคือ การตกหล่น หรือกรณีที่คนที่ควรจะได้รับความช่วยเหลือกลับไม่ได้รับความช่วยเหลือ (หรือเรียกว่า exclusion error)
  • ส่วนอีกแพร่งหนึ่ง เรียกว่า การรั่วไหล หรือกรณีที่คนซึ่งไม่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือกลับได้รับความช่วยเหลือ (หรือเรียกว่า inclusion error)

แน่นอนว่า รัฐบาลย่อมคิดว่า (หรือพยายามอ้างว่า) การแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีกระบวนการกลั่นกรองอย่างดี เพื่อที่จะป้องกันปัญหาการรั่วไหล (คนไม่จนได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) และพยายามลดปัญหาตกหล่น (คนจนทุกคนหรือเกือบทุกคนได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) ให้น้อยที่สุด

แล้วในความเป็นจริง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเกิดปัญหาตกหล่นหรือรั่วไหลหรือไม่?

ถ้าพิจารณาจากรายงานการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือนในปี พ.ศ. 2562 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งสำรวจพบว่า สมาชิกในครัวเรือนไทยที่ได้รับ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีประมาณ 20% ของสมาชิกในครัวเรือนทั้งประเทศ

ดังนั้น ถ้าคิดแบบคร่าวๆ จากตัวเลขนี้ก็แปลว่า ครัวเรือนกลุ่มที่มี รายได้น้อย ที่สุด 20% แรกของประเทศ ก็ควรได้รับสวัสดิการที่ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนี้ไปทั้งหมด (เพราะเป็นกลุ่มที่จนที่สุดในประเทศ) แต่การสำรวจดังกล่าวกลับพบว่า ครัวเรือนในกลุ่มนี้กลับได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพียง 33.1% ของสมาชิกครัวเรือนในกลุ่มที่จนที่สุดนี้เท่านั้น

พูดง่ายๆ ก็คือ สมาชิกประมาณ 2 ใน 3 ของครัวเรือนที่จนที่สุดนี้ กลับ “ตกหล่น” ไม่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

แต่หากเราลองขยับมาดูครัวเรือน 20% ที่มีรายได้มากกว่ากลุ่มแรก แต่ก็ยังถือว่า เป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อย ตามนิยามที่สภาพัฒน์ฯ และองค์กรระหว่างประเทศ มักเรียกกันว่า กลุ่มที่มี รายได้น้อย ที่สุด 40% ล่างของประเทศ สมาชิกของครัวเรือนในกลุ่ม 20% ที่สองนี้ก็ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพียง 28% ของสมาชิกครัวเรือนทั้งหมดในกลุ่มนี้เท่านั้น

ดังนั้น อาจสรุปได้ว่า แม้ว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะตั้งเป้าที่จะช่วยครัวเรือนยากจน แต่ครัวเรือนยากจนมากกว่า 2 ใน 3 ยังเข้าไม่ถึงบัตรสวัสดิการดังกล่าว หรือเรียกว่า “มีปัญหาตกหล่น” ชัดเจน

บัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดชรัต สุขกำเนิด

ในทางตรงกันข้าม ผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติยังพบว่า ครัวเรือน 20% ในกลุ่มที่ 3 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้ในขั้นกลางของประเทศ (และมักไม่ถือว่าเป็นครัวเรือนที่มี รายได้น้อย ของประเทศ) กลับได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วยประมาณ 18.2% ของครัวเรือนทั้งหมดในกลุ่มนี้

นอกจากนั้น ครัวเรือน 20% ในกลุ่มที่ 4 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้ค่อนข้างดี ก็ยังได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วยอีก 8.3% ของครัวเรือนในกลุ่มนี้ และแม้กระทั่งในกลุ่มครัวเรือน 20% ที่รวยที่สุดของประเทศ ก็ยังมีครัวเรือนอีก 2.8% (ของครัวเรือนในกลุ่มนี้) ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วยเช่นกัน

กล่าวได้ว่า หากใช้เกณฑ์ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยที่สุด 40% ของประเทศเป็นเกณฑ์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐก็มีปัญหา “รั่วไหล” ไปสู่กลุ่มที่ไม่จน ไปประมาณ 29% ของผู้ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั้งหมด

ดังนั้น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐจึงมีทั้งการ “ตกหล่น” และการ “รั่วไหล” ไปพร้อมๆ กัน

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐจึงยังไม่ใช่กลไกที่ดีในการจัดการระบบสวัสดิการในประเทศไทย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo