ยอดใช้น้ำมันเฉลี่ยต่อวันรอบ 8 เดือนโต กลุ่มเบนซิน เพิ่ม 3.9% ดีเซล 1.7% เหตุนโยบายราคาจูงใจ ส่วนเอ็นจีวี รัฐลดการอุดหนุน ส่งผลปริมาณการใช้ลดลง 11.1%
วันนี้ ( 4 ต.ค.) นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังาน สรุปภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันในรอบ 8 เดือนของปี 2562 (ม.ค. – ส.ค.) ว่า การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 32.12 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.9% เป็นการเพิ่มขึ้นของน้ำมันกลุ่มเบนซินเกือบทุกชนิด ยกเว้นน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ 91 โดยน้ำมันเบนซินมีการใช้ลดลงเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 0.98 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 12.5%
สำหรับภาพรวมการใช้น้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นจาก ช่วงเดียวกันของปีก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.14 ล้านลิตรต่อวัน คิดเป็น 4.5% โดยแก๊สโซฮอล์อี 20 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมากที่สุด อยู่ที่ 6.46 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 13.5%
เนื่องจากมีราคาต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 เฉลี่ยอยู่ที่ 2.97 บาทต่อลิตร จูงใจให้ผู้บริโภคหันมาใช้เพิ่มขึ้น รองลงมาเป็น แก๊สโซฮอล์ อี 85 มีปริมาณการใช้ เฉลี่ยอยู่ที่ 1.29 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 11.8% แก๊สโซฮอล์ 95 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 13.79 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 7.3%
ขณะที่แก๊สโซฮออล์ 91 การใช้ที่ลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 9.60 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 5.0% เนื่องจากราคาแก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 ใกล้เคียงกันโดยมีส่วนต่างเพียง 0.27 บาทต่อลิตร จึงทำให้ผู้บริโภคเลือกใช้น้ำมันชนิดที่มีค่าออกเทนสูงกว่า
การใช้กลุ่มน้ำมันดีเซลเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 64.92 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 1.7% โดยน้ำมันดีเซล บี 7 ปริมาณการใช้ลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 62.13 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 2.6% น้ำมันดีเซล บี10 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 0.005 ล้านลิตรต่อวัน
น้ำมันดีเซล บี 20 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 2.78 ล้านลิตรต่อวัน การใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี10 และบี20 ภาครัฐได้ใช้มาตรการกำหนดส่วนต่างราคาขายปลีกให้ถูกกว่าดีเซล บี7 อยู่ที่ 1 และ 5 บาทต่อลิตร ตามลำดับ
การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 19.30 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 0.1%
สำหรับก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) การใช้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 17.97 ล้านกก. เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 1.2% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของการใช้ภาคปิโตรเคมี โดยการใช้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 7.50 ล้านกก.ต่อวัน คิดเป็น 12.1%
ส่วนการใช้ในสาขาอื่นๆ มีปริมาณลดลง โดยภาคครัวเรือน มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 5.79 ล้านกก.ต่อวัน คิดเป็น 2.3% ภาคอุตสาหกรรม มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 1.81 ล้านกก.ต่อวัน คิดเป็น 3.4% และภาคขนส่งลดลงมากที่สุด มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 2.87 ล้านกก.ต่อวัน คิดเป็น 12.0%
ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 5.55 ล้านกก.ต่อวัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 11.1% โดยการใช้เอ็นจีวีลดลง เนื่องจากมีการปรับราคาเอ็นจีวี สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไปให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง
ประกอบกับนโยบายส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล บี 20 สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ ทำให้ประชาชน และรถบรรทุกสินค้าหันไปใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ และดีเซล บี 20 ทดแทน ส่งผลให้ปั๊มเอ็นจีวีนอกแนวท่อทยอยปิดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
ทางด้านภาพรวมการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นำเข้าน้ำมันดิบเฉลี่ย 8 เดือน อยู่ที่ 916,000 บาร์เรลต่อวัน หรือลดลง 5.0% มูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบ 59,648 ล้านบาทต่อเดือน
สำหรับน้ำมันสำเร็จรูปมีปริมาณนำเข้าเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 80,000 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 23.1% มูลค่า 5,270 ล้านบาทต่อเดือน สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่า มีการนำเข้าน้ำมันเบนซิน ดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา และน้ำมันอากาศยานเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่มีการนำเข้าแอลพีจีลดลง
เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่น และ Emergency Shutdown ทำให้ต้องลดปริมาณการนำน้ำมันดิบเข้ากลั่น กระทบต่อปริมาณการผลิตของผลิตภัณฑ์ทุกชนิด รวมถึงแอลพีจีด้วย ทำให้ต้องมีการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป เพื่อไม่ให้กระทบต่อความต้องการใช้ในประเทศ
การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปี 2561 อยู่ที่ 166,000 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 18.6% มูลค่าการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเฉลี่ย 11,283 ล้านบาทต่อเดือน โดยพบว่า มีการส่งออกน้ำมันเบนซิน ดีเซลพื้นฐานน้ำมันเตา และแอลพีจีลดลง ในขณะที่มีการส่งออกน้ำมันอากาศยานและก๊าดเพิ่มขึ้น
