“อนุทิน” หารือ ผู้ว่าฯ-เอกชน เคาะ 15 โครงการเร่งด่วน ชงครม.ของบกลาง 395 ล้าน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน 2
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันที่ 18 มีนาคม 2667 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดและภาคเอกชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (พะเยา เชียงราย น่านและแพร่)
โดยมีนายดนุชา พิชยนันทร์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี นายโชตนรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 เข้าร่วม ณ ห้องประชุมภูกามยาว ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดพะเยา และผ่านระบบออนไลน์
โดยการประชุมในครั้งนี้ เป็นการรับฟังข้อเสนอเพิ่มเติม ต่อเนื่องจากการประชุมบูรณาการร่วมภาครัฐและเอกชน เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2567
ชงครม.ของบกลาง 395 ล้าน
โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบ 15 โครงการ วงเงินลงทุนรวม 395.88 ล้านบาท เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ณ จังหวัดพะเยา ในวันที่ 19 มีนาคม 2567
ซึ่งทั้งหมดเป็นโครงการเร่งด่วนที่มีความพร้อมและสามารถดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายใน 1 ปี ประกอบด้วย โครงการของกลุ่มจังหวัด/จังหวัด 11 โครงการ วงเงิน 250 ล้านบาท และโครงการที่เป็นข้อเสนอของภาคเอกชน 4 โครงการ วงเงิน 145.88 ล้านบาท โดยทั้งหมดจะเป็นการขอรับการจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสํารองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น
นายอนุทิน กล่าวว่า การประชุมได้รับฟังข้อเสนอจากผู้แทนทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างครบถ้วน ซึ่งจะได้มีการสรุปและนำเสนอต่อที่ประชุม ครม. ในวันพรุ่งนี้ โดยมั่นใจว่า ครม. จะพิจารณาข้อเสนอต่างๆ เพื่อนำไปสู่การผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
15 โครงการเร่งด่วน
สำหรับโครงการที่ได้รับการอนุมัติเพื่อเสนอต่อ ครม. ในวันที่ 19 มีนาคม 2567 เป็นการการกลั่นกรองร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จากทั้งหมด จํานวน 89 โครงการ ใน 2 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 โครงการที่มีความพร้อมและดําเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี ที่สศช. สํานักงบประมาณ กระทรวงมหาดไทยร่วมกับจังหวัด ลงพื้นที่พิจารณากลั่นกรอง จํานวน 11 โครงการ
- โครงการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงอาหาร Gastronomy tourism สู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างสร้างสรรค์ และยั่งยืน วงเงิน 20 ล้านบาท
- โครงการ A Cup to Village เพิ่มขีดความสามารถการเป็นนวัตกรด้านชาและกาแฟเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน วงเงิน 15 ล้านบาท
- โครงการยกระดับสินค้าและบริการด้านสุขภาพของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 วงเงิน 15 ล้านบาท
- โครงการเชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Chiang Rai Wellness City) วงเงิน 50 ล้านบาท
- โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ วงเงิน 26.12 ล้านบาท
- โครงการยกระดับการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์เกษตรมูลค่าสูง ตามแนวทางตลาดนํา นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ จังหวัด พะเยา วงเงิน 23.88 ล้านบาท
- โครงการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันและยกระดับการท่องเที่ยวน่านสู่ท่องเที่ยวคุณภาพสูง วงเงิน 14 ล้านบาท
- โครงการน่านเมืองเก่ามีชีวิต สร้างสรรค์ เมืองแห่งวัฒนธรรมสู่มรดกโลก วงเงิน 21 ล้านบาท
- โครงการเกษตรปลอดภัยและมูลค่าสูง (กาแฟ) จังหวัดน่าน วงเงิน 15 ล้านบาท
- โครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองเก่าแพร่ วงเงิน 45 ล้านบาท
- โครงการยกระดับการผลิตภาคการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าจังหวัดแพร่ วงเงิน 5 ล้านบาท
กลุ่มที่ 2 โครงการซึ่งเป็นข้อเสนอของภาคเอกชน กลุ่มจังหวัดและจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 จํานวน 78 โครงการ ซึ่ง สศช. สํานักงบประมาณ จังหวัดและกลุ่มจังหวัด และภาคเอกชน ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว เห็นว่า มีความพร้อมและดำเนินแล้วเสร็จภายใน 1 ปี มีจํานวน 4 โครงการ วงเงินรวม 145.88 ล้านบาท ประกอบด้วย
- โครงการพัฒนาทางหลวงหมายเลข 1202 ตอนควบคุม 0200 ตอน สันต้นแหน – ป่าแดด ตําบลโรงช้าง อําเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย วงเงิน 50 ล้านบาท
- โครงการอํานวยความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมเชียงรายเมืองแห่งสุขภาพ (Chiang Rai Wellness City) วงเงิน 50 ล้านบาท
- โครงการพลิกโฉมถนนสายวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ Soft Power พะเยา วงเงิน 25.88 ล้านบาท
- โครงการสูบน้ำขึ้นดอย สอย PM5 สร้างป่าคาร์บอนเครดิต วงเงิน 20 ล้านบาท
เน้นความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์
นายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนที่เป็นข้อเสนอของเอกชนนี้มีอีก 1 กลุ่มโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางถนน ที่ประกอบไปด้วย 4 โครงการย่อย ที่ประชุมเห็นว่ามีความพร้อมในการดำเนินการเช่นกัน แต่เนื่องจากเป็นรายการที่จะได้รับการสนับสนุนตามงบประมาณรายจ่ายปี 2568 อยู่แล้ว ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติให้เสนอ ครม. อนุมัติเพื่อให้ดำเนินการขอใช้จ่ายจากงบประมาณประจำปี 2568 ต่อไป รวมวงเงิน 34.87 ล้านบาท
ประกอบด้วย โครงการปรับปรุงซ่อมแซมผิวถนน สายบ้านฝั่งหมิ่น บานนาก้า อําเภอเวียงสา จังหวัดน่าน วงเงิน 9.86 ล้านบาท โครงการปรับปรุงซ่อมแซมผิวถนน สายบ้านเด่น บ้านห้วยลี่ อำเภอเมืองน่าน วงเงิน 9 ล้านบาท โครงการปรับปรุงซ่อมแซมถนนสายบ้านนาก้อ -บ้านสบกอน 2 อำเภอปัว อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน 9.9 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงซ่อมแซม ถนนสายบ้านตอน บ้านป่าต้าง อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน 6.11 ล้านบาท
สำหรับอีก 74 โครงการ ที่เอกชนเสนอ แม้จะไม่ได้เสนอให้ได้รับการจัดสรรงบกลางในครั้งนี้ แต่จะมีการเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เพื่อมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการกำชับเร่งรัด เพื่อให้มีการดำเนินการตามข้อเสนอของภาคเอกชน เป็นไปตามแผนงานอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
“ที่ประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนในครั้งนี้ เห็นชอบในหลักการของโครงการของภาครัฐ 11 โครงการ และที่เอกชนได้นำเสนอ 4 โครงการ และให้นำเสนอต่อ ครม. ต่อไป ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการตามตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดและเร่งจัดทําข้อเสนอโครงการ โดยให้ความสําคัญกับความคุ้มค่า และผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการใช้จ่ายงบประมาณอย่างรอบคอบต่อไป” นายอนุทิน กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สุริยะ’ เช็กความคืบหน้า ‘สนามบินแม่ฟ้าหลวง’ เพิ่มขีดความสามารถ รองรับผู้โดยสารเป็น 6 ล้านคนในปี 2571
- นายกฯ ประกาศวิสัยทัศน์ ผลักดันไทย ‘ศูนย์กลางการบินของภูมิภาค’ สั่งอัปเกรดสนามบินทั่วประเทศ
- ‘อนุทิน’ ให้กำลังใจก้าวไกล ปมยื่นยุบพรรค ไม่ปิดกั้นหากสส.ไหลเข้าภูมิใจไทย
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg