Economics

‘พีระพันธุ์’ ลั่น ปี 2567 ‘รื้อทิ้ง’ ระบบทำประชาชนเป็นทุกข์ ดัน ‘เปิดเสรี’ นำเข้าน้ำมัน

“พีระพันธุ์” ประกาศ ขอทำงานหนักในปี 2567 รื้อทิ้งระบบที่ทำให้ประชาชนเป็นทุกข์ให้หมด เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน แม้ถูกต่อต้านก็ไม่หวั่น ลั่นพร้อมเดินหน้านโยบายเปิดเสรีการนำเข้าน้ำมัน

วันนี้ (1 ม.ค.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเพจ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค – Pirapan Salirathavibhaga อวยพรปีใหม่ประชาชนทั่วประเทศ พร้อมชี้แจงสิ่งที่ทำมาแล้วในปี 2566 และสิ่งที่จะทำต่อไปในปี 2567 โดยระบุว่า

พีระพันธุ์

ในศุภวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2567 ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล ที่พี่น้องประชาชนแต่ละท่านเคารพนับถือ โปรดดลบันดาล และอำนวยพรให้พี่น้องประชาชนทุกท่าน ประสบแต่ความสุข ความสำเร็จ มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง สมบูรณ์ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ คลาดแคล้วจากอุบัติเหตุอันตราย พบพานแต่สิ่งดี ๆ และคนดี ๆ ตลอดปีใหม่ 2567

สองวันก่อนทีมงานของผม ขอให้เล่าถึงสิ่งที่ “ทำแล้ว” ในรอบปี 2566 ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จริง ๆ ก็ต้องเล่ากันยาว เพราะในระยะเวลาสั้น ๆ 3 เดือนครึ่ง ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ผมทำงานแข่งกับเวลาทุกวัน

ผมได้ “ทำแล้ว” ให้พี่น้องประชาชนเยอะมาก ทั้งที่เป็นข่าว และไม่เป็นข่าว เฉพาะที่เป็นข่าวก็คือการลดค่าใช้จ่ายให้ ทั้งไฟฟ้า และน้ำมัน และจะยังคง “ทำอยู่” ต่อไปถึงเมษายน 2567 แม้เป็นมาตรการชั่วคราวภายใต้โครงสร้างพลังงานปัจจุบัน ที่ต้องไหว้วอน และขอความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่าย ก็ยังดีกว่าไม่ลงมือทำอะไร

ล่าสุด ก่อนสิ้นปี ผมได้มอบของขวัญเรื่องค่าก๊าซ NGV สำหรับรถแท็กซี่ และรถบริการสาธารณะบางประเภท ที่มาขอความเป็นธรรมเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 เป็นอีกเรื่องที่ “ทำจริง” ใช้เวลาดำเนินการเรื่องนี้เพียง 1 เดือนครึ่ง

เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ถ้าจะ “ทำจริง” ก็ทำได้ ไม่ว่าจะภายใต้โครงสร้างพลังงานที่ถูก หรือผิด แต่ถ้าจะ “ทำจริง” ก็ทำได้ทั้งนั้น โครงสร้างมันจะถูกจะผิดเดี๋ยวว่ากัน แต่วันนี้ “ลงมือทำ” ดีกว่า “รอไปก่อน” ถูกไหมครับ

พีระพันธุ์

ผมระลึกเสมอว่า ผมเข้ามาทำงาน มาทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชน ไม่ได้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตส่วนตัวของผม อะไรที่เป็นทุกข์ของประชาชนในความรับผิดชอบของผม ผมจะ “รื้อ” ทิ้งให้หมด

เพื่อ  “ลด” ภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน เพื่อ “ปลด” พันธนาการชีวิตจากค่าพลังงานที่ควบคุมไม่ได้ และจะ “สร้าง” ระบบพลังงานของประเทศขึ้นใหม่ ให้มีความเป็นธรรมอย่างมั่นคง และยั่งยืน เพื่อคนไทยและประเทศไทยของเรา ตามนโยบาย “รื้อ ลด ปลด สร้าง” และแนวทางการทำงานแบบ “สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง”  ของพรรครวมไทยสร้างชาติ

กว่าจะถึงวันนี้ ก็เป็นไปตามคาดเพราะต้อง “ต่อสู้” อย่างเข้มข้น ต้องขอบคุณประธานที่ปรึกษาของผม ณอคุณ สิทธิพงศ์ คณะที่ปรึกษา คณะทำงาน ปลัดกระทรวงพลังงาน ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดี ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานทุกคน ตลอดจนรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังทุกคน

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) นำโดยท่านประธาน เสมอใจ ศุขสุเมฆ รวมถึง กฟผ. ปตท. และอีกหลาย ๆ ท่าน ที่ช่วยกัน และร่วมมือกันเต็มที่ตามนโยบายแรก คือ “ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้ประชาชน” ที่สำคัญคือ นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ที่ให้การสนับสนุนการทำงานของผม และกระทรวงพลังงานตลอดมา ทั้งในฐานะนายกรัฐมนตรี และในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)

สำหรับสิ่งที่เตรียมจะ “ทำต่อ” ให้ดีขึ้นในปี 2567 จะไม่ใช่แค่การปรับโครงสร้าง แต่จะ “รื้อระบบ” ที่มีผู้ได้รับประโยชน์มหาศาลมายาวนาน ต่อไปผู้ที่จะได้ประโยชน์คือคนไทย และประเทศไทยเท่านั้น

แน่นอน ผมเชื่อว่าการรื้อครั้งนี้ จะมีคนคัดค้านมากมาย เพราะผู้ที่เคยได้ประโยชน์แบบรากงอก ต้องเสียประโยชน์มหาศาล คนเหล่านี้ที่ผ่านมาใช้ระบบ “สปอนเซอร์” เป็นเกราะคุ้มตัวตลอดมา แต่ผมไม่กลัว และจะทำ เพราะจะเป็นการ “รื้อ” เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ประเทศ และประชาชนแบบมั่นคงและยั่งยืน

ความจริงผมเริ่ม “รื้อ” มาแล้ว แต่ไม่ได้ประชาสัมพันธ์มากมาย ด้วยการโยกก๊าซธรรมชาติที่ได้จากอ่าวไทย ในส่วนที่นำไปใช้ผลิตปิโตรเคมีหากำไร เพื่อบริษัทในราคาต้นทุนต่ำ เท่ากับราคาต้นทุนก๊าซ LPG ที่นำมาให้ประชาชนใช้หุงต้มดำรงชีวิต ให้ไปอยู่ถูกที่ถูกทางใน Pool Gas ทำให้ต้นทุนการนำก๊าซธรรมชาติส่วนนี้ ไปใช้ในด้านปิโตรเคมีเพิ่มสูงขึ้น แต่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง และช่วยลดค่าไฟฟ้าให้ประชาชนลงได้ส่วนหนึ่งในครั้งล่าสุดนี้ด้วย

พีระพันธุ์

ความจริงมีการเรียกร้องเรื่องนี้มานานแต่ไม่มีใครทำ ผม “ทำแล้ว” โดยการเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีท่านนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ต้องขอบคุณคณะกรรมการ กพช. ด้วย

นอกจากนี้ ในปี 2567 ผมจะ “รื้อ” ระเบียบหลักเกณฑ์ เพื่อให้การใช้พลังงานไฟฟ้าจาก Solar Roof Top ภายในครัวเรือน เป็นไปโดยสะดวกไม่ยุ่งยากอีกต่อไป และจะเริ่มดำเนินการตามนโยบาย “เปิดเสรีการนำเข้าน้ำมัน” ด้วย

ผมขอขอบคุณจากใจจริงสำหรับกำลังใจจากทุกท่านและการเป็นกำแพงเหล็กให้ผมพิงในการทำงานตลอดปี 2566 ที่ผ่านมา

ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจครับว่าผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์ของประเทศไทยและคนไทยทุกคนอย่างแท้จริง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกท่านตลอดไป โดยเฉพาะในปี 2567 ที่สำคัญนี้ครับ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

Avatar photo