ต่างชาติลงทุนไทย 5 เดือน 45,392 ล้านบาท ลดลง 18% จ้างงาน 2,999 คน ลด 23% แต่จำนวนผู้ลงทุนเพิ่ม 16%
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดี กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-พ.ค.) ได้มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 รวม 274 ราย เพิ่มขึ้น 16%
ทั้งนี้ เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 87 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 187 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 45,392 ล้านบาท ลดลง 18% จ้างงานคนไทยรวม 2,999 คน ลดลง 23%
สำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 63 ราย ร้อยละ 23 เงินลงทุน 15,873 ล้านบาท สหรัฐฯ 48 ราย ร้อยละ 18 เงินลงทุน 2,456 ล้านบาท สิงคโปร์ 46 ราย ร้อยละ 17 เงินลงทุน 6,356 ล้านบาท จีน 19 ราย ร้อยละ 7 เงินลงทุน 11,479 ล้านบาท และฮ่องกง 12 ราย ร้อยละ 4 เงินลงทุน 2,991 ล้านบาท
ในการเข้ามาลงทุนไทย ได้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมแรงดันหลุมขุดเจาะปิโตรเลียม การออกแบบระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในโครงการรถไฟฟ้า การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม เป็นต้น
ส่วนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตในช่วง 5 เดือนของปี 2566 ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นโยบายการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ตัวอย่างเช่น บริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียมภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย การบริหารจัดการโครงการรถไฟฟ้า บริการก่อสร้าง ติดตั้ง และทดสอบเกี่ยวกับการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีควบคุมก๊าซธรรมชาติและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ บริการกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) ฯลฯ
ขณะที่การลงทุนไทยในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ ช่วง 5 เดือน ของปี 2566 มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 48 ราย คิดเป็น 18% ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด โดยมีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 9,442 ล้านบาท คิดเป็น 21% ของเงินลงทุนทั้งหมด
ในจำนวนนี้ เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น 19 ราย ลงทุน 3,264 ล้านบาท จีน 9 ราย ลงทุน 752 ล้านบาท ฮ่องกง 3 ราย ลงทุน 2,920 ล้านบาท และประเทศอื่นๆ 17 ราย ลงทุน 2,506 ล้านบาท
ธุรกิจที่ลงทุน เช่น 1. บริการให้คำปรึกษาแนะนำด้านการบริหารจัดการกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ 2. บริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การออกแบบเครื่องจักร เครื่องกล เครื่องมือ และอุปกรณ์ 3. บริการรับจ้างผลิตเครื่องจักร และชิ้นส่วนของเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรม 4. บริการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ และ 5. การค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นการจัดซื้อสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น เพื่อค้าส่งในประเทศ
อย่างไรก็ตาม หากดูเฉพาะเดือนพฤษภาคม 2566 เดือนเดียว ได้มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 57 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 18 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 39 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 6,690 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 580 คน ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น สหรัฐฯ และสิงคโปร์
อ่านข่่าวเพิ่มเติม
- ‘เศรษฐา’ เผยต่างชาติห่วงตั้งรัฐบาลล่าช้า ทำการลงทุนชะงัก!
- เผย 4 เดือนแรกปี 66 ต่างชาติลงทุนใน EEC 7.5 พันล้าน ญี่ปุ่นลงทุนมากสุด ตั้งเป้า 10 ปี ดึงดูดลงทุน 2 ล้านล้าน
- หนุนการค้าการลงทุน ไทย-จีน เชื่อมโยงอีอีซี กับเขตพิเศษหลินกัง นครเซี่ยงไฮ้ สู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต
