Economics

แบงก์เข้มสินเชื่อ! ฉุดยอดขายรถยนต์ในประเทศร่วง 21.4%

“ส.อ.ท.” เผยยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือนธันวาคมลดลง 21.4% หลังแบงก์เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ขณะที่ยอดขายรถทั้งปีอยู่ที่ 1,007,552 คัน ลดลง 3.3%

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เดือนธันวาคม 2562 มียอดขายรถยนต์ในประเทศ 89,285 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา คิดเป็น 21.4% เพราะการเข้มงวดของสถาบันการเงินในการอุมัติสินเชื่อรถยนต์ ประกอบกับเป็นช่วงเปลี่ยนรุ่นรถยนต์นั่งอีโคคาร์หลายบริษัทและเปลี่ยนรุ่นรถกระบะบางบริษัท แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2562 จำนวน 12.6% โดยมียอดจองรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์เดือนธันวาคม 2562 รวม 37,489 คัน

4C6A0148

ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2562 รถยนต์มียอดขายสะสมรวม 1,007,552 คัน ลดลงจากปี 2561 คิดเป็น 3.3% แต่ยอดขายยังทำได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าปี 2562 จะมียอดขาย 1 ล้านคัน โดยทำได้มากกว่าเป้าหมาย 7,552 คัน ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขายรวม 1,718,587 คัน ลดลงจากปี 2561 คิดเป็น 3.9%

ส่วนยอดผลิตรถยนต์เดือนธันวาคม 2562 มีการผลิตรวม 134,208 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็น 20.75% จากการผลิตรถยนต์นั่งและรถกระบะเพื่อส่งออกที่ลดลง 32.96% และ 15.35% ตามลำดับ สำหรับยอดผลิตรถยนต์รวมตลอดปี 2562 ผลิตได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะผลิตได้ 2 ล้านคัน โดยสามารถผลิตได้จริง 2.013 ล้านคัน เนื่องจากเดือนธันวาคม 2562 มีการผลิตรถยนต์อีโคคาร์รุ่นที่ 2 ได้ทันตามข้อตกลงตามเงื่อนไขการขอรับส่งเสริมการลงทุนที่ได้ทำไว้กับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ แต่ยอดผลิตปี 2562 ลดลงจากปีก่อนหน้าคิดเป็น 7.1%

รถยนต์ ภาพฟรี187622

ขณะที่การส่งออกรถยนต์เดือนธันวาคม 2562 มียอดส่งออกรวม 72,265 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา 24.26% การส่งออกลดลงทุกตลาด ยกเว้นตลาดตะวันออกกลางและแอฟริกา อเมริกากลางและอเมริกาใต้ ส่งออกชะลอตัวลงจากสงครามการค้า ส่วนยอดส่งอออกรถยนต์ตลอดปี 2562 มียอดส่งออกรวม 1,054,103 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็น 7.59% แต่การส่งออกยังทำได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1 ล้านคัน โดยส่งออกสูงกว่าเป้า 54,103 คัน มูลค่าส่งออกทำได้รวม 545,967.56 ล้านบาท ลดลงจากปี 2561 คิดเป็น 8.21%

ส่วนเป้าหมายการผลิตปี 2563 ตั้งไว้ที่ 2 ล้านคันเท่าปี 2562 เนื่องจากยังไม่มั่นใจสถานการณ์สงครามการค้าจะขยายไปได้สหภาพยุโรปหรือไม่ อีกทั้งค่าเงินบาทที่ยังคงเป็นอีกปัจจัยที่กังวล ประกอบกับผู้ผลิตรถยนต์บางค่ายมีการดึงรถส่งออกรถยนต์บางรุ่นไปผลิตที่ญี่ปุ่นหรือส่งออกฐานการผลิตจากประเทศอื่นแทนฐานการผลิตในไทย เพราะได้ราคาดีกว่าส่งออกจากประเทศไทย

Avatar photo