Economics

7 เดือนแรก ต่างชาติลงทุนไทยเฉียด 6 หมื่นล้านบาท ‘ญี่ปุ่น’ นำโด่งลงทุนสูงสุด

7 เดือนแรก ต่างชาติลงทุนไทย 58,950 ล้านบาท “ญี่ปุ่น” ขึ้นแท่นลงทุนอันดับหนึ่ง 19,893 ล้านบาท ตามด้วยสิงคโปร์ 12,925 ล้านบาท และจีน 11,663 ล้านบาท

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดี กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า ช่วง 7 เดือนปี 2566 (ม.ค.-ก.ค.) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จำนวน 377 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 122 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 255 ราย เม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 58,950 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 3,594 คน

ต่างชาติลงทุนไทย

ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่

  1. ญี่ปุ่น 84 ราย (22%) เงินลงทุน 19,893 ล้านบาท
  2. สหรัฐอเมริกา 67 ราย (18%) เงินลงทุน 3,044 ล้านบาท
  3. สิงคโปร์ 61 ราย (16%) เงินลงทุน 12,925 ล้านบาท
  4. จีน 28 ราย (7%) เงินลงทุน 11,663 ล้านบาท
  5. เยอรมนี 16 ราย (4%) เงินลงทุน 1,298 ล้านบาท

รวมถึง มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมแรงดันหลุมขุดเจาะปิโตรเลียม องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับการอัดฉีดซีเมนต์ในหลุมแท่นขุดเจาะปิโตรเลียม องค์ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนดำเนินการขุดสถานีใต้ดิน องค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในโครงการรถไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม และองค์ความรู้เกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหาในการใช้งานยางล้ออากาศยาน เป็นต้น

เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 พบว่า มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มขึ้น 54 ราย คิดเป็น 17% (เดือน ม.ค.-ก.ค. 66 อนุญาต 377 ราย / เดือน ม.ค.-ก.ค. 65 อนุญาต 323 ราย) มูลค่าการลงทุนลดลง 14,674 ล้านบาท คิดเป็น 20% (เดือน ม.ค-ก.ค. 66 ลงทุน 58,950 ล้านบาท / เดือน ม.ค.-ก.ค. 65 ลงทุน 73,624 ล้านบาท) และจ้างงานคนไทยเพิ่มขึ้น 286 ราย คิดเป็น 9% (เดือน ม.ค.-ก.ค. 66 จ้างงาน 3,594 คน / เดือน ม.ค.-ก.ค. 65 จ้างงาน 3,308 คน) โดยจำนวนนักลงทุนที่เข้ามาสูงสุดยังคงเป็นนักลงทุนญี่ปุ่น เช่นเดียวกับปี 2565

ต่างชาติลงทุนไทย

ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นโยบายการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อาทิ

  • บริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียมภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย
  • บริการบำรุงรักษาหลุมขุดเจาะปิโตรเลียมบนชายฝั่ง
  • บริการออกแบบ จัดซื้อ จัดหา ติดตั้ง ปรับปรุง พัฒนา ทดลองระบบ เชื่อมระบบ และการเปิดใช้งาน ตลอดจนการบริหารจัดการ สำหรับโครงการรถไฟฟ้า
  • บริการก่อสร้าง รวมทั้ง ติดตั้งและทดสอบเกี่ยวกับการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีควบคุมก๊าซธรรมชาติและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สำหรับโครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก
  • บริการออกแบบ จัดหา ติดตั้ง ตรวจสอบ ทดสอบ และบำรุงรักษา เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์และสำหรับที่ใช้ในสถานพยาบาล
  • บริการซอฟต์แวร์ ประเภท ENTERPRISE SOFTWARE และ DIGITAL CONTENT
  • บริการเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งให้บริการแก่กิจการของวิสาหกิจในเครือในต่างประเทศ

การลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ

การลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 73 ราย คิดเป็น 19% ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด มูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC 12,348 ล้านบาท คิดเป็น 21% ของเงินลงทุนทั้งหมด แบ่งเป็น

  • นักลงทุนจากญี่ปุ่น 31 ราย ลงทุน 5,379 ล้านบาท
  • จีน 12 ราย ลงทุน 893 ล้านบาท
  • เกาหลีใต้ 5 ราย ลงทุน 287 ล้านบาท
  • และประเทศอื่น ๆ อีก 25 ราย ลงทุน 5,789 ล้านบาท

ต่างชาติลงทุนไทย

โดยธุรกิจที่ลงทุน อาทิ

  1. บริการให้คำปรึกษาแนะนำด้านการบริหารจัดการกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
  2. บริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การออกแบบเครื่องจักร เครื่องกล เครื่องมือและอุปกรณ์
  3. บริการรับจ้างผลิตเครื่องจักร และชิ้นส่วนของเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรม
  4. บริการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนยานพาหนะ
  5. บริการออกแบบแม่พิมพ์โลหะสำหรับผลิตชิ้นส่วนยานยนต์

ทั้งนี้ เฉพาะเดือนกรกฎาคม 2566 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 51 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 20 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 31 ราย เม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 10,023 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 372 คน ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา โดยมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย

สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่

  • บริการให้ใช้ระบบแอปพลิเคชันที่ใช้สำหรับป้องกันการตรวจสอบการโทร
  • บริการออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล
  • บริการรับจ้างผลิตเครื่องจักร อุปกรณ์ อะไหล่ ชิ้นส่วนของเครื่องจักรที่ใช้ในระบบแปรรูปยางพารา และเครื่องจักรทั่วไป
  • บริการวิจัยและพัฒนาชิ้นส่วนยานพาหนะ
  • บริการพัฒนาซอฟต์แวร์เกมส์ออนไลน์และแอปพลิเคชัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK