Economics

ส่งออกรถยนต์เดือน มี.ค. อยู่ที่ 98,381 คัน มั่นใจปีนี้ส่งออกตามเป้า 1.05 ล้านคัน

ส่งออกรถยนต์เดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ 98,381 คัน เพิ่มขึ้น 4.84% มั่นใจปีนี้ส่งออกตามเป้า 1.05 ล้านคัน ขณะที่ยอดการผลิตรถยนต์ คาดเป็นไปตามเป้าหมายที่ 1.95 ล้านคัน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยเดือนมีนาคม 2566 ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป อยู่ที่ 98,381 คัน เพิ่มขึ้น 4.84% จากเดือนเดียวกันปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 84,054 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.89% จากเดือนเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้ในช่วงไตรมาส 1/2566 (ม.ค.-มี.ค.) มียอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป รวมทั้งสิ้น 273,692 คัน เพิ่มขึ้น 12.57% จากไตรมาส 1/2565

ส่งออกรถยนต์

ขณะที่ยอดการผลิตรถยนต์สำเร็จรูปเดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ 179,848 คัน เพิ่มขึ้น 4.16% ส่วนไตรมาส 1/2566 มียอดการผลิตรถยนต์สำเร็จรูปรวมทั้งสิ้น 507,787 คัน เพิ่มขึ้น 5.77% จากไตรมาส 1/2565

ส่วนยอดการจำหน่ายรถยนต์สำเร็จรูปเดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ 79,943 คัน ลดลง 8.37% ส่วนไตรมาส 1/2566 มียอดการจำหน่ายรถยนต์สำเร็จรูปรวมทั้งสิ้น 217,073 คัน ลดลง 6.11% จากไตรมาส 1/2565

แนวโน้มราคารถยนต์ว่า มีโอกาสที่บางรุ่นจะปรับราคาเพิ่มขึ้น ในขณะที่บางรุ่นไม่สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากมีการแข่งขันสูง ประกอบกับมีปัจจัยกดดันจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น และหนี้ครัวเรือนของไทยที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นปัญหาต่อการพิจารณาปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงิน โดยเฉพาะรถกระบะ ซึ่งพบว่ามีสัดส่วนการเช่าซื้อสูงถึง 80% ดังนั้นจึงอาจจะทำให้ยอดการจำหน่ายรถกระบะยังมีโอกาสจะลดลงได้ต่อเนื่อง จากที่มีการลดลงมาตลอดในช่วง 3 เดือน

ส่งออกรถยนต์
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์

มั่นใจยอดส่งออกปีนี้ตามเป้า

นายสุรพงษ์ ยังเชื่อว่าในปีนี้ยอดการผลิตรถยนต์ จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 1.95 ล้านคัน เนื่องจากเฉพาะไตรมาสแรกปีนี้ ก็สามารถผลิตได้แล้วถึงกว่า 5 แสนคัน รวมทั้งยังเชื่อว่าการส่งออกรถยนต์ปีนี้ จะทำได้ตามเป้าที่ 1.05 ล้านคัน

อย่างไรก็ดี ต้องติดตามสถานการณ์ปัญหาสถาบันการเงินทั้งในสหรัฐอเมริกา และยุโรป เพราะเป็นปัจจัยใหม่ที่เพิ่มเข้ามา รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ที่อาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้นำเข้า รวมทั้งต้องจับตาปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่เริ่มมีความตึงเครียดมากขึ้นด้วย

“ตอนนี้มีปัจจัยลบใหม่เข้ามา คือ ปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐ และยุโรป ซึ่งแม้จะแก้ไขได้รวดเร็ว แต่อนาคตก็ยังไม่รู้จะมีอะไรเกิดขึ้น และยังมีการทยอยถอนเงินในธนาคารของอังกฤษอยู่ ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังมีปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งเหล่านี้จะบั่นทอนกำลังซื้อของประเทศคู่ค้า” นายสุรพงษ์ กล่าว

ส่งออกรถยนต์

ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าพุ่ง

ประเภทไฟฟ้า BEV

  • เดือนมีนาคม 2566 จดทะเบียนใหม่ 8,809 คัน เพิ่มขึ้น 527.8% จากเดือนมีนาคม 2565 ส่วนยอดจดทะเบียนใหม่สะสมช่วงมกราคม-มีนาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 21,052 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 624.93% ส่งผลให้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 53,087 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 272.41%

ประเภท HEV

  • เดือนมีนาคม 2566 จดทะเบียนใหม่ 8,828 คัน เพิ่มขึ้น 20.87% จากเดือนมีนาคม 2565 ส่วนยอดจดทะเบียนใหม่สะสมช่วงมกราคม-มีนาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 24,436 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 43.56% ส่งผลให้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 283,885 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 33.01%

ประเภท PHEV

  • เดือนมีนาคม 2566 จดทะเบียนใหม่ 1,178 คัน ลดลง 8.68% จากเดือนมีนาคม 2565 ส่วนยอดจดทะเบียนใหม่สะสม ช่วงมกราคม-มีนาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 3,388 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 14.11% ส่งผลให้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 45,763 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 34.19%

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo