“กระทรวงพลังงาน” ชง “กกพ.” คำนวณค่าเอฟทีงวดเดือนกันยายน-ธันวาคมใหม่ หลังราคา LNG อ่อนตัวลง
นายสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษก กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดวิกฤติราคาพลังงาน โดยสาเหตุหลักเกิดจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้ราคา LNG นำเข้ามีราคาสูงและค่อนข้างผันผวน และส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันติดตามและบริหารสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและดำเนินทุกมาตรการที่สามารถทำได้ เพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการ
โดยที่ผ่านมาได้ใช้ทั้งมาตรการปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงจาก LNG เป็นน้ำมันดีเซลในกรณีที่น้ำมันดีเซลมีราคาถูกกว่า การกลับมาเดินเครื่องโรงไฟฟ้าแม่เมาะเป็นการชั่วคราว การเร่งการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย การบริหารจัดการเพื่อนำก๊าซที่ภาคปิโตรเคมีใช้ลดลงเข้าสู่ภาคไฟฟ้าเพิ่มขึ้น การรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนและพลังน้ำจากประเทศเพื่อนบ้าน
รวมถึงการให้ กฟผ ช่วยรับภาระด้านต้นทุนเชื่อเพลิงแทนประชาชนเป็นการชั่วคราว และการออกมาตรการช่วยเหลือส่วนลดค่าเอฟทีให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าภาคครัวเรือนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วย ซึ่งกระทรวงพลังงานยังคงติดตามและทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าปรับลดลงและบรรเทาผลกระทบกับประชาชนและผู้ประกอบการ
ส่วนสถานการณ์ต้นทุนเชื้อเพลิงในรอบถัดไป (ก.ย.-ธ.ค.) กระทรวงพลังงานประเมินว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากราคา LNG นำเข้าจากตลาดจรได้อ่อนตัวลง การผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งกระทรวงพลังงานได้เสนอข้อคิดเห็นไปยังคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานถึงแนวทางที่อาจพิจารณาในการคำนวณค่าเอฟทีได้ อาทิ ผลประหยัดที่ได้จากส่วนต่างการประเมินราคาเชื้อเพลิงกับราคาที่เกิดขึ้นจริง ทั้งในรอบการคำนวณค่าเอฟทีในปัจจุบัน และรอบแรกของปี 2566 รวมถึงการบริหารภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงที่คงค้างอย่างเหมาะสม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘กกพ.’ เปิด 3 แนวทางเคาะค่าเอฟทีงวดใหม่ ต่ำสุด 4.45 บาท สูงสุด 6.28 บาท
- ไฟเขียว! หั่นค่าเอฟทีงวด พ.ค.-.ส.ค. เหลือ 4.70 บาท/หน่วย ลุ้น ‘กกพ.’ เคาะ!
- ลุ้น!! อนุกรรมการค่าไฟฯ เคาะหั่นค่าเอฟทีงวด พ.ค.-ส.ค. พรุ่งนี้